*ทันสถานการณ์โลก 06.30น.:บูลฟิน-21ชำรุด เลิกหา MH370/ที่ปรึกษานายกฯตุรกี ทำร้ายผู้ชุมนุมเหมือง/เอลนีโญ่กระทบผลผลิตเกษตร*

16 พฤษภาคม 2557, 05:58น.


 *ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.



+++สำนักงานประสานงานร่วม หรือเจเอซีซี ของออสเตรเลีย แกนนำในการค้นหาเครื่องบินที่สูญหายของมาเลเซีย แอร์ไลน์ กล่าวว่า ทีมกู้ภัยได้ระงับการค้นหาเครื่องบินที่สูญหายของมาเลเซียในมหาสมุทรอินเดียในวันนี้ หลังบลูฟิน-21 ยานสำรวจใต้ทะเลของกองทัพเรือสหรัฐเกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิค และรอการนำเข้าอะไหล่จากอังกฤษในวันอาทิตย์นี้



+++ก่อนหน้านี้ บลูฟิน-21 ได้ทำการสำรวจใต้ท้องทะเลเพียง 2 ชั่วโมงในสัปดาห์นี้ก่อนจะถูกยกขึ้่นมาบนเรือสำรวจโอเชียนชีลของออสเตรเลียเพื่อตรวจสอบและพบว่า ระบบสัญญาณทรานสปอนเดอร์ที่ติดตั้งอยู่ในยานสำรวจนั้นชำรุด จึงต้องทำการซ่อมแซมใหม่ สำหรับเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ของมาเลเซียแอร์ไลน์ได้สูญหายเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พร้อมคนบนเครื่อง 239 คน หลังถูกเบี่ยงเส้นทางบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังกรุงปักกิ่ง แต่ที่ผ่านมา ยังไม่พบซากเครื่องบิน แม้ว่านานาชาติจะระดมกำลังค้นหาครั้งใหญ่



+++สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของรัสเซีย รายงานอ้างนายนิโคไล บอร์ดียูชา เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาความมั่นคงผสม หรือซีเอสทีโอ ที่มีรัสเซียเป็นแกนนำ ว่า ทั้งนาโต หรือองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ และซีเอทีโอไม่ควรใช้การทหารและการเมืองระหว่างประเทศเพื่อเข้าแทรกแซงกับวิกฤติของยูเครน ระบุว่า การเข้าไปยุ่งเกี่ยวของบุคคลภายนอกมีแต่จะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี และจะทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่หนักลงอีก



+++โดยรัฐบาลยูเครนและฝ่ายต่อต้านควรจะหาทางแก้ไขปัญหาขัดแย้งด้วยตนเอง ก่อนหน้านี้ นักเคลื่อนไหวที่ฝักใฝ่รัสเซียในเมืองโดเนสก์และลูกันสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน ได้จัดตั้งสาธารณรัฐปกครองตนเองเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน พร้อมทั้งประกาศเอกราช หลังการทำประชามติเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ในขณะเดียวกัน เขายอมรับว่า สถานการณ์ในยูเครนกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงขององค์การซีเอสทีโอ เนื่องจากมีชายแดนติดต่อกันและความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันระหว่างประชาชนในระดับรากหญ้า



+++ตำรวจตุรกีได้ยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำแรงดันสูงใส่ผู้ประท้วงหลายพันคนในกรุงอังการา อิสเมียร์ อิสตันบูลและเมืองอื่นๆในวันนี้ หลังสหภาพแรงงานขนาดใหญ่ 4 แห่งของตุรกีได้หยุดงานประท้วง 24 ชั่วโมง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่ต้องรับผิดชอบกับการระเบิดและถล่มลงมาของบ่อเหมืองในเมืองโซมา ทางภาคตะวันตกของประเทศเมื่อวันอังคาร มีคนเสียชีวิต 282 คน



+++ด้านสหภาพแรงงาน กล่าวว่า การลดต้นทุนเพื่อมุ่งทำกำไรให้มากสุดของผู้ประกอบการส่งผลให้ชีวิตของคนงานเสี่ยงประสบอันตรายมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งกล่าวหารัฐบาลและผู้ประกอบการว่าประมาทเลินเล่อในการดูแลเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเรเซป เทย์ยิบ เอร์โดกัน ได้ปฏิเสธคำอ้างที่ว่า รัฐบาลมีส่วนรับผิดชอบ ระบุว่าอุบัติเหตุเช่นนั้นเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา



+++สถานการณ์ดูจะรุนแรงขึ้นเมื่อภาพถ่ายและวิดีโอ ผู้ช่วยของนายกรัฐมนตรีตุรกีกำลังไล่เตะผู้ประท้วงเหมืองถ่านหินระเบิดคร่าชีวิตกว่า 300 ศพ บนโลกออนไลน์ และกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความรู้สึกโกรธแค้นที่มีต่อรัฐบาลไปแล้ว รายงานข่าวระบุว่าเหตุผู้ช่วยทำร้ายผู้ประท้วงเกิดขึ้นขณะที่นายกรัฐมนตรี กำลังลงตรวจพื้นที่เกิดเหตุในเมืองโซมา และต่อมาทราบว่าผู้ที่ลงมือก็คือนายยูซูฟ เยอร์เคล ภาพหตุการณ์นี้กระตุ้นความเสียงโวยวายในตุรกี โดยเฉพาะบนโลกสังคมออนไลน์ แสดงให้เห็นถึงการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายมากขึ้นในประเทศแห่งนี้ที่กระทบต่ออำนาจการปกครองของนายเอร์โดกัน



+++พนักงานสอบสวนของเกาหลีใต้ กล่าวว่า การเลี้ยวอย่างฉับพลันเป็นสาเหตุหลักทำให้เรือเฟอร์รี่เซวอลล่มที่นอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เมื่อเดือนก่อน มีคนเสียชีวิตหรือสูญหายกว่า 300 คน โดยขณะที่แล่นผ่านช่องแคบที่นอกชายฝั่งของเกาะจินโด ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเมื่อวันที่ 16 เมษายน เรือเซวอล ที่มีระวางขับ 6,825 ตัน ได้เลี้ยวอย่างฉับพลันเป็นมุม 15 องศา ส่งผลให้เรือเอียงและจมลงทะเลภายใน 2 ชั่วโมง



+++นอกจากนี้ การบรรทุกสินค้าเกินพิกัด และการไม่มีน้ำเพียงพอในแทงก์น้ำปรับสมดุลของตัวเรือ ส่งผลให้เรือเสียการทรงตัวและพลิกคว่ำ พนักงานสอบสวนกล่าวอีกว่า พวกเขาได้แจ้งข้อหาฆ่าคนตายสำหรับกัปตันและลูกเรืออีก 3 คนฐานทิ้งเรือไปโดยที่ไม่พยายามจะอพยพผู้โดยสารหลายร้อยคน ในวันเกิดเหตุมีคนบนเรือ 476 คน สำหรับผู้เสียชีวิตถึงวันนี้ มีจำนวน 281 คน สูญหายอีก 23 คน ทีมกู้ภัยสามารถช่วยเหลือได้ 172 คน



+++หนังสือพิมพ์โกลบอล ไทมส์ของทางการจีน รายงานอ้างสำนักงานบริหารการท่องเที่ยวของจีนว่า ทางการจีนได้แจ้งเตือนพลเมืองให้ทบทวนการวางแผนไปท่องเที่ยวในเวียดนามในระยะนี้ พร้อมทั้งเตือนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่อยู่ในเวียดนามในขณะนี้ให้เพิ่มความระมัดระวัง ทางการจีนได้ตำหนิทางการเวียดนามว่า ยุยงให้เกิดการประท้วงต่อต้านจีนครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี



ก่อนหน้านี้ ผู้ประท้วงได้จุดไฟเผาโรงงานเสียหายอย่างน้อย 15 แห่งในเขตนิคมอุตสาหกรรมร่วมของเวียดนามและสิงคโปร์ในจังหวัดบินห์ดวงและดองไน ทางภาคใต้ของเวียดนามเมื่อวานนี้ หลังเกิดไม่พอใจที่ทางการจีนได้เคลื่อนย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันเข้าไปยังบริเวณน่านน้ำพิพาท มีคนเสียชีวิตแล้ว 21 คน รวมถึงพลเมืองชาวจีน 1 คน ตำรวจของเวียดนาม ได้กักขังผู้ประท้วง 500 คนที่มีส่วนก่อเหตุรุนแรง ที่ผ่านมา จีนและเวียดนามมีปัญหาขัดแย้งเรื่องน่านน้ำพิพาทในทะเลจีนใต้



+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(15)ร่วงลงหนัก หลังรายงานผลประกอบการที่อ่อนแอของวอล-มาร์ต ลุกลามความกังวลไปยังหุ้นบริษัทค้าปลีกอื่นๆ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง165.17 จุด (0.99 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,444.80 จุด



+++ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(15) ร่วงลงพอสมควร หลังพบข้อมูลผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานสหรัฐฯลดลง ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว และเป็นผลให้ความต้องการโลหะมีค่าชนิดนี้ในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงต่ำก็ลดลงตามไปด้วย โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 12.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,293.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ราคาน้ำมันสหรัฐฯวานนี้(15) ขยับลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน จากข้อมูลคลังเชื้อเพลิงสำรอง



++สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 87 เซนต์ ปิดที่ 101.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ ปิดที่ 110.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



+++วารสารเนเจอร์คอมมูนิเคชันส์ลงพิมพ์ผลการศึกษาที่นำโดยนายโทชิจิกะ อีซุมิ จากสถาบันแห่งชาติด้านการเกษตร-สิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่น ว่า ข้อมูลผลผลิตธัญพืชในหลายประเทศระหว่างปี 2527-2547 ชี้ว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญทำให้ผลผลิตถั่วเหลืองโลกเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 เป็นร้อยละ 5.4 แต่ทำให้ผลผลิตข้าวโพด ข้าว และข้าวสาลี ลดลงร้อยละ 4.3 เหลือร้อยละ 0.8 ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อมวลกระแสน้ำอุ่นก่อตัวขึ้นทางฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกจนมีจำนวนมากแล้วไหลไปยังฝั่งตะวันออกของมหาสมุทร ทำให้ฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแห้งแล้ง แต่ฝั่งตะวันออกของมหาสมุทรน้ำท่วมเพราะฝนตกหนัก



++ผลการศึกษาพบว่า เอลนีโญส่งผลเสียต่อผลผลิตข้าวโพดทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ จีน แอฟริกาตะวันตกและตะวันออก เม็กซิโก และอินโดนีเซีย ส่งผลเสียต่อผลผลิตถั่วเหลืองในอินเดียและบางส่วนของจีน ส่งผลเสียต่อผลผลิตข้าวในจีนตอนใต้ พม่า และแทนซาเนีย และส่งผลเสียต่อผลผลิตข้าวสาลีในบางพื้นที่ของจีน สหรัฐ ออสเตรเลีย เม็กซิโกและหลายพื้นที่ของยุโรป  องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกเผยเมื่อวันที่ 14 เมษายนว่า มีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากว่าจะเกิดเอลนีโญขึ้นภายในสิ้นปีนี้ ปกติแล้วเอลนีโญเกิดขึ้นทุก 3-7 ปี แต่เกิดถี่ขึ้นและรุนแรงขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะปี 2525-2526 และปี 2540-2541 ที่เกิดขึ้นรุนแรงที่สุด ส่วนเอลนีโญครั้งหลังสุดเกิดขึ้นระหว่างเดือนมิถุนายน 2552-พฤษภาคม 2553



 

ข่าวทั้งหมด

X