*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ :จับตาผบ.ทบ. เตือนกลุ่มรุนแรง/หารือกู้ศก.ปท.หลังการเมืองลากยาว*

16 พฤษภาคม 2557, 08:19น.


*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.



+++หลังแถลงการณ์ของ ผบ.ทบ.มีขึ้นเมื่อบ่ายวานนี้ (15 พ.ค.) หลังเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามทั้งเครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 และปืนเอ็ม 16 บริเวณที่ชุมนุมของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) เมื่อช่วงเช้ามืดวันเดียวกัน จนมีการ์ดกปปส.และประชาชนเสียชีวิต 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก  พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก  (ทบ.) อ่านแถลงการณ์ 7 ข้อของ พล.อ.ยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. โดยสรุปว่า ผบ.ทบ.ขอเป็นกำลังใช้ให้ทุกฝ่ายที่กำลังช่วยกันหาทางออก เพื่อแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมืองอย่างสันติขอให้ประชาชน ทุกฝ่ายช่วยกันประณามผู้ก่อเหตุรุนแรง จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเมื่อคืนวันที่ 14 พ.ค.ต่อเนื่องเช้ามืดวันที่ 15 พ.ค. พร้อมเตือนให้ผู้ที่กล่าวให้ร้ายกองทัพ ระมัดระวังคำพูด



+++ไฮไลท์ของแถลงการณ์อยู่ที่ข้อ 5 และ ข้อ 6 ซึ่งระบุว่า "(ข้อ 5) ขอเตือนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงด้วยอาวุธสงคราม ต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ให้หยุดการกระทำนั้นตั้งแต่บัดนี้ เพราะหากสถานการณ์ยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทหารอาจจำเป็นต้องออกมาระงับเหตุการณ์ความรุนแรงอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและประเทศชาติโดยรวม"



+++"ข้อ 6 หากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้น จนมีแนวโน้มถึงขั้นจะเกิดการจลาจล เพื่อความสงบเรียบร้อย กองทัพอาจมีความจำเป็นต้องใช้ กำลังทหารเข้าคลี่คลายสถานการณ์ ในขั้นนั้นหากมีผู้หนึ่งผู้ใด หรือกลุ่มบุคคล หรือกองกำลังติดอาวุธ ตอบโต้กองทัพ หรือทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์อีก บุคคลผู้นั้นหรือกลุ่มบุคคลนั้น จะต้องถูกเจ้าหน้าที่ใช้มาตรการทางกฎหมายปราบปรามอย่างเด็ดขาด โดยผู้ที่กระทำความผิดดังกล่าวอาจจะไม่สามารถเรียกร้อง ค่าเสียหายใดๆ ได้ เช่นกันกับกลุ่มบุคคลที่มีความคิด จะบุกรุก หรือปิดล้อมหน่วยทหาร ขอให้ยุติแนวคิดการกระทำดังกล่าวโดยทันที"



+++เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหน่วยงานความมั่นคง กล่าวว่า แถลงการณ์ของ ผบ.ทบ.น่าจะมีเจตนาปรามผู้ก่อเหตุรุนแรง และผู้ที่ใช้อาวุธสงคราม โดยการปรามจะมีเป็นขั้นเป็นตอน แต่ไม่ใช่การขู่รัฐประหาร แถลงการณ์ข้อ 5-6 เป็นการส่งสัญญาณถึงฝ่ายที่ใช้ความรุนแรงว่า ทางกองทัพมีข้อมูลทั้งหมดว่าเป็นการกระทำของกลุ่มใด เพียงแต่กองทัพไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงในการจับกุม และหากมีความจำเป็นเพราะสถานการณ์บานปลาย ก็พร้อมจะสั่งใช้กำลังทหาร โดยกฎหมายที่น่าจะนำมาใช้น่าจะเป็นพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ.2457



++++นายนัสเซอร์ ยีหมะ หัวหน่วยหน่วยรักษาความปลอดภัย เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. เปิดเผยกับผู้จัดการออนไลน์ว่า เมื่อเวลา 01.30 น. มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 30 นาย ติดอาวุธปืนยาว เคลื่อนกำลังโดยการเดินเท้ามาทางวัดเบญจมบพิตร เข้ามาในพื้นที่การชุมนุมของ คปท.โดยไม่มีการประสานงานล่วงหน้า ทางเวทีจึงต้องใช้เครืองเสียงสั่งการให้ตำรวจล่าถอยออกไป จากนั้นตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาขอโทษ โดยอ้างว่า มีจุดประสงค์ทิ่จะเข้ามาตั้งด่านตรวจการ แต่ไม่ได้แจ้งมาที่เวทีล่วงหน้าจนกระทั่งเมื่อเวลา 02.10 น.สถานการณ์ทิ่ คปท. กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังถอยกลับเข้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แล้ว



+++พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ไม่อนุมัติการแต่งตั้งโยกย้าสลับตำแหน่งระหว่าง  พล.ต.ท.คำรณวิทย์  ธูปกระจ่าง  ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กับ พล.ต.ท.สุเทพ  เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ว่า ในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้จะไปชี้แจงกับ กกต. เพิ่มเติม ถึงเหตุผลความจำเป็นในการแต่งตั้งโยกย้าย  พร้อมยืนยันว่า ไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง  ส่วนการแต่งตั้งระดับผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายแพทย์ใหญ่  ไม่มีปัญหา แต่อย่างใด



+++ปัญหาการเมืองลากยาว  นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 19 พฤษภาคม นัดหารือกับผู้บริหารกระทรวงการคลังทั้งกรม กองต่างๆ รวมถึงผู้บริหารธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ (แบงก์รัฐ) เพื่อหารือถึงแนวทางการบริหารของกระทรวงการคลัง รวมถึงแนวทางในการดูแลภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี ยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้มีอำนาจตามกฎหมายในการบริหารราชการ และคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถือเป็นการยืนยันอำนาจในการทำงานของ ครม.ที่เหลือแล้ว ดังนั้น ในฐานะรัฐมนตรีที่ยังเหลืออยู่ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่



+++นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) กำลังประสบปัญหาทางธุรกิจและสภาพคล่องทางการเงิน จากปัญหาการเมืองยืดเยื้อ และหากปัญหาการเมืองยังยืดเยื้อและไม่ชัดเจน กับการมีรัฐบาลใหม่ ลากยาวไปอีก 3 เดือน จะพบเอสเอ็มอีปิดตัวในปีนี้ 30-40% ของธุรกิจเอสเอ็มอีประมาณ 2 ล้านราย หรือประมาณ 7-8 แสนราย และการไม่มีรัฐบาลพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 2558 ผนวกกับปัญหาเงินลงทุนต่างชาติหายไป จะทำให้เศรษฐกิจไทยเกิดอาฟเตอร์ช็อก หรือเศรษฐกิจถูกแช่แข็งทันที  ข้อแนะนำเบื้องต้นควรส่งเสริมผู้ประกอบการเข้าลงทุนหรือร่วมทุนในญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีและโนว์ฮาว (ความรู้ความชำนาญ) ของ 3 ประเทศในการพัฒนาและปรับปรุงสินค้าและธุรกิจไทย เพราะหากรอรัฐบาลอาจไม่ทันการ



+++สำหรับสินค้าสำคัญของไทยที่เสียส่วนแบ่งให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านในตลาดจีน เช่น ข้าว เดิมก่อนปี 2554 ไทยมีส่วนแบ่ง 96.5% เหลือ 35% ในปี 2556 โดยเสียตลาดให้เวียดนามทำให้จากเดิมมีส่วนแบ่งตลาดข้าวเพียง 3.5% เพิ่มเป็น 64% และกัมพูชาจากไม่มีส่วนแบ่งตลาดเลยกลับเพิ่มเป็น 1% ขณะที่เครื่องแต่งกายจากเดิมมีสัดส่วน 24.9% เหลือ 13.3% ถูกเวียดนามและอินโดนีเซียแย่งส่วนแบ่ง และน้ำมันปาล์มดิบจากเดิมมีสัดส่วนตลาด 1.9% เหลือ 0% ส่วนตลาดญี่ปุ่นก็จะมีสินค้าประเภทยางพารา เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายที่ถูกสินค้าจากอินโดนีเซียแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดไป  ขณะที่ตลาดเกาหลีใต้นั้นมีสินค้าประเภทข้าวที่เวียดนามแย่งส่วนแบ่งตลาดได้จากเดิมไทยมีสัดส่วน 100% เหลือ 93.1% รวมถึงเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย และเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ถูกสินค้าเพื่อนบ้านแย่งส่วนแบ่งเช่นกัน



+++แผ่นดินเชียงรายสั่นสะเทือนไม่หยุด เกิดอาฟเตอร์ช็อกซ้ำขนาด 4.4 ที่ อ.พาน จ.เชียงราย นายเอกชัย ผาบชัย ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงรายเขต 2 (สพป.เขต 2) กล่าวว่า ผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งนี้มีโรงเรียนได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 62 โรง อาคารเรียนเสียหายหนักใช้การไม่ได้ 10 โรงเรียน ส่วนที่เสียหายพอซ่อมแซมได้ก็จะเร่งปรับปรุงและใช้อาคารอื่น เช่น โรงอาหาร กางเต็นท์ และสร้างอาคารชั่วคราวจนสามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. ขณะเดียวกันได้ทำเรื่องของบประมาณสร้างอาคารเรียนชั่วคราวให้กับโรงเรียนที่อาคารเรียนเสียหายจนใช้การไม่ได้ทั้ง 10 โรงเรียน ก่อนที่จะสร้างอาคารใหม่ที่ต้องใช้เวลานานเป็นปี



+++ส่วนในวันนี้  นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานมอบเงินช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว บ้านพังเสียหายทั้งหลังรายละ 3.3 หมื่นบาท จำนวน 104 หลัง ที่สำนักงานเทศบาลตำบลป่าก่อดำ อ.แม่ลาว ศูนย์พักพิงชั่วคราวโรงเรียนห้วยส้านยาว อ.แม่ลาว โรงเรียนพานพิทยาคม อ.พาน จากนั้นจะไปตรวจถนนทางหลวงสาย 188 เชียงราย-เชียงใหม่ ที่ยุบตัว วัดอุดมวารี ต.ทรายขาว อ.พาน และวัดร่องขุ่น ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ขณะที่มูลนิธิวิมุตตาลัย ของพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ประธานมูลนิธิวิมุตตาลัยตั้งโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวจังหวัดเชียงราย โดยร่วมกับ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จะจัดแถลงข่าวการเปิดศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยในวันที่ 19 พ.ค.ที่กรุงเทพฯ



+++วันนี้ นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธานประชุมหารือ การจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จในศูนย์จำหน่ายอาหาร จากนั้น จะตรวจเยี่ยมการจำหน่าย ที่ ศ.อาหารบิ๊กซี ติวานนท์

ข่าวทั้งหมด

X