*เสนอชื่อปธ.ศาลรธน.คนใหม่ให้วุฒิสภา/กกต.เสนอ2แนวทางลต.ภายใน5เดือนหรือ1-2ปี/เอกชนเตือน กฎอัยการศึกเกิน4เดือนกระทบความเชื่อมั่น*

22 พฤษภาคม 2557, 08:09น.


*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.



+++หลังนายจรูญ อินทจาร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ลาออกจากตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนจะครบกำหนดอายุ 70 ปี ในอีกไม่กี่วัน เพื่อเปิดทางให้มีการคัดเลือกประธานศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ ผลปรากฏว่าที่ประชุมมีมติ 6 เสียง เลือก นายนุรักษ์ มาประณีต เป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญคนต่อไปจากนี้ไป  สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้มีหนังสือกราบเรียนประธานวุฒิสภา  เพื่อนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายนุรักษ์ เป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญคนต่อไป



+++กกต.ได้เสนอแนวทางต่อที่ประชุม 2 แนวทาง คือ ให้จัดการเลือกตั้งโดยเร็วใน 5 เดือนนับจากนี้ โดย 3 เดือนแรก จะเป็นการเตรียมการ สร้างบรรยากาศ สร้างกลไก ที่เหมาะสม ให้การเลือกตั้งบริสุทธิ เที่ยงธรรม และใช้เวลา 2 เดือน จัดการเลือกตั้งตามกรอบของกฎหมาย ซึ่งข้อนี้รัฐบาลต้องเสียสละให้มีรัฐบาลรักษาการที่ไม่ใช่ฝ่ายการเมือง แต่ให้เป็นข้าราชการประจำระดับปลัดกระทรวง รักษาการแทน และแนวทางที่ 2 คือ ให้มีการเลือกตั้งในช่วง 1-2 ปี หลังจากนี้ ซึ่งฝ่ายที่เลือกแนวทางนี้จะต้องเสนอกลไกการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่ถูกกฎหมาย มีหลักประกันว่าเป็นคนที่ทุกฝ่ายยอมรับอย่างแท้จริง



+++ส่วนที่รัฐบาลเสนอให้จัดการเลือกตั้งวันที่ 3 สิงหาคมนั้น  กกต.เห็นว่า เมื่อประกาศใช้กฎหมายอัยการศึกแล้ว จำเป็นต้องหารือกับ กอ.รส. ด้วย ซึ่งหาก 3 ฝ่ายยืนยันจะจัดการเลือกตั้งวันที่ 3 สิงหาคม ก็สามารถดำเนินการได้ กกต.จะได้ทำหนังสือตอบกลับรัฐบาล"



+++ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ที่มีพฤติการณ์ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีร่วมลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาส.ว. อีก 2 คนที่มีพฤติกรรมดังกล่าว คือ นางภารดี จงสุธนามณี อดีตส.ว.เชียงราย และพล.ท.พงศ์เอก อภิรักษ์โยธิน อดีตส.ว.พะเยา ป.ป.ช.จึงมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ชี้มูลความผิด ทำให้ยอดส.ว.ที่ถูกชี้มูลรวมทั้งสิ้น 38 คน



+++ภาคธุรกิจถกประเมินใช้กฎอัยการศึก นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่าได้ การประกาศใช้ กฎอัยการศึกในระยะสั้น ไม่น่าจะส่งผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจไทยมากนัก  การใช้ชีวิตของประชาชนยังเป็นปกติ และ หวังว่ากองทัพน่าจะประกาศใช้ระยะสั้นเท่านั้น หากยังไม่ยกเลิกภายใน 3-4 เดือนก็อาจจะ เกิดผลกระทบเศรษฐกิจระยะยาวได้ เพราะจะทำให้ต่างชาติทั้งนักท่องเที่ยว นักลงทุน ขาดเชื่อมั่น ไทย ที่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาการเมืองได้



+++นายเซตซึโอะ อิอุจิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กล่าวว่า กฎอัยการศึกอาจมีผลกระทบกับไทยด้านการท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวอาจไม่มั่นใจ และชะลอการเดินทางมาไทย แต่ในด้านอื่นๆ อาจไม่กระทบมากนัก  สำหรับนักธุรกิจต่างชาติในไทย ที่คุ้นเคยกับความขัดแย้งทางการเมือง คงไม่หวาดวิตก หรือหวั่นเกรงเหตุการณ์ในไทย แต่ก็หวังให้ไทยหาทางออกโดยเร็ว และด้วยสันติวิธี  จะทำให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อได้ นักธุรกิจญี่ปุ่น ยังคงมั่นใจที่จะทำธุรกิจในไทยต่อไป เพราะไทยมีศักยภาพหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทักษะแรงงาน



+++ด้านนายบุญชัย โชควัฒนา กรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า การประกาศกฎ อัยการศึกที่ไม่ได้มีข้อกำหนดเคอร์ฟิว สถานการณ์ชุมนุมทาง การเมืองที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้ประชาชนไม่อยากจับจ่ายซื้อสินค้า ทำให้กำลังซื้อลดลง ส่งผลกระทบ ต่อยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ ลดลง10-15%ในช่วงที่ผ่านมา โดยกำลังซื้อของ ผู้บริโภคในต่างจังหวัดก็ปรับลดลงเช่นกัน เนื่องจากเกษตรกรไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าว ทำให้ไม่มีเงินในการใช้จ่าย   ช่วงที่เหลือ ของปีนี้ มองว่าบรรยากาศการจับจ่ายของประชาชนขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองเป็นหลัก



+++ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  เรียกประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัด เพื่อทำความเข้าใจถึงการประกาศใช้กฎอัยการศึก โดยจะเสนอให้กอ.รส.ช่วยชี้แจงและทำความเข้าใจกับสถานทูตทุกประเทศให้ชัดเจนเกี่ยวกับกฎอัยการศึก เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบด้านการท่องเที่ยว หลังจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.รายงานว่าการชุมนุมทางการเมืองส่งผลให้ปริมาณผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิลดลง 5-10% โดยปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยเหลือวันละ  120,000 คน จากเดิม 150,000 คนต่อวัน  



+++ขณะที่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่าการประกาศใช้กฎอัยการศึก ส่งผลให้ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ออกประกาศเตือนผู้โดยสารที่เดินทางมาไทย ซึ่งการบินไทยจะติดตามผลกระทบตัวเลขผู้โดยสารอีกครั้ง ทั้งนี้ได้สั่งให้การบินไทยประสานกับตัวแทนจำหน่าย และสำนักงานการบินไทยที่ประจำ ทั่วโลก เร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้โดยสาร



+++วันนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและยอดประกอบการยานยนต์เดือน เม.ย. 2557 เวลา 11.00 น.ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 



+++แนวโน้มการลงทุนในวันนี้คาดว่า ตลาดหลักทรัพย์ยังแกว่งตัวในกรอบ 1,380-1,420 จุดเพราะตราบใดที่ยังไม่มีพัฒนาการทางการเมืองในเชิงบวก แต่ถ้าหากการเมืองมีความชัดเจนขึ้นและมีทางออก ก็จะเป็นผล  เมื่อวานปิดตลาดที่ระดับ 1,402.92 จุด เพิ่มขึ้น 8.23 จุด มูลค่าการซื้อขาย 34,120.44 ล้านบาท



+++ นายคมสัน ทองสิริ เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เปิดเผยว่า ได้รณรงค์สมาชิกรัฐวิสาหกิจกว่า 40องค์กรให้หยุดงานวันที่ 22-23พฤษภาคม เพื่อเข้าร่วมชุมนุมตามแนวทางเดียวกับ กปปส.แม้จะประกาศกฎอัยการศึก หากวุฒิสภาไม่สามารถหาทางออกประเทศและตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลาง ซึ่งเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายได้ภายในวันที่ 26พฤษภาคม พร้อมกับยกระดับการชุมนุม คาดว่าอาจมีพนักงานรัฐวิสาหกิจร่วมหยุดงานไม่น้อยกว่าร้อยละ70-80 แม้ถูกฝ่ายบริหารขอความร่วมมือห้ามหยุดงานก็ตาม



+++ภายใต้กฎอัยการศึก พี่ไทยไม่เคยหยุดฟิน.." วลีเสียดสี เอาฮาของชาวโซเชียลเน็ตเวิร์ก ในสภาวะอึมครึมของการเมืองไทย หลายคนต้องทนฝืนยิ้มคิดบวกกันตามกระแส บางคนก็บอกว่าไม่แคร์ต่อสถานการณ์ตึงเครียดใดๆ  ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม นักจิตวิทยาชื่อดัง สะท้อนมุมมองด้านจิตวิทยาว่า เป็นเรื่องเหลือเชื่อ ไม่เคยเกิดขึ้นที่ใดในโลก มีแต่ที่เมืองไทย อะเมซิ่งไทยแลนด์ ถ้าเป็นต่างประเทศมีการประกาศกฎอัยการศึก พลเมืองจะมีความเครียดมาก ตื่นตระหนก รีบกันกักตุนอาหาร แต่เมืองไทยเฉย สะท้อนได้ว่า คนไทยมีอารมณ์ขัน จากสิ่งที่เก็บกดมานานหลายเดือน ซึ่งไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ช่วงที่เขาสบายใจ จิตใจสงบ อารมณ์ขันก็จะเกิดขึ้น บวกกับจิตใจสำนึกของคนเราที่มองทหาร ตำรวจ เป็นฮีโร่ เป็นวีรบุรุษ เป็นอัศวินม้าขาว จึงสะท้อนสิ่งเหล่านี้ ออกมาในโซเชียลมีเดีย



+++สร้างความเซอร์ไพรส์เมื่อ "หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย" ได้แถลงข่าวแต่งงานกับ เมย์ เฟื่องอารมย์ ในงานฉลองครบรอบวันเกิด 28 ปี ของสาวเมย์ โดยเผยว่า ได้แต่งงานจดทะเบียนกันมาแล้วตั้งแต่ปี 2555 แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะหมอดูทำนายทายทักไว้  นอกจากนั้นสาวเมย์ยังตั้งครรภ์แล้ว 3 เดือน โดยวิธีทางวิทยาศาสตร์ ทำให้เมย์ไม่สามารถรับงานได้ตามปกติเพราะต้องดูแลสุขภาพร่างกาย แต่ยังไม่ทราบเพศลูกที่แน่ชัดกำหนดคลอดปลายพฤศจิกายน 

ข่าวทั้งหมด

X