* ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.*
+++สภาพอากาศ ประจำวันนี้ ลมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย ทำให้ด้านตะวันตกของภาคเหนือและภาคกลาง รวมถึงภาคใต้ฝั่งตะวันตก ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ส่วนบริเวณอื่นๆ จะมีฝนน้อยในระยะนี้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันยังคงมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังไว้ด้วย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
+++เริ่มต้นเดินหน้า การนัดคู่ขัดแย้งมาเจรจาหาทางออกประเทศ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) จะมอบหมายให้คณะทำงานไปประสานงานแกนนำคู่ขัดแย้ง และองค์กรที่มีบทบาทในการแก้ไขปัญหาเข้าร่วมหารือ โดยมี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.และนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่ประธานวุฒิสภา เข้าร่วมเพื่อหาทางออกประเทศไทยอย่างเร็วที่สุด มีเหตุผลที่เป็นเบื้องหลังสำคัญ 3 ข้อที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ตัดสินใจประกาศใช้กฎอัยการศึก เมื่อก่อนย่ำรุ่งของวันอังคารที่ 20 พ.ค.2557
หนึ่ง คือ การข่าวของกองทัพชี้ชัดว่า สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในอีก 2-3 วันข้างหน้ามีโอกาสสูงที่จะเกิดความวุ่นวาย กองทัพบก (ทบ.) ตรวจพบการเตรียมการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และการลุกฮือของมวลชนในต่างจังหวัด โดยใช้เงื่อนไขการเคลื่อนไหวของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.)
สอง กองทัพได้ติดตามความเคลื่อนไหวของ "กองกำลังใต้ดิน" จนสามารถติดตามจับกุมทั้งคนและอาวุธได้จำนวนมาก กรณีล่าสุดคือที่ จ.นครนายก ก่อนหน้านั้นก็ใน กทม.เอง และเขตพื้นที่ปริมณฑล โดยเฉพาะกรณีนครนายกโยงใยจากนักการเมืองท้องถิ่น ถึงแกนนำผู้ชุมนุม และฝ่ายการเมืองระดับชาติอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ จากการจับกุมผู้ก่อเหตุและเตรียมการก่อเหตุได้บางส่วน ผลการสอบปากคำได้ข้อมูลเกี่ยวกับแผนการก่อเหตุรุนแรงขนาดใหญ่ ตรงตามข้อมูลการข่าว
สาม กลไกรัฐที่มีอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ได้แสดงบทบาทบิดเบือนจากที่ควรจะ เป็น เพราะแทนที่จะดูแลความสงบเรียบร้อย กลับกลายเป็นการสร้างเงื่อนไขและเป็นเครื่องมือเพื่อเล่นงานคู่ขัดแย้งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างชัดเจน
+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ผอ.กอ.รส.) กล่าวว่า การประกาศกฎอัยการศึกเพื่อต้องการลดความขัดแย้งของประชาชนทุกฝ่าย และต้องการรักษาความสงบเรียบร้อย รวมทั้งเพื่อแสวงหาทางออก ไม่ให้ มีความกดดันจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ทั้งนี้ จากการ ที่เชิญปลัดกระทรวง อธิบดีกรมต่างๆ ภาคเอกชน และภาคสังคมเข้าพูดคุย ได้ข้อสรุปว่าบ้านเมืองต้องเดินไปข้างหน้าให้ได้โดยสันติวิธี ที่ประชุม จึงมีมติร่วมกันหาทางออก ข้าราชการทุก กระทรวงต้องเข้มแข็ง ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ทุกคนให้สัญญาว่าจะปฏิบัติหน้าที่ของ ตนเองให้ดีที่สุด
สำหรับคู่ขัดแย้ง 2 ฝ่าย ขอให้อยู่ด้วยสันติวิธี หากใช้อาวุธ ทหารจะไม่ยอม ทหารให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย และขออย่านำเรื่องเก่ามาพูดกัน ต้องมองวันข้างหน้า ขอร้องทุกสื่อสร้างความเข้าใจ เราหวังพึ่งใครไม่ได้นอกจากคนไทย ต้องสลายสีเสื้อให้ได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า ขั้นต่อไปคือการทำรัฐประหารหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นคำถาม ที่ไม่อยากตอบ
เมื่อถามย้ำว่าเวลาจะดำเนินการใดๆ ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แล้วรัฐบาลอยู่ไหน เราก็ไม่รู้ ก็ทำงานกันไป ทำได้ก็ทำกันไป ตอนนี้ข้าราชการทำงาน ตนไม่ยุ่งกับรัฐบาล ข้าราชการและทหารทำงานเพื่อบ้านเมือง ทุกอย่างยังปกติ จะพยายามไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน
+++15.00 น. รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ร่วมหารือกับคณะกรรมการ ปปช. เพื่อรับฟังและให้ข้อเสนอแนะในการนำยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตไปประยุกต์ใช้จัดทำนโยบายการหาเสียงของพรรคการเมือง ณ ห้องประชุมผู้บริหาร ชั้น 3 อาคาร 1 สนง.ปปช. จ.นนทบุรี และหลังการหารือจะมีการแถลงข่าวร่วม
ขณะที่รัฐบาล โดยนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ยอมทุกอย่างเพื่อจะได้การเลือกตั้ง โดยได้ส่งหนังสือลงวันที่ 19 พ.ค. ถึงประธานกกต. แจ้งว่ารัฐบาลยินยอมที่จะให้มีการระบุข้อความว่า หากมีเหตุสุดวิสัยให้รัฐบาลออก พ.ร.ฎ.เลื่อนวันเลือกตั้งตามที่ กกต.ร้องขอไว้ในมาตรา 4 ของ ร่าง พ.ร.ฏ. แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดวันเลือกตั้ง ส.ส. เป็นการทั่วไป รัฐบาลแจ้งกกต.เสนอเลือกตั้ง3ส.ค.
++คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เรียกผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ 108 บริษัท เข้ามาหารือที่สำนักงาน กสทช.เพื่อร่วมกันควบคุมเนื้อหา
+++นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อกำหนดจุดยืนหลังการประกาศกฎอัยการศึก
+++กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงคมนาคม เรียกประชุมอธิบดีและหัวหน้าหน่วยงานเพื่อพิจารณาแนวทางการทำงานหลังประชุมร่วมกับ ผบ.ทบ. เมื่อวันที่20 พ.ค.
+++นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา เปิดเผยว่า พร้อมส.ว.รวม 33 คนได้เข้าชื่อตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 92 ประกอบมาตรา 182 วรรคสาม เพื่อขอให้ประธานวุฒิสภาส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่า คณะรัฐมนตรีได้กระทำการอันต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 268 เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 182 (7) หรือไม่ ในกรณีที่ใช้อำนาจในการออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในพื้นที่กทม., จ.นนทบุรี, อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี, อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 21 ม.ค.2557 รวมถึงออกคำสั่งแต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทั้งที่อยู่ระหว่างการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกายุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรใหม่
ทั้งนี้ถือว่าการใช้อำนาจดังกล่าวนั้นเข้าข่ายแทรกแซงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รวมถึงเป็นการกระทำที่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อพวกพ้องและพรรคเพื่อไทยในคะแนนนิยมให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการดังกล่าวถือว่าเป็นกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 268 ประกอบมาตรา 266(1)
+++วันนี้ ต้องติดตามต่อ หลังไฟไหม้ ตลาดโบราณบางพลี หลังวัดหลวงพ่อโต อายุกว่า 150 ปี บ้านเรือนวอดนับ 16 คูหา เผยไฟลุกไหม้นานกว่า 3 ชั่วโมง รถเข้าไม่ถึง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงลำบากต้องลงเรือฉีดน้ำข้ามคลอง หนำซ้ำหน่วยกู้ภัยรีบมาช่วยเหลือยังเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำเจ็บระนาว นางณัฎชานันท์ สิริวรนิพิฎ อายุ 54 ปี ให้การเบื้องต้นว่า บ้านต้นเพลิงน่าจะเป็นร้านขายขนมครกไข่นกกระทา ขณะเกิดเหตุเจ้าของไม่อยู่บ้าน ก่อนเกิดเหตุขณะตนกำลังเปิดร้านนวดตามปกติ ได้ยินเสียงระเบิดคล้ายแก๊สระเบิดดังขึ้นหนึ่งครั้ง และไฟก็ไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว คาดว่า เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ขณะที่ชาวบ้าน อ.บางพลี ต่างโศกเศร้ากับการที่ต้องสูญเสียตลาดเก่าแห่งนี้ นอกจากนี้ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยเกิดประสบอุบัติเหตุรถกระบะพลิกคว่ำบนทางด่วนแถวเซ็นทรัลพระราม 3 ระหว่างเดินทางไปช่วยดับไฟ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ รวม 7 ราย