ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนระบุว่า จีนควรปรับบรรทัดฐานใหม่ให้สอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน และควรมีความใจเย็นลงในภาวะเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัว ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์การเงิน เมื่อ พ.ศ. 2551 โดยพบว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2555 และ 2556 อยู่ที่ระดับร้อยละ 7.7 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด ตั้งแต่ พ.ศ. 2542 เป็นต้นมา ผู้นำจีนระบุด้วยว่า จีนยังคงอยู่ในยุคสมัยแห่งโอกาส ทำให้ต้องมีการเรียกความมั่นใจจากนักลงทุน และมีการแสวงหาความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจใหม่ๆ รวมทั้งควรมีมาตรการป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้น ขณะเดียวกันจีนต้องธำรงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ควบคู่กับการยึดมั่นในแนวทางการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยรัฐบาลจีนจะเดินหน้าสานสัมพันธ์กับนานาประเทศเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ ตลอดจนมุ่งส่งเสริมการปฏิรูป การปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ การพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน และป้องกันความเสี่ยงในด้านต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจจะเติบโต ท่ามกลางสังคมที่เข้มแข็ง ความเห็นของผู้นำจีนสอดคล้องกับผู้ว่าการธนาคารกลางจีนที่ระบุวานนี้ว่า นโยบายเศรษฐกิจระดับมหภาคของจีนควรมีเสถียรภาพ และไม่เห็นจำเป็นต้องมีการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเวลานี้
**9.36F174**