*ทันสถานการณ์โลก06.30น.*

+++เจ้าหน้าที่รัฐบาลไนจีเรีย เปิดเผยว่า รัฐบาลพร้อมเจรจาและเปิดกว้างทุกทางเลือกในความพยายามที่จะช่วยเหลือเด็กนักเรียนหญิงที่ถูกลักพาตัวไปเกือบ300คนจากกลุ่มหัวรุนแรงโบโกฮาราม ขณะที่ เครื่องบินสอดแนมของสหรัฐเริ่มปฏิบัติการบินเหนือประเทศแอฟริกาตะวันตกในภารกิจการค้นหาเด็กนักเรียน และกำลังพิจารณาที่จะใช้อากาศยานไร้คนขับหรือโดรน ในการค้นหา กลุ่มโบโก ฮารามที่ลักพาตัวเด็กนักเรียนหญิงจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในรัฐบอร์โนทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเมื่อเดือนที่แล้วได้เผยแพร่คลิปวิดีโอชิ้นหนึ่งเมื่อวันจันทร์ ระบุว่า เป็นเสียงของเด็กบางคนที่ถูกขังไว้

+++สำนักข่าวเอพี รายงานความคืบหน้าเหตุระเบิดและไฟไหม้ที่เหมืองถ่านหินแห่งหนึ่ง ที่เมืองโซมา จังหวัดมานิซา ทางตะวันตกของตุรกี มีคนงานไม่น้อยกว่า 200 -300 คนคนติดอยู่ภายในอุโมงค์เหมือง ซึ่งเป็นช่วงเวลาเปลี่ยนกะการทำงาน ทำให้ไม่แน่ชัด ด้านสำนักงานจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินและภัยพิบัติ ส่งเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติการกู้ภัยขนานใหญ่แล้ว และสามารถช่วยคนงานได้ราว 20 คนแล้ว แต่พบผู้เสียชีวิตประมาณ 15-17 ศพ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ บาดเจ็บ 11 คน มีการคาดการณ์ว่า เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรภายในเหมือง จนอุโมงค์เหมืองพังถล่ม อย่างไรก็ตาม นายกเทศมนตรีท้องถิ่นเชื่อว่าอาจมีผู้เสียชีวิตมากถึง 15ศพ บาดเจ็บ 75 คน

+++จีนและเวียดนามต่างอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนในทะเลจีนใต้ทั้งหมู่เกาะพาราเซลและหมู่เกาะสแปรตลีย์  เกิดปัญหาขึ้น หลังจากที่ จีนเคลื่อนย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันเข้าไปยังน่านน้ำที่เป็นกรณีพิพาทระหว่างกัน  ทำให้คนงานหลายพันคนของเวียดนาม ผละงานประท้วงที่นิคมอุตสาหกรรมทางตอนใต้ เนื่องจากมองว่า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและส่งเรือออกไปยังบริเวณน่านน้ำดังกล่าว

+++นายหวาง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศจีน ยกปัญหาความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ระหว่างการหารือกับนายจอห์น แคร์รีรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ขอให้นายแคร์รีวางตัวเป็นกลาง ระมัดระวังคำพูดและการกระทำด้วย โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงว่า ขณะที่ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นในทะเลจีนใต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ภายหลังจีนยืนยันแผนการขุดเจาะน้ำมันขนาดใหญ่ในพื้นที่ซึ่งเวียดนามก็อ้างสิทธิครอบครองเช่นกัน  ขณะที่แต่ละประเทศต่างกล่าวหากันและกันว่าขนส่งเรือเข้ามาใกล้หมู่เกาะพาราเซลซึ่งเป็นพื้นที่พิพาท  ทั้งนี้จีนอ้างสิทธิเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ โดยไม่สนใจเสียงคัดค้านจากเวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน มาเลเซียและบรูไนที่ต่างอ้างสิทธิในพื้นที่บางส่วนเช่นกัน อีกด้านหนึ่งจีนยังมีข้อพิพาททางทะเลกับญี่ปุ่นด้วย

+++หลังจากที่รัฐบาลเกาหลีเหนือปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครื่องบินสอดแนมไร้คนขับ 3 ลำ ที่ตกอยู่บริเวณชายแดนเกาหลีใต้เมื่อไม่นานมานี้ ทำให้นายคิม มิน ซอก โฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า จะเป็นการดีที่สุด หากเกาหลีเหนือจะอันตรธานหายไปอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คำพูดดังกล่าวทำให้เว็บไซต์อูริมินซอกกิริ ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของทางการเกาหลีเหนือ กล่าวว่า นายคิม ควรจะเตรียมตัวชดใช้ค่าเสียหายที่สูงลิ่วจากการแสดงความเห็นที่ไม่ระมัดระวังและถือเป็นการหมิ่นประมาท และเกาหลีเหนือจะไม่นิ่งเฉย

+++นายอาร์เซนนี ยัตเซนยุค นายกรัฐมนตรีรักษาการของยูเครนและบรรดาเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป(อียู) ลงนามในข้อตกลงเงินกู้จำนวน1,000ล้านยูโรหรือ 1,370ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 43,840ล้านบาทเป็นความพยายามช่วยเหลือของอียูที่มีต่อรัฐบาลยูเครน เพื่อช่วยเหลือให้สถาบันต่างๆ ของยูเครนมีความแข็งแกร่ง เงินก้อนโตนี้อาจเป็นการช่วยให้รัฐบาลยูเครนนำไปใช้จ่ายค่าก๊าซธรรมชาติที่ซื้อจากรัสเซีย ความช่วยเหลือของอียูอยู่บนเงื่อนไขที่ว่ารัฐบาลยูเครนให้คำมั่นว่าจะปฏิรูปงบประมาณและเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรียูเครนกล่าวขอบคุณอียู โดยระบุว่ารัสเซียจะประสบกับความล้มเหลวที่จะทำให้ยูเครนเป็นรัฐล้มเหลว

+++นายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ(ยูเอ็น)แถลงว่านายลัคห์ดาร์ บราฮิมี ขอลาออกจากตำแหน่งทูตพิเศษของยูเอ็น-สันนิบาตอาหรับประจำซีเรียในวันที่ 31พ.ค.นี้ หลังจากใช้เวลานานเกือบ 2 ปี แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จในการนำสันติภาพกลับคืนมาสู่ประเทศที่เผชิญสงครามกลางเมืองอย่างซีเรีย แต่เขาก็ให้คำมั่นว่าจะยังคงทำงานต่อไปเพื่อให้บรรลุสันติภาพให้ได้นายลัคห์ดาร์บราฮิมี เข้ารับตำแหน่งทูตพิเศษขของยูเอ็น-สันนิบาตอาหรับสืบต่อจากเพื่อนสนิทของเขาคือ นายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการยูเอ็น ซึ่งเคยบอกว่าเป็นงานที่ยุ่งยากและลำบากที่สุด

+++องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรท์วอทช์ เปิดเผยว่า มีหลักฐานชัดเจนว่า รัฐบาลซีเรียใช้แก๊สคลอรีนโจมตี 3 เมืองในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการละเมิดสนธิสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมีที่รัฐบาลซีเรีย ลงนามเข้าร่วมเป็นภาคีเมื่อปีที่แล้ว ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวว่า มีหลักฐานแน่นหนาที่ระบุว่า เฮลิคอปเตอร์ของรัฐบาลซีเรียทิ้งระเบิดที่มีถังคลอรีนฝังอยู่เพื่อโจมตีเมือง 3 แห่ง ทางภาคเหนือ ซึ่งเป็นเขตยึดครองของกลุ่มต่อต้าน  ฮิวแมนไรท์วอทช์ อ้างคำให้สัมภาษณ์ของพยานผู้เห็นเหตุการณ์และเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ รวมทั้งวิดีโอและภาพถ่ายชิ้นส่วนที่เหลือของระเบิดถัง แพทย์ที่ให้การรักษาผู้เคราะห์ร้ายกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ศพ จากเหตุโจมตีดังกล่าวและพบผู้ที่มีอาการของคนที่สัมผัสกับคลอรีนอีกเกือบ 500 คนฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวด้วยว่า การใช้แก๊สคลอรีนในการโจมตีในครั้งนี้เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติควรจะนำเรื่องสถานการณ์รุนแรงในซีเรียไปให้ศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศพิจารณา

+++ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ แสดงความยินดีต่อการเลือกตั้งทั่วไปของอินเดีย พร้อมให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำงานร่วมกันกับรัฐบาลใหม่อินเดีย อย่างใกล้ชิด โดยนายโอบามา กล่าวว่า อินเดียถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของโลกในการจัดการเลือกตั้งประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ทั้งนี้การเลือกตั้งทั่วไปซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่7 เม.ย.ที่ผ่านมาแบ่งเป็น 9ช่วงเวลา ใช้เวลา 36วัน ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ ซึ่งคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งกล่าวว่ามีผู้ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งสูงเป็นประวัติการณ์ถึงร้อยละ66.38 จากจำนวนผู้มีสิทธิ์ทั้งสิ้น814 ล้านคนเป็นการแข่งขันกันระหว่างพรรคคองเกรสซึ่งเป็นรัฐบาล และพรรคชาตินิยมฮินดูภาราติยะ ชนตะ หรือบีเจพีฝ่ายค้าน ส่วนการนับคะแนนจะมีขึ้นในวันศุกร์นี้

+++ตลาดหุ้นอินเดีย ปิดบวกต่อเนื่อง ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล 3 วันติด ก้าวผ่านระดับจิตวิทยา 24,000 จุด จากความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของประเทศ หลังเอกซิตโพลระบุพรรคบีเจพีและพันธมิตร จะชนะเลือกตั้งและครองเสียงข้างมากในสภา นักวิเคราะห์ เชื่อว่า จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวของประเทศ

+++ขณะที่ ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดผสมผสาน โดยดาวโจนส์และเอสแอนด์พี500 แตะระดับสูงสุดตลาดกาลเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 19.97 จุด  ปิดที่ 16,715.44 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.80 จุด ปิดที่ 1,897.45 จุด ส่วนแนสแดค ขยับลงท่ามกลางความกังวลว่ากลุ่มเทคโนโลยีอาจมีมูลค่าสูงเกินจริง  แนสแดค ลดลง 13.69 จุด  ปิดที่ 4,130.17 จุด

+++ราคาทองคำ ปิดลบในกรอบแคบๆ นักลงทุนทบทวนยอดค้าปลีกสหรัฐ แต่โดยรวมแล้วก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงมุมมองที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ที่เชื่อว่าน่าจะเติบโตเหนือคาดหมาย ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 1.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,294.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++ราคาน้ำมัน ปิดบวกพอสมควร หลังเจ้าหน้าที่สหรัฐ เปิดเผยว่า อาจยกเลิกห้ามส่งออกน้ำมันดิบ สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐ งวดส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 101.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 83 เซนต์ ปิดที่ 109.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 +++เกิดเหตุวางระเบิดรถยนต์ หรือคาร์บอมบ์หลายระลอกในย่านของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ในกรุงแบกแดดของอิรัก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 25 ศพ บาดเจ็บอีก 80 คน นับเป็นเหตุโจมตีครั้งใหญ่ครั้งแรกในกรุงแบกแดดนับตั้งแต่มีการเลือกตั้งเมื่อเดือนที่แล้วเหตุโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังนับคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเมื่อวันที่ 30 พ.ค. ท่ามกลางกระแสความรุนแรงที่ยืดเยื้อ คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 3,300 คนในปีนี้ โดยรัฐบาลอิรักกล่าวหาว่า เป็นผลพวงจากปัจจัยภายนอก เช่น สงครามกลางเมืองในซีเรีย ประเทศเพื่อนบ้านที่ทำให้สถานการณ์ในอิรักทวีความรุนแรงขึ้นในปีนี้  ยังไม่มีกลุ่มใดออกมายอมรับเป็นผู้ก่อเหตุโจมตี

+++ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขซาอุดีอาระเบีย เปิดเผยว่า พบผู้เสียชีวิตจากไวรัสเมอร์สอีก 5 ศพ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 147 ศพ และมีจำนวนผู้ติดเชื้อเท่าที่ได้รับการยืนยัน 491 คน ทางการซาอุดีอาระเบีย ออกคำเตือนล่าสุดในการดูแลอูฐ ซึ่งเชื่อว่าแหล่งต้นตอของเชื้อไวรัสเมอร์ส โดยแนะให้ผู้เลี้ยงต้องสวมหน้ากากและถุงมือเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส ขณะที่มีรายงานการติดเชื้อรายใหม่เกือบรายวัน