*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ช่วงแรกเวลา 07.30น.*

+++ติดตามการหารือร่วมกันระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กับนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อกำหนดออกพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.)เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ว่าจะมีการเลื่อนวันเลือกตั้งจากเดิมกำหนดไว้วันที่ 20 ก.ค. หรือไม่ เบื้องต้น นายนิวัฒน์ธำรง ยืนยัน ในหลักการเดิมที่เคยหารือกันไว้ในครั้งแรก แต่กำหนดเวลาอาจจะขยับได้บ้าง ถ้าเป็นกำหนดการเดิมได้ก็คงดี แต่ถ้าจำเป็นที่จะขยับบ้าง ก็ต้องมาคุยกัน  ส่วนเรื่องที่ กกต.มีข้อสงสัยในอำนาจหน้าที่ของปฏิบัติหน้าที่แทนอำนาจนายกรัฐมนตรี และอาจเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ต้องเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป นายนิวัฒน์ธำรง ยืนยันว่า มีสิทธิ์ และอำนาจเต็มตามกฎหมายทุกอย่าง

 +++ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร 1 ใน กกต.เปิดเผยว่า เช้านี้ กกต.อาจจะหารือกันก่อน เบื้องต้น คงจะเสนอรัฐบาลรักษาการ 1 ข้อ คือ ต้องให้อำนาจ ประธาน กกต.ในการเลื่อนพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งออกไปได้ หากพิจารณาแล้วมีเหตุจำเป็นต้องเลื่อนออกไป อย่างกรณียังมีความขัดแย้งทางการเมืองอยู่ หากยังเดินหน้าจัดเลือกตั้งอาจไม่สำเร็จ อย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเป็นต้น ซึ่งหากรัฐบาลตอบรับก็เชื่อว่ามีโอกาสสามารถจัดการเลือกตั้งได้ ขณะที่หากสุดท้ายการหารือยังมีความเห็นขัดแย้งกันอยู่ระหว่างรัฐบาลกับกกต. อาจต้องนำข้อขัดแย้งยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ.ตีความตามรธน. ม.214 หรือไม่ ก็ต้องรอความชัดเจนในวันนี้

+++อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า อาจจะไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจาก ทีมที่ปรึกษากฎหมายกกต. เสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาชุดใหญ่พิจารณาความชัดเจนข้อกฎหมายว่า นายนิวัฒน์ธำรง จะมีอำนาจทูลเกล้าฯ ถวายร่างพระราชกฤษฎีกา เลือกตั้งได้หรือไม่

+++ขณะที่ 12.00น.วันนี้ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่ประธานวุฒิสภา นัดตัวแทนจากองค์กรอิสระและภาคเอกชน เข้าร่วมหารือ เช่น กกต. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา เป็นต้น เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายในบ้านเมืองได้แสดงความเห็นให้เป็นการหาทางออกของประเทศร่วมกัน ขณะที่ที่ประชุมวุฒิสภา นอกรอบ มีมติตั้งคณะทำงาน 2 ชุด ช่วยนายสุรชัย แก้ปัญหาวิกฤติประเทศ คาดว่า จะได้ข้อสรุปในวันศุกร์นี้

 +++ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับที่ประชุมวุฒิสภา นอกรอบด้วย  นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอสนับสนุนวุฒิสภาในการเข้าพบองค์กรต่างๆ เห็นด้วยที่จะให้คณะกรรมการกฤษฎีกาทั้ง 12 คณะ (ชุดใหญ่) หารือโดยนำประสบการณ์และความรู้ทางกฎหมายมาชี้ทางออกให้กับสังคม ส่วนตัวมองว่าปัญหาปัจจุบันมีวิธีแก้ไขที่ดีที่สุด คือ ให้ผู้มีอำนาจเปิดทาง แต่ก่อนให้รัฐบาลเปิดทางต้องตอบคำถามที่สร้างความกังวลใจกับรัฐบาล คือ หากออกจากอำนาจ จะเลือกตั้งได้หรือไม่ และจะใช้เวลาอีกนานเท่าไรสถานการณ์จึงเข้าสู่ภาวะปกติ

 +++นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ เปิดเผยว่า สภาทนายความ ออกแถลงการณ์ว่า รักษาการนายกรัฐมนตรีและรักษาการรัฐมนตรีทั้งคณะ ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจนหมดอำนาจบริหารไปแล้ว รวมทั้งกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรซึ่งได้มี พ.ร.ฎ.ยุบสภาไป เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 ซึ่งประธานวุฒิสภาหรือรองประธานวุฒิสภาผู้ทำหน้าที่ประธานวุฒิสภาตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภาซึ่งเป็นกฎหมายอนุบัญญัติรองจากรัฐธรรมนูญ คือการพิจารณาแต่งตั้งผู้มาดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญได้ ดังนั้น จึงชอบที่จะนำมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญมาวินิจฉัยกรณีนี้ได้

 +++นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยกรณีที่นายสุรชัย เรียกประชุมนอกรอบพร้อมให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เข้าหารือที่ห้องรับรองร่วมกับส.ว.กลุ่มหนึ่ง ว่า นายสุรชัยทำนอกเหนืออำนาจส่อไปในทางผิดกฎหมาย สนับสนุนและทำความผิดร่วมกับนายสุเทพ เข้าข่ายผิดกฎหมายอาญามาตรา113 ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย จะไปยื่นเรื่องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อเอาผิดนายสุรชัย และกลุ่ม 40 ส.ว.

 +++ติดตามท่าทีของกลุ่ม กปปส.ที่เวทีหน้าสหประชาชาติ ภายหลังจากออกแถลงการณ์ย้ำจุดยืนในการสนับสนุนให้สมาชิกวุฒิสภาเสนอชื่อบุคคลขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนกลาง ผ่านมาตรา 7 จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมแกนนำ อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 2  กล่าวว่า ประเทศอยู่ในภาวะที่ไม่มีนายกรัฐมนตรี ส่วนผู้ที่อ้างว่ารักษาการนายกฯ ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย หากปล่อยไปจะส่งผลเสียหายต่อประเทศปัญหาเศรษฐกิจของประเทศมีมากขึ้น จนจะเข้าสู่สภาวะชะงักงันและผู้ที่อ้างว่าเป็นรักษาการก็ไม่สามารถใช้นโยบายการคลังมากระตุ้นเศรษฐกิจแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจได้ยิ่งจะเป็นการซ้ำเติมปัญหาปากท้องของประชาชนจึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องหานายกฯ และรัฐบาลอำนาจเต็มมาทำหน้าที่

 ++ความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) คัดค้านการเสนอนายกฯ มาตรา 7 เตรียมยกระดับการชุมนุมเพิ่มขึ้น

 +++ส่วนคดีต่างๆ ขณะที่ช่วงบ่ายนี้ ศาลอาญา นัดฟังคำสั่งคดี แกนนำกปปส. 43 คน หลังจากที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ยื่นคำร้องขอออกหมายจับในข้อหากบฎ