เมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดเหตุก่อกวนในหลายพื้นที่ของจังหวัดยะลา และนราธิวาส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ บาดเจ็บ 9 คนโดยในเขตเทศบาลสุไหงโกลก อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เกิดเหตุ 4 จุด จุดที่มีผู้เสียชีวิตคือ บริเวณหน้าโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก แยกทางสวนสิรินธรมีผู้เสียชีวิตคือนางซาลีตา มามะ อายุ 40 ปี
ส่วนในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส มีการโจมตีฐาน นปพ.ชุมชนตลาดล่าง ต.ปะลุรู มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ จำนวน 2 นาย และลอบวางเพลิง 4 จุด รวมถึง ร.ร.บ้านโคกตา
และที่ยะลา มีเหตุก่อกวนในพื้นที่ 5 อำเภอคือบันนังสตา อ.เมือง อ.ธารโต อ.กรงปินัง และ อ.ยะหา
ส่วนสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่าจากเหตุแผ่นดินไหว 6.3 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ซึ่งสร้างความเสียหายใน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่านและลำปาง ทั้งเกิดแผ่นดินไหวตามมา หรืออาฟเตอร์ช็อก ตามมาจนถึงเมื่อวานนี้ ทางศูนย์ประสานงานเพื่อตรวจสอบอาคารเนื่องจากภัยพิบัติแผ่นดินไหว ได้สรุปยอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 2 ศพ ที่เพิ่มเติมก็คือชายชราวัย 91 ปี ที่เสียชีวิตตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมเนื่องจากอาการหัวใจวาย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีเท่าเดิม คือ 23 คน
ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) เขต 15 เชียงราย กล่าวว่า จนถึงเมื่อวานนี้ยังมีประชาชนจำนวนมากที่ยังไม่กล้ากลับเข้าบ้าน เพราะกลัวแผ่นดินไหว และยังอยู่ในศูนย์ที่จัดเตรียมไว้
อย่างไรก็ตาม ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ(ศภช.) ประกาศสิ้นสุดระวังภัยแผ่นดินไหวแล้ว แม้ในพื้นที่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว อาจยังคงมีความสั่นไหวเล็กน้อย แต่จะลดลงจนเข้าสู่สถานะปกติในอีกประมาณ 7 - 10 วันข้างหน้า
ส่วนความเคลื่อนไหวที่กระทรวงสาธารณสุข วันนี้กลุ่มแพทย์จากโรงพยาบาลจากหลายจังหวัดจะร่วมกันให้กำลังใจ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่กระทรวง พร้อมทั้งจะแสดงพลังกดดัน นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข ที่มีคำสั่งสอบวินัยร้ายแรง นพ.ณรงค์ ข้อหาใช้งบประมาณกระทรวงสนับสนุนการชุมนุมกลุ่ม กปปส.
เช้าวันนี้ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือเอสเอ็มอีแบงก์ร่วมลงนามความร่วมมือโครงการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการตามแผนยุทธศาสตร์กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับ 21 หน่วยงาน
และติดตามค่าเงินบาทตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ หลังจากนักลงทุนต่างชาติขายทั้งหุ้นและตราสารหนี้ออกมาอย่างรุนแรงในสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทำให้มีการคาดการณ์ว่า ทิศทางค่าเงินบาทอ่อนตัวลง และมีโอกาสเห็นระดับ 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
วันนี้ติดตามการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เกี่ยวกับการตอบหนังสือของคณะกรรมการองค์กรอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน เรื่องขอให้ทบทวนมติการแจกคูปองส่วนลดซื้ออุปกรณ์ทีวีดิจิตอล ที่ต้องการให้ลดจาก 1,000 บาทต่อครัวเรือน เหลือ 512 บาทต่อครัวเรือน
ส่วนวันที่ 14 พฤษภาคม นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นัดหารือกับนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับข้อกฎหมาย และอำนาจหน้าที่หลังจากต้องมารับหน้าที่แทนนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่พ้นจากตำแหน่งตามคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ
ช่วงวันที่ 15-16 พฤษภาคม กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) จะลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎ์ธานี ตรวจความพร้อมของโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ก่อนการปิดซ่อมท่อก๊าซธรรมชาติของพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (เจดีเอ) ระหว่างวันที่ 13 มิถุนายน - 10 กรกฎาคม 2557 เนื่องจากผลการปิดซ่อมจะทำให้โรงไฟฟ้าจะนะ จังหวัดสงขลา กำลังผลิต 710 เมกะวัตต์ ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้
และวันที่ 16 พฤษภาคม ขสมก.จะเปิดโครงการ "ประชาชนเดินทางปลอดภัย ซ้ายตลอดจอดทุกป้าย (เมื่อผู้โดยสารจะขึ้น-ลง)"
ปิดท้ายที่เรื่องการศึกษา ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ที่ปรึกษา สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) เปิดเผยว่าเด็กด้อยโอกาสทางการศึกษาเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทยในขณะนี้ โดยพบว่ามีเด็กที่ไม่สามารถเข้าถึงการศึกษามากถึง 1 ใน 3 เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ และปัญหาเฉพาะตัว เช่น ไร้สัญชาติ และนอกจากปัญหาการเข้าไม่ถึงระบบการศึกษาแล้ว ยังมีปัญหาความเสี่ยงสูงที่เด็กจะออกจากการศึกษา โดยร้อยละ 60 หรือประมาณ 180,000 คน ที่หายไปก่อนถึงระดับอุดมศึกษา และมีประมาณร้อยละ 30 หรือ 270,000 คน ที่ยุติชีวิตการเรียนลงตั้งแต่ชั้น ม.3 กับอีกร้อยละ 10 หรือ 90,000 คน ที่หายออกจากระบบการศึกษาก่อนจบม.3 หรือภาคบังคับ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราต้องช่วยกันแก้ปัญหาเพราะนอกจากจะทำให้เด็กและเยาวชนเสียโอกาสแล้วยังทำให้ประเทศเสียโอกาสทางรายได้ด้วย
*-*