+++สื่อท้องถิ่น รายงานว่า นายกรัฐมนตรีเรเจป ไตยิป เอร์โตอัน ของตุรกี แถลงยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเหมืองถ่านหินระเบิดเพิ่มขึ้นกว่า 200 ศพ มีรายงานว่าสูงถึง 274 ศพ นายเอร์โดอัน ลงพื้นที่ตรวจสอบอุบัติเหตุเหมืองถ่านหินระเบิดที่เมืองโซมาทางตะวันตกของตุรกี ห่างไปทางใต้ของนครอิสตันบูล ซึ่งยังมีผู้ติดอยู่ภายในอีกหลายร้อยคน นับเป็นหนึ่งในอุบัติภัยทางอุตสาหกรรมครั้งร้ายแรงที่สุดของตุรกี นายกรัฐมนตรีเอร์โตอันมาที่เมืองโซมา ซึ่งมีครอบครัวและญาติมิตรของผู้เคราะห์ร้ายจำนวนมากมาเฝ้าติดตามสถานการณ์
+++มีรายงานว่า หลังนายกรัฐมนตรีตุรกี ลงพื้นที่แต่พูดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่เกิดได้ ทำให้ญาติผู้เสียชีวิตไม่พอใจ เกิดการประท้วง ตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตาและใช้น้ำดับเพลิงสลายกลุ่มประชาชนหลายร้อยคนที่มาประท้วงเหตุเหมืองระเบิด ช่างภาพเอเอฟพี รายงานว่า ผู้ประท้วงราว 800 คน ขว้างปาก้อนหินเข้าใส่ตำรวจ และร้องตะโกนต่อว่ารัฐบาล ขณะพยายามเดินขบวนจากมหาวิทยาลัยในกรุงอังการาไปยังกระทรวงพลังงาน นายทาเนอร์ ยิลดิซ รัฐมนตรีพลังงาน กล่าวว่า มีผู้อยู่ภายในเหมืองถ่านหินขณะเกิดเหตุระเบิด จำนวน 787 คน ช่วยเหลือออกมาได้ 363 คน และสำนักนายกรัฐมนตรีตุรกี ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน และจะมีการลดธงครึ่งเสาตามสถานที่สำคัญ
+++เกิดเหตุไฟป่ากำลังลุกลามไปทั่วพื้นที่ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ ทำให้ทางการต้องสั่งอพยพประชาชนกว่า 20,000 ครัวเรือน มีบ้านเคลื่อนที่ได้รับความเสียหาย 1 หลัง ขณะที่ความกดอากาศสูงทำให้พื้นที่รัฐแคลิฟอร์เนียมีอากาศร้อนและลมแรง ประกอบกับสภาพอากาศร้อนแห้งและลมทำให้ไฟยิ่งลุกลาม สั่งอพยพบุคลากรและนักเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายและโรงเรียนประถมอย่างน้อย 2 แห่ง สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติระบุว่า พื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียตอนใต้ไปจนถึงพื้นที่รอบอ่าวมอนเทอเรย์และอ่าวซานฟรานซิสโก มีแนวโน้มมีอุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์ตลอดช่วงกลางสัปดาห์นี้ ย่านใจกลางนครลอสแอนเจลิสอุณหภูมิอยู่ที่ 33.5 องศาเซลเซียสในตอนเที่ยง ซึ่งสูงกว่าระดับปกติถึง 10 องศาเซลเซียส
+++นายหวาง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าวกับรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียว่า จีนขอให้เวียดนามอยู่ในความสงบและเคารพอธิปไตยของจีน ท่ามกลางกระแสประท้วงในเวียดนามต่อกรณีที่จีนขุดเจาะแหล่งน้ำมันในพื้นที่แถบทะเลจีนใต้ที่อ้างสิทธิทับซ้อนกัน แถลงการณ์กระทรวงต่างประเทศจีนโพสต์ลงในเว็บไซต์กระทรวงฯว่า รัฐมนตรีต่างประเทศจีนกล่าววิจารณ์ถึงเรื่องดังกล่าวในการพูดคุยทางโทรศัพท์กับนายมาร์ตี้ นาตาเลกาวา รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ขณะที่มีกระแสประท้วงจีนในเวียดนาม จนมีเหตุเผาโรงงานหลายสิบแห่ง
+++กลุ่มผู้ชุมนุมชาวเวียดนามจำนวนมาก มีรายงานว่าหลายหมื่นคน ก่อเหตุจุดไฟเผาโรงงานของต่างชาติอย่างน้อย15 แห่งและยังโจมตีอีกหลายโรงงานในเขตอุตสาหกรรมภาคใต้ของประเทศท่ามกลางความโกรธแค้นที่ร้อนระอุหลังจากพากันประท้วงต่อต้านการเข้าไปตั้งแท่นขุดเจาะน้ำมันของจีนในดินแดนพิพาททะเลจีนตะวันออก ซึ่งเวียดนามอ้างกรรมสิทธิ์ร่วมด้วย การโจมตีที่รุนแรงที่สุดเกิดขึ้นกับโรงงานของบริษัทไต้หวันในจังหวัดบิ่ญเซือง และด่งนาย เนื่องจากบรรดาผู้ก่อจลาจลเข้าใจผิดคิดว่าเป็นบริษัทของจีนเจ้าหน้าที่รัฐบาลเวียดนามไม่ได้ให้รายละเอียดมากนักแต่ระบุว่า ประตูของโรงงานหลายแห่งถูกทำลายและหน้าต่างถูกทุบแตกขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ นอกจากนี้ความวุ่นวายยังเกิดขึ้นในเขตอุตสาหกรรมที่สิงคโปร์บริหารอยู่ในจังหวัดบิ่ญเซือง มีทั้งถูกงัดแงะ และจุดไฟเผารัฐบาลสิงคโปร์ได้เรียกร้องให้เวียดนามฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยในทันที
+++นายโอเล็กซานดร์ ตูร์ชินอฟ รักษาการประธานาธิบดียูเครน เปิดเผยว่า พร้อมรับฟังกลุ่มต่อต้านนิยมรัสเซียทางภาคตะวันออกของประเทศ นายตูร์ชินอฟ กล่าวระหว่างเปิดการประชุมโต๊ะกลมว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติที่กรุงเคียฟ ว่า พร้อมรับฟังประชาชนทางตะวันออก แต่พวกเขาต้องหยุดยิง ปล้นสะดมและไม่บุกยึดอาคารรัฐบาลก่อน ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเม.ย.เป็นต้นมา ทหารยูเครนต้องสู้รบกลุ่มพวกแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียในภาคตะวันออกของประเทศ ที่บุกยึดเมืองต่างๆหลายสิบแห่ง และเพิ่งประกาศเอกราชในจังหวัดโดเนตสก์และลูกานสก์ ตามหลังการทำประชามติที่ถูกประณามจากชาติตะวันตกและยูเครน
+++องค์การอนามัยโลก(WHO) ยอมรับกังวลมากขึ้นต่อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ตะวันออกกลาง (MERS) แต่ยังไม่ประกาศให้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ เนื่องจากยังไม่พบหลักฐานที่ชัดเจนว่าสามารถติดต่อจากคนสู่คน ไวรัสชนิดนี้ทำให้ผู้ป่วยมีอาการไอ หายใจติดขัด และมีไข้สูง บางคนถึงขึ้นปอดบวม มีรายงานผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 500 คนทั่วโลก โดยส่วนใหญ่อยู่ในซาอุดีอาระเบีย อย่างไรก็ตามมันเริ่มแพร่ระบาดไปยังเหล่าชาติเพื่อนบ้าน เช่นเดียวกับพบผู้ติดเชื้อจำนวนเล็กน้อยในยุโรป เอเชียและสหรัฐฯ ในขณะเดียวกันสำหรับผู้ติดเชื้อนั้น มีถึงร้อยละ 30 ที่เสียชีวิต
+++หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลีของจีนรายงานว่า ผลการวิจัยชี้ว่าระบบการศึกษาที่มีความกดดันสูงและให้ความสำคัญกับการสอบของจีนเป็นสาเหตุของการฆ่าตัวตายส่วนใหญ่ของนักเรียนในประเทศ บทความของกระทรวงสาธารณสุขจีน ระบุว่า ในแต่ละปีจีนมีนักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นฆ่าตัวตายถึงราว 500 คน พบว่า เกือบร้อยละ 93 ของกรณีเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากการโต้เถียงกันระหว่างนักเรียนและครูอาจารย์ หรือหลังจากนักเรียนเหล่านี้เผชิญความกดดันจากการเรียน ส่วนใหญ่ฆ่าตัวตายเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถทนรับความกดดันของระบบการศึกษาที่ใช้การสอบเป็นหลัก ไชน่าเดลีรายงานว่า เมื่อเดือนม.ค.ปีที่แล้วมีเด็กนักเรียนในเขตปกครองตนเองมองโกเลียในฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดจากชั้นสูงสุดของตึก หลังจากทราบว่าผลการสอบของตนเองตกต่ำลง และในเดือนนี้เด็กชายวัย 13 ปีในมณฑลเจียงซูได้แขวนคอตายหลังจากไม่สามารถทำการบ้านให้เสร็จได้
+++ตลาดหุ้นสหรัฐ ดิ่งลงแรง หลังพบดัชนีราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ท่ามกลางรายงานผลประกอบการบริษัทต่างๆที่ออกมาผสมผสานดาวโจนส์ ลดลง100.82 จุด ปิดที่ 16,614.62 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 8.97 จุด ปิดที่ 1,888.48 จุด แนสแดค ลดลง 29.54 จุด ปิดที่ 4,100.63 จุด
+++ราคาน้ำมันขึ้น จากข้อมูลเชื้อเพลิงสำรองของสหรัฐ สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐ งวดส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ ปิดที่ 102.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 95 เซนต์ ปิดที่ 110.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ราคาทองคำ ขยับขึ้นราวร้อยละ 1 หลังจากดอลลาร์ตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน ระหว่างที่นักลงทุนกำลังรอคำยืนยันถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 11.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,305.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์