* ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.*
+++วันนี้ ต้องติดตาม วุฒิสภาจะมีข้อสรุปเบื้องต้นว่าแนวทางการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่จะดำเนินการอย่างไร นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย แถลงถึงกระบวนการในการได้มากับกระบวนการสรรหาตัวบุคคลที่จะทำคู่ขนานกันในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากมีการนัดประชุมวุฒิสมาชิกอีกรอบ ขณะเดียวกันในวันนี้คณะทำงานของสว.จะหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อยืนยันถึงอำนาจหน้าที่ของวุฒิสภาในการดำเนินการในเรื่องนี้ ส่วนตัวแทนรัฐบาล นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ตอบรับที่จะพูดคุยกับ วุฒิสภาในบ่ายวันเสาร์
+++หลังส.ว. อ้างมีอำนาจประชุมเลือกนายกฯได้ ตามรัฐธรรมนูญ ม.132(2) เผยผลถกแก้ปัญหาประเทศ หลายฝ่ายต้องการให้มีรัฐบาลอำนาจเต็มเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ไม่ปกติโดยเร็วชมรม ส.ส.ร.50 ออกแถลงการณ์หนุน ส.ว.ทูลเกล้าฯ เสนอนายกฯ คนกลาง อ้างเป็นประเพณีปฏิบัติก่อนปี 35
+++ส่วนวันนี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. นัดนำมวลชนไปติดตามการทำงานของวุฒิสภา ต้องตัดสินใจภายในวันนี้ หากวุฒิสภาไม่ตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อให้มีรัฐบาลชุดใหม่มาทำหน้าที่ กปปส.ทวงคืนอำนาจอธิปไตยมาเป็นของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 3
+++กลุ่มนปช.ปักหลักชุมนุมอยู่ที่ถนนอุทยาน พุทธมณฑลจ.นครปฐม จะประกาศยกระดับการชุมนุม หากมีการเสนอให้มีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 7และนัดชุมนุมใหญ่ 17-18-19 พ.ค. นายจตุพร พรหมพันธ์ ประธานนปช.ชี้ว่าการชุมนุมใหญ่จะคล้ายกับปี 2553 และเหตุการณ์ที่ รัชมังคลากีฬาสถานเมื่อปีที่แล้ว
+++เลือกตั้ง 20 ก.ค.ไม่ทันแล้ว ขณะที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้งกล่าวว่า ทั้งรัฐบาลและ กกต.ได้ออกจากที่ประชุมโดยยังไม่ได้มีการนัดหมายการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งรัฐบาลได้เสนอว่า ควรจะหารือกันผ่านระบบ วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แต่ กกต. เห็นว่า ควรเป็นการพูดคุยกันต่อหน้าเนื่องจากมีรายละเอียดมาก ส่วนการนัดหมายกับรัฐบาลเพื่อหารือใหม่น่าจะเป็นสัปดาห์หน้า ซึ่งการเลือกตั้งในวันที่ 20 ก.ค. น่าจะเป็นไปไม่ได้แล้ว เนื่องจากหากจะให้วันเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันดังกล่าวต้องให้ร่าง พ.ร.ฎ.เลือกตั้งฯ มีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 พ.ค. แต่ระยะเวลาขณะนี้เหลือเพียง 7 วัน แต่การหารือยังไม่ได้ข้อสรุป ส่วนจะกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันใด ต้องรอคุยกับรัฐบาลอีกครั้งขณะนี้ประมาณการอะไรไม่ได้เลย
+++ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นำผู้ชุมนุมเดินทางไปที่อาคารบีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถนนแจ้งวัฒนะ และเข้าหารือกับ กกต. ที่ห้องประชุมชั้น 2 โดยในการหารือ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ได้กล่าวตอนหนึ่งระหว่างหารือว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ กปปส. จะยอมให้มีการเลือกตั้งภายใน 3-4 เดือนโดยรัฐบาลอยู่ในช่วงรักษาการ แต่ไม่ต้องทำงานและให้ปลัดกระทรวงหรือคณะบุคคลอื่นทำหน้าที่แทน เพื่อให้การเลือกตั้งสำเร็จ และระหว่างนั้นสังคมต้องสร้างหลักประกันให้ยอมรับว่าไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบรวมทั้งมวลชนทั้งสองฝ่ายต้องหยุดเคลื่อนไหว หาก กปปส.ยอมเงื่อนไขนี้ ก็จะส่งข่าวนี้ไปยังรัฐบาล
+++แต่นายสุเทพ กล่าวว่า ข้อเสนอนายสมชัยเป็นข้อเสนอที่ดี ซึ่งยอมรับข้อเสนอได้ ถ้าทำให้พรรคการเมืองไม่เป็นพรรคของนายทุนต้องเป็นพรรคประชาชน ต้องคุมการใช้จ่ายเงินให้ได้ เงินต้องได้มาอย่างบริสุทธิ์จากการบริจาคของประชาชนเมื่อใดใช้เงินผิดก็ถูกยุบพรรคได้ และพรรคที่ถูกยุบต้องไม่มีการตั้งพรรคใหม่แค่เปลี่ยนชื่อ ส่วนข้อเสนอที่จะให้มีคณะบุคคลขึ้นมารักษาการดูแลให้การเลือกตั้งเรียบร้อยนั้น เห็นว่าปัญหาของประเทศไม่ได้มีแค่การเลือกตั้งเพราะมีปัญหาอื่น แต่คิดว่าประชาชน 15-20 จังหวัดไม่พร้อมให้มีการเลือกตั้ง เพื่อให้คนโกงกลับเข้ามีอำนาจได้อีกและมั่นใจว่า กกต.จะไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ ทั้งนี้หากวันที่ 16 พ.ค. วุฒิสภาไม่สามารถหานายกรัฐมนตรีได้ เราจะระดมมวลชนเพื่อทวงคืนอธิปไตย
+++ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่ 5 ) พ.ศ. 2557 ดำเนินการรับสมัครเลือกตั้งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนด่วนพิเศษที่จัดส่งโดยองค์กรรัฐหรือเอกชนหรือดำเนินการรับสมัครทางอินเทอร์เน็ตได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ กกต.กำหนดกรณีเหตุจลาจล ฯ
+++วันนี้ พรรคเพื่อไทย จะขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรค 2 เสนอเรื่องไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ในวันที่ 16 พ.ค. นี้ เวลา 10.00 น.เพื่อให้ตรวจสอบและสั่งห้ามนายสุรชัยหยุดกระทำการเสนอนายกฯ มาตรา 7 เพราะผิดกฎหมาย ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรคแรก ถือเป็นการกระทำเถื่อนนอกรัฐธรรมนูญ
+++ส่วนนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ปูดข่าว บุคคลที่จะได้เป็นแคนดิเดตนายกฯ คนกลาง คือนายทหารยศพลเอก มีตัวอักษร ป. 3. การเลือกพลเอก ป. เป็น นายกฯ คนกลางเพื่อจะได้ใช้กำลังล้อมปราบคนเสื้อแดงหรือคนที่เห็นต่างทางการเมือง และการปฏิรูปการเมืองนั้น ไม่มีอยู่จริงเป็นเพียงความต้องการอำนาจรัฐโดยไม่ต้องลงเลือกตั้ง พยายามจะเปลี่ยนแปลงกติกาการเลือกตั้งใหม่เช่น ส.ส. มาจากการเลือกตั้ง 250 คน และ ส.ส.สรรหาอีก 250 คน โดย ส.ส.สรรหามีวาระ 8 ปี แต่ ส.ส.เลือกตั้งมีวาระ 4 ปี และจำกัด ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งเป็น ส.ส.ได้เพียงสมัยเดียวและ ส.ส.ไม่ต้องสังกัดพรรคการเมือง เพื่อให้ระบบพรรคการเมืองหมดไป ส่วนประชาชนที่จบปริญญาจะได้สิทธิมากกว่าคนจบประถมสี่จะดูสถานะรายได้ประกอบการให้สิทธิเลือกตั้ง จะเปลี่ยนคดีทุจริตไม่ต้องมีอายุความ หวังใช้ช่วงเวลานี้นำข้อกฎหมายมาป้ายสีกับกลุ่มเห็นต่างรัฐบาลเฉพาะกาล
+++แหล่งข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งว่า จากการประเมินแผนโรดแม็พของวุฒิสภาในการหาทางออกประเทศเบื้องต้นพบว่ามี 3 แนวทางคือ 1. เสนอให้มีการทำประชามติเลือกนายกรัฐมนตรีคนกลาง โดยให้ทุกพรรคการ เมืองและทุกองค์กรร่วมเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมให้ประชาชนเลือกโดยมีการออกระเบียบให้ กกต. เป็นผู้ดำเนินการ คาดว่าจะใช้เวลา 2 เดือน ซึ่งแนวทางนี้จะมีผลของประชามติรองรับทำให้ ส.ว.ไม่ต้องรับภาระรับผิดชอบ เสี่ยงต่อข้อหากบฏ 2. เสนอให้มีการจัดการเลือกตั้ง โดยก่อนเลือกตั้งต้องให้ทุกพรรคการเมืองลงสัตยาบันว่าหากได้รับเลือกตั้งจะต้องปฏิรูปประเทศภายใน 1 ปีจากนั้นให้ยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ โดยจะมีการออกระเบียบพิเศษกำหนดโทษรุนแรงเพื่อดำเนินการกับ พรรคการเมืองที่ไม่ปฏิบัติตามสัตยาบัน 3. วุฒิสภาจะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนกลางทันที
+++โรดแม็พทั้ง 3 ข้อ มีการประเมินกันในกลุ่ม ส.ว. และอดีต ส.ส.พรรคประชา ธิปัตย์บางส่วนว่า ทั้งหมดไม่ใช่คำตอบของประเทศ โดยในทางเลือกที่ 1 จะไม่ทันใจนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เชื่อว่านายสุเทพ รับทราบโรดแม็พทั้งหมดแล้ว และรับไม่ได้ จึงออกมาประกาศจะดำเนินการปฏิวัติประชาชนด้วยตนเองในวันที่ 17-18 พ.ค. นี้ ส่วนทางเลือกที่ 2 ก็ไม่สามารถเดินได้ เพราะยังไม่มีการวางแนวทางการปฏิรูปที่ชัดเจน ไม่ตรงกับความต้องการของทุกฝ่ายแต่ผู้ที่ได้ประโยชน์คือรัฐบาล และทางเลือกที่ 3 ยิ่งเป็นไปได้ยากเพราะถูกแรงต้านจากกลุ่มคนเสื้อแดง พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลทันที
+++อีกด้านหนึ่ง นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ บรรยายพิเศษ หัวข้อ "รัฐธรรมนูญผลกระทบทุกภาคส่วน" ที่จัดโดยสโมสรโรตารีบางรัก โดยนายวสันต์กล่าวตอนหนึ่งว่า มองว่าขณะนี้รองนายกรัฐมนตรีในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีมีอำนาจทูลเกล้าฯ ร่าง พ.ร.ฎ.เลือกตั้งได้ เช่นเดียวกับมีอำนาจทูลเกล้าฯ ตำแหน่งประธานวุฒิสภาได้เช่นกัน ส่วนการเสนอแนว ทางแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 7 นั้น ไม่เคยปรากฏมาก่อน คงไม่ใช่การเสนอตามแนวทาง มาตรา 7 แต่เข้าใจว่าเป็นการใช้วุฒิสภาดำเนินการโดยอนุโลม ส่วนกรณีกลุ่ม กปปส. จะดำเนินการเองนั้น ไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไร การยึดอำนาจคงไม่มีโดยประชาชน เพราะประชาชนไม่มีอาวุธจึงไม่มีทางปฏิวัติได้ ปัญหาการเลือกตั้งที่ผ่านมาด้วยว่า การเลือกตั้งที่ถูกขวางไม่ให้เข้าสมัครความจริง กกต.มีหน้าที่นั่งรอรับสมัคร ถ้าผู้สมัครลุยเข้ามาสมัครไม่ได้ เจ้าหน้าที่ต้องรับผิดชอบ กกต.ไม่มีอำนาจไล่คนที่กีดขวาง แต่ กกต.ขอความร่วมมือตำรวจได้ การสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้จึงไม่ใช่ความผิด กกต. แต่ผิดที่รัฐบาลที่เคลียร์พื้นที่เองไม่ได้
+++เหตุหลังคาโดมซุ้มประตูทางเข้า ห้างโกลบอลเฮ้าส์ สาขาสุรินทร์ พังถล่ม มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดเย็นวันที่ 13 พฤษภาคม นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงสภาพพื้นที่ สอบปากคำพยานบุคคล พยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง แล้วสรุปผลให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ทราบภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันแต่งตั้ง โดยคณะกรรมการเห็นไปทางเดียวกันหลังขึ้นกระเช้า ตรวจสอบ คือ ผนังกันสาดอาคารสูง 3 เมตร พังทลายยาว 70 เมตร ซึ่งเป็นเหตุ ทำให้หลังโดมซุ้มประตูรับน้ำหนักไม่ไหว ถล่มทับประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บ โดยช่วง 20 เมตรแรกพบว่ามีเสาเอ็นยึดติดกับผนังกันสาด แต่หลังจากนั้นไม่มีเลย
+++นายธนโชติ เกษตรสิงห์ วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ผนังกันสาดจะต้องมีเสาเอ็นตลอดแนว แต่หลังจาก 20 เมตรไม่พบว่ารอย คอนกรีตแตก ส่วนเหล็กข้ออ้อยที่ใช้เป็นเสาเอ็น ปกติต้องฝังลึกไปในคานตัวอาคารอย่างน้อย 30 เซนติเมตร แต่ 20 เมตรแรกที่มี เสาเอ็น ฝังลึกประมาณ 10 เซนติเมตรเท่านั้น
+++นางอุสนีย์ ศิลปะศร ประกันสังคมจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า กรณีเด็กในครรภ์เสียชีวิต ทางประกันสังคมไม่ได้ให้การคุ้มครอง ส่วนผู้เสียชีวิต 6 รายเป็นผู้ประกันตน 5 ราย เสียชีวิตเนื่องจากการทำงาน 3 ราย ไม่เกี่ยวกับการทำงาน 2 ราย ได้รับการคุ้มครองจากกองทุนประกันสังคม 2 ราย ซึ่งจะได้รับเงินทำศพรายละ 20,000 บาท ส่วนเงินสงเคราะห์ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการส่งเงินของผู้ประกันตน และจะได้เงินบำเหน็จชราภาพที่ได้ออมเอาไว้ขณะมีชีวิตด้วย ส่วนกรณีการเสียชีวิตจากการทำงาน ได้รับเงินชดเชย 60% ของเงินเดือนเป็นระยะเวลา 8 ปี และเงินจัดการศพรายละ 30,000 บาท ซึ่งจะนำเงินไปมอบให้ญาติผู้เสียชีวิต ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจากการทำงาน จะเข้าไปดูเป็นอย่าง
+++นายวิทูร สุริยวนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สยามโกล บอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ขอมอบเงินช่วยเหลือให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต เบื้องต้นมอบเงินช่วยเหลือค่าปลงศพแล้วรายละ 50,000 บาท และมอบเงินค่าทำขวัญให้แก่ผู้บาดเจ็บ 100,000 บาท พร้อมรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลจนกว่าจะหายเป็นปกติ และจะมอบเงินช่วยเหลือให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 1,000,000 บาท นอกจากนั้นจะให้ทุนการศึกษาของบุตรธิดาของผู้เสียชีวิตจนจบระดับปริญญาตรี