นักวิชาการเชื่อ ทางออกประเทศไทยต้องพูดคุย

มาที่งานเสวนา "บทเรียนประชาธิปไตยในต่างประเทศ ทางออกจากความขัดแย้งและความรุนแรงทางการเมือง" ซึ่งจัดโดย มูลนิธิพฤษภาประชาธรรม และ คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะอดีตเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ปี 2535 ได้กล่าวถึงประชาธิปไตย ในประเทศไทย ว่ามีอายุยาวนานถึง82ปี แต่กลับมีเหตุการณ์มากมาย ที่เกิดขึ้น คนไทยจำนวนไม่น้อย ตั้งคำถามว่า ที่สถานการณ์ในประเทศไทยเป็นเช่นนี้ อาจเพราะ ประชาธิปไตยไม่เหมาะกับคนไทย เพราะ คนไทยไม่มีระเบียบ พร้อมกับชี้แจงว่า กว่าหลายๆประเทศจะมีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ แบบในปัจจุบัน ต่างผ่านความขัดแย้งรุนแรงมาแล้วทั้งนั้น แม้ว่าตอนนี้ประเทศไทยยังหาทางออกไม่ได้ แต่เชื่อว่าเราได้บทเรียนและมีพัฒนาการจากทุกๆเหตุการณ์

ด้านนายสมชาย หอมลออ ประธานองค์การ Amnesty International Thailand ได้แสดงความเห็นว่า ตอนนี้ทั้งคนไทยและคนต่างชาติจับตาการเมืองไทยตลอดเวลา โดยหลายประเทศเห็นว่า ความขัดแย้งทางการเมืองของไทยเป็นความขัดแย้งในวงกว้างแต่มีผู้เสียชีวิตน้อย เมื่อเทียบกับต่างชาติ แต่สิ่งที่เหมือนกันในทุกประเทศคือ เหยื่อความรุนแรงพยายามต่อสู้เรียกร้องจนสามารถได้ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์และเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับเหยื่อความรุนแรง แม้ว่าจะใช้เวลาหลาย10ปี

โดยนายสมชาย ได้สรุปในเบื้องต้นว่าความขัดแย้งทางการเมือง จะสามารถแก้ปัญหาได้โดยกระบวนการประชาธิปไตย ซึ่งถือเป็นเรื่องของทุกฝ่ายที่จะต้องพูดคุยกัน และต้องใช้เวลาที่เหมาะสมเพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

ด้านศ.วิทิต มันตาภรณ์ ศาสตราภิชานประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และที่ปรึกษาขององค์กรสหประชาชาติหลายองค์กร ได้แสดงความเห็น ว่า สถานการณ์ความขัดแย้งในปัจจุบัน แม้ว่าจะยาวนานมากว่า6เดือน แต่ก็ไม่ควรมีการรัฐปรหาร และควรแก้ไขปัญหาด้วยการพูดคุยเจรจากันและควรปรับระบบการเลือิกตั้ง ก่อนที่จะให้ทุกพรรคการเมืองกลับเข้าสู่สนามการเลือกตั้ง เพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ รวมถึงหากได้รัฐบาลที่เป็นพลเรือนก็จะลดปัญหาของภาคการเมืองได้ เนื่องจากในขณะนี้ ความรุนแรงทางการเมือง มีความวุ่นวายมาก


บุศรินทร์