ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ช่วงแรกเวลา07.30น.

+++นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติไม่อนุญาตให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมขยายเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาและนำสืบแก้ข้อกล่าวหากรณีโครงการรับจำนำข้าวตามที่ทนายความของนายกรัฐมนตรีได้ยื่นหนังสือร้องขอออกไปอีก 45 วัน โดยอ้างการรวบรวมพยานหลักฐานหลายหน่วยงานยังไม่แล้วเสร็จ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า  เมื่อครบกำหนด นายกฯ จะต้องมารับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจงข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการชี้แจงทางวาจาหรือเป็นลายลักษณ์อักษรก็ตาม หากนายกฯ ไม่ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดจะถือว่าไม่ประสงค์จะชี้แจง ซึ่ง ป.ป.ช.จะพิจารณาตามข้อเท็จจริงที่มี ยืนยันว่าไม่ได้ตัดสิทธิผู้ถูกกล่าวหาแต่พิจารณาตามข้อเท็จจริง ซึ่งนายกฯ สามารถนำหลักฐานเอกสารมาชี้แจงเพิ่มเติมได้ 

+++กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ที่ชุมนุมอยู่บริเวณด้านหน้าสำนักงาน ป.ป.ช. ประกาศว่า จะปิดตายสำนักงานป.ป.ช. มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญผู้ชุมนุม กวป. ไปสอบสวน และมีการตรวจค้น เพื่อความปลอดภัยด้วย

+++พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร ผกก. สภ.เมืองนนทบุรี เปิดเผยความคืบหน้าเหตุคนร้ายยิงเอ็ม 79 ตกที่ ป.ป.ช. 2ลูก ว่าหลังจากเกิดเหตุได้มีการสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายลงพื้นที่ติดตามเหตุการณ์ สามารถจับผู้ก่อเหตุได้พร้อมอาวุธปืนอาก้าและระเบิดขว้าง เครื่องยิงเอ็ม79  จับได้ที่ป่าละเมาะใกล้ ป.ป.ช.เป็นพื้นที่รกร้างด้านหน้าเยื้องป.ป.ช. ภายในซ.นนทบุรี 46 ผู้ที่ถูกจับอ้างว่าเป็นการ์ดของกลุ่ม กวป. จับได้หลายคน 3-10 คนล่าสุด นำไปสอบปากคำที่ สภ.เมืองนนท์  ส่วนระเบิดที่พบประมาณ 5-6ลูก มีรายงานว่าจะนำตัวไปแถลงที่ ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.)  อย่างไรก็ตาม ภายใน1สัปดาห์มีเอ็ม 79 ประมาณ 5 ลูก ยิงใส่ ป.ป.ช.

+++นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ฐานะรักษาการประธานวุฒิสภา ได้เป็นประธานการประชุมทีมกฎหมายวุฒิสภา เพื่อพิจารณาถึงกรอบการพิจารณาการเปิดสมัยประชุมวุฒิสภา สมัยวิสามัญ  คาดว่ารายงานการตรวจสอบของป.ป.ช.ที่ชี้มูลความผิดนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา จะมาถึงสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ในวันนี้ และทันที่รายงานดังกล่าวมาถึงก็จะประสานไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อขอให้ตราพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมวุฒิสภา สมัยวิสามัญ โดยจะมีนายกฯ เป็นผู้เสนอและสนองพระบรมราชโองการ ส่วนจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับที่ประชุมครม. หากนำเข้าที่ประชุมครม.ในวันอังคาร ที่ 1 เม.ย. จะทำให้กระบวนการเร็วขึ้น ส่วนเรื่องการลงมติเพื่อถอดถอนนายนิคมจะนับองค์ประชุมอย่างไร ยังไม่มีข้อยุติ ซึ่งเราจะนัดประชุมเพื่อหารืออีกครั้งเป็นครั้งสุดท้ายช่วงบ่ายวันนี้

+++ความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย ในช่วงที่มีคดีต่างๆ อยู่ในช่วงที่จะมีการตัดสิน ทั้งเรื่องคดีจำนำข้าว และคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดพิจารณาในวันที่ 2 เม.ย. ว่าจะรับคำร้องของนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล และ ส.ว.สรรหา หรือไม่ เนื่องจากส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เรื่องการย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี พ้นจากเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ( สมช.)มิชอบว่าเป็นการก้าวก่ายแทรกแซงข้าราชการประจำตามมาตรา 266-267 ของรัฐธรรมนูญ และต้องห้ามตามมาตรา 182 อาจทำให้ ครม.พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะได้ทันที มีแนวทางที่จะผลักดันนายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกฯและ รมว.เกษตรฯ จากพรรคเพื่อไทย ขึ้นทำหน้าที่รักษาการนายกฯ และจะผลักดันให้เป็น นายกฯคนกลาง เพื่อลดแรงต้าน หากใช้คนของพรรคเพื่อไทยมารักษาการ

+++กปปส.เดินเส้นทางเยาวราช 28 มีค. เวลา 09.30 น. เจอกันที่ สี่แยกวัดตึก  เดินมาวงเวียนโอเดียน เข้าเยาวราช ถนนเจริญกรุง สี่พระยา เลี้ยวซ้ายเข้าสีลม เลี้ยวขวาถนนมเหศักดิ์ ถนนสาทร ถนนพระราม 4 ก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าสวนลุมพินี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ  เลขาธิการ กปปส. ประกาศว่า หลังพรุ่งนี้ที่นัดเคลื่อนขบวนใหญ่ จะเปิดเกมรุกอย่างต่อเนื่องเพื่อยึดอำนาจอธิปไตยคืนประชาชน และตั้งสภาประชาชาเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปภายใน 1-1 ปี ครึ่ง

+++ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย นัดพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคการเมือง53 พรรค ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้หารือที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน จ.นครปฐม เพื่อหารือเกี่ยวกับคำวินิจฉัยกลางและคำวินิจฉัยส่วนตัวของศาลรัฐธรรมนูญที่ชัดเจนหลังวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่2 ก.พ.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ทำให้พรรคการเมืองต่างๆ ต้องช่วยกำหนดทิศทาง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทางการเมืองและการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้ จากนั้นจะรวบรวมข้อมูลตั้งหมดเสนอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)พิจารณาต่อไป

 +++ขณะที่ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวได้ เพราะสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ไม่ใช่เวลาของการหารือระหว่างพรรคการเมือง ทางออกคือฝ่ายการเมืองควรถอยออกมาคนละ 1-2 ก้าว เพื่อให้ประชาชน หาทางออกให้ประเทศ  นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี วันแรก เริ่มต้นจากการระดมความเห็นพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศไทย ที่จะได้รับฟังความเห็นจากสมัชชาปฏิรูปทั้ง 7 ด้าน รวมทั้งนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแนวนโยบายประชาธิปัตย์ ส่วนการหารือเรื่องจะลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่จะหารือในวันที่ 29 มี.ค.

+++ความคืบหน้าการเข้ารักษาตัวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ล้มจนกระดูกไหปลาร้าแตก ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี คาดว่านายอภิสิทธิ์ จะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ในวันที่ 28 มี.ค. เพื่อกลับไปพักฟื้นที่บ้านพัก สำหรับการประชุมใหญ่สามัญพรรคประชาธิปัตย์ประจำปี  นายอภิสิทธิ์ได้มอบหมายให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทำหน้าที่ประธานการประชุมแทน โดยที่นายอภิสิทธิ์อาจจะไปร่วมการประชุม แต่จะไม่ขึ้นทำหน้าที่ประธานการประชุม

+++เข้าช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งสมากชิวุฒิสภา(ส.ว.) ในวันอาทิตย์นี้ ทำให้วันนี้ กกต. เปิดโครงการสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ส.ว.ฯ  ของผู้แทนองค์กรจัดการเลือกตั้งต่างประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ  โดยนายภุชงค์  นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. ขณะที่ นายธีรวัฒน์  ธีรโรจน์วิทย์ กกต. ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ  พร้อมนายธนิศร์  ศรีประเทศ รองเลขาธิการ กกต.ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมในการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง ส.ว. ณ สนง.กกต.จังหวัดเชียงราย   อุตรดิตถ์  พิษณุโลก

+++กรณี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าชี้แจงต่อ กกต. กรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติงบกลางจำนวน 2,309 ล้านบาท เพื่อไปใช้จ่ายดำเนินการในศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศรส.) ระหว่างวันที่ 22 ม.ค.-22 มี.ค. พล.ต.อ.อดุลย์ และคณะ ได้ชี้แจงว่า งบดังกล่าวจะใช้จ่ายในค่ากำลังพล และจากการรับฟังมีรายละเอียดในเรื่องตัวเลขค่อนข้างมาก ดังนั้น ในวันที่ 1 เม.ย. กกต.จะต้องเชิญผู้แทนฝ่ายกฎหมายของสำนักงบประมาณมาให้ข้อมูลอีกครั้ง ทำให้ กกต.ยังไม่มีมติในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากมีประเด็นพิจารณา 3 เรื่องคือ 1.เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายหรือไม่ 2.เป็นการใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่าหรือไม่ 3.การทำงานของ ศรส.เกิดประสิทธิผลหรือไม่

ศูนย์ข่าวแปซิฟิค/07.05น.