*กอ.รส.แถลงจับอาวุธสงครามได้จำนวนมาก

22 พฤษภาคม 2557, 10:31น.


พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ได้แถลงผลการตรวจสอบอาวุธสงครามภายหลังการประกาศกฎอัยการศึกษา ซึ่งหลังการประกาศใช้ได้สามารถจับกุมได้ 5 กรณี ที่จ.ลพบุรี  นครนายก สมุทรสาคร ปทุมธานีและกรุงเทพมหานคร โดยกรณี จ.สมุทรสาครเป็นการขยายผลมาจากจ.ลพบุรี ส่วนจ.นครนายก อยู่ระหว่างติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี  ในช่วงที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองนครนายกสามารถยึดอาวุธสงคราม2กระบอกเป็นปืนอาก้าและปืนเซกาเซ ที่ซ่อนอยู่ในรถเก๋งมาสด้า 3 สีขาว ทะเบียน ณฐ 548 กทม.ซึ่งจอดอยู่หน้าทางเข้าโรงแรมจันทร์ทรา รีสอร์ท อ.เมือง จ.นครนายกได้



ขณะที่ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีก็สามารถตรวจยึดเสื้อเกราะกันกระสุนได้ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่103 หมู่ 8 ต.ชอนสารเดช อ.หนองม่วง จ.ลพบุรีและจับกุมนายเชาวร์วัฒน์ ทองเผือก อายุ 54 ปี อดีตทหารพรานพร้อมของกลางอาวุธสงครามจำนวนมาก อาทิ อาวุธปืนยาวเอเค หรืออาก้า 1 กระบอก พร้อมกระสุน เครื่องกระสุนปืนขนาด 5.56 จำนวน 800 นัด เครื่องกระสุนปืนขนาด 11 มม. 156 นัด เครื่องกระสุนปืนเอเค 47 จำนวน 88 นัด เครื่องกระสุนปืนคาร์บิน จำนวน 60 นัด,วัตถุระเบิดเอ็ม 18 เอ 1 จำนวน 1 ลูก ฯ



จากนั้นได้ขยายผลการจับกุมและนำกำลังเข้าตรวจค้นห้องพักของ น.ส.จันทนา วรากรสกุลกิจ ใน ซ.สวนหลวง ถ.สวนหลวง เขตกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พบอาวุธสงครามพร้อมกระสุน18รายการ เช่น ปืนเอเค 47 (พับฐาน) 1 กระบอก พร้อมกระสุน 777 นัด,ปืนไรเฟิล 1 กระบอก พร้อมกล้องส่อง และกระสุนในซองพร้อมยิง 38 นัด ,เครื่องยิงเอ็ม 79 จำนวน 1 กระบอก พร้อมลูกยิงระยะไกล (ลย.) ขนาด 40 มม. จำนวน 9 ลูก 4.ปืนเอ็มพี 1 กระบอก พร้อมกระสุน 48 นัด 5.ปืนคาร์บิน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 154 นัด 6.ปืนเอ็ม 4 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 275 นัด และที่เก็บเสียง,ระเบิดแสวงเครื่องที่ยังไม่บรรจุจำนวน 8 ลูก ,ระเบิดขว้างชนิด RDG5, เอ็ม 26, เอ็ม 67 จำนวน3ลูก ฯรวมถึงพบบัตรเจ้าหน้าที่ นปช. "รวมพลคนประชาธิปไตย" และบัตรการ์ด นปช.หมายเลข 3084อยู่ในห้องพักดังกล่าวด้วย



พร้อมกันนี้ยังยืนยันว่าการประกาศบังคับใช้กฎอัยการศึก พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.มีอำนาจเต็มที่จะประกาศใช้และมีผลทันที ซึ่งเป็นอำนาจโดยชอบของ ผบ.ทบ.



ด้าน พ.อ.หญิงศิริจันทร์มกล่าวยืนยันว่าการประกาศกฎอัยการศึกไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน และกอ.รส.พร้อมที่จะปกป้องดูแลรักษาความปลอดภัย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ  ซึ่งหากสถานทูตใดมีความประสงค์ต้องการขอกำลังทหารในการดูแลรักษาความปลอดภัย กอ.รส.ก็พร้อมให้การสนับสนุนกำลังพล   รวมถึงยืนยันว่าขณะนี้ กอ.รส.ยังไม่ได้มีการตั้งเว็ปเพจใดๆทั้งสิ้น ส่วนที่ปรากฎอยู่ในขณะนี้เชื่อว่าอาจเป็นผู้หวังดีตั้งแฟนเพจขึ้นมาให้ โดย กอ.รส.เองอยู่ระหว่างการดำเนินการทำเว็ปเพจอย่างเป็นทางการ



 ด้าน พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษก ทบ.เปิดเผยว่าในวันพรุ่งนี้ (23 พ.ค.57)จะเชิญผู้ช่วยทูตทหารจากประเทศต่างๆเข้ามาชี้แจงทำความเข้าใจ โดยมี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ.ในฐานะรอง ผอ.รส. เป็นประธานการประชุม

ข่าวทั้งหมด

X