นายโรมัน ลีอากิน ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งเมืองโดเนตสก์ แถลงผลการลงประชามติเพื่อแยกตัวออกเป็นรัฐอิสระ โดยมีผู้ใช้สิทธิ์ร้อยละ 75 จากจำนวนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงราว 3 ล้านคน และร้อยละ 89 ของผู้ใช้สิทธิ์เห็นชอบให้เมืองโดเนตสก์แยกตัวออกจากยูเครน ซึ่งนอกจากเมืองโดเนตสก์แล้ว ยังมีเมืองใหญ่อีกหลายแห่งทางภาคตะวันออกของยุเครน อย่างลูฮันสตก์ ที่จัดการลงประชามติเพื่อแยกตัวออกเป็นเอกราชในวันเดียวกัน แต่ยังไม่ได้ประกาศผลอย่างเป็นทางการ ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าจะออกมาในรูปแบบเดียวกัน และภายใน 1 สัปดาห์นับจากนี้จะมีการจัดลงประชามติอีกครั้ง เพื่อผนวกดินแดนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
การจัดลงประชามติครั้งนี้ นอกจากทางการยูเครนจะไม่ยอมรับแล้ว กลุ่มประเทศตะวันตก ทั้งสหรัฐ เยอรมนีและอังกฤษก็ไม่ยอมรับเช่นกัน รวมถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียก็ต้องการให้เลื่อนการลงประชามติออกไปก่อน แต่นายบิล เทย์เลอร์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเครน เตือนทุกฝ่ายว่า อย่าเพิกเฉยต่อการลงประชามติทางภาคภาคตะวันออกยูเครน เนื่องจากการลงประชามติเมื่อเดือนมีนาคมของชาวไครเมียนำไปสู่การผนวกรวมดินแดนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกันสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานว่า การลงประชามติเต็มไปด้วยความสับสน เพราะไม่มีการจัดเตรียมคูหา และบัตรลงคะแนนไม่เพียงพอ กับยังมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คนเนื่องจากการแสดงท่าทีสนับสนุนรัฐบาลกลางยูเครน ซึ่งทำให้ทางการยูเครน ประกาศว่าเป็นการลงประมติที่จัดโดยกลุ่มอาชญากรรัสเซีย
**F163 11.00**