*สุเทพ เตรียม แจ้ง 4 ข้อเสนอ ต่อที่ประชุม 7 ฝ่ายรอบที่ 2 วันนี้ *

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.พร้อมด้วยแกนนำเครือข่ายทั่วประเทศ และองค์กรต่างๆ ประชุม บริเวณเวทีใกล้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนที่ตัวแกนนำจะส่งตัวแทนไปประชุมร่วมกับ กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ กอ.รส. และกลุ่มต่างๆ ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต เวลา14.00 น.

นายสุเทพ ชี้แจงถึงการเรียกประชุมวันนี้ ระบุว่า มีเรื่องที่ต้องหารือ ตามที่ พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นเจ้าภาพ เชิญฝ่ายต่างร่วมหารือ ซึ่งสอดคล้องกับ กลุ่ม กปปส. ที่เรียกร้อง มาตลอดให้ข้าราชการ ให้ออกมารับผิดชอบแก้ปัญหาบ้านเมือง ไม่รับใช้ระบอบทักษิณ โดยฝ่ายทหารได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ต้องขอชื่นชมทหารที่ประกาศกฎอัยการศึก เพื่อระงับเหตุร้าย และสร้างบรรยากาศการหารือ ซึ่งถือว่าทหารนำตัวเองมาแบกรับปัญหาประเทศ หากทหารไม่ลงมือทำ การชุมนุมก็จะเสี่ยงต่ออันตราย และเกิดปราบปราม โอกาสที่จะเจรจากับฝ่ายต่างๆจะทำได้ยาก

นายสุเทพ เปิดเผย ถึงการหารือกับ กอ.รส. เมื่อวานนี้ โดยมีข้อเรียกร้องจาก กปปส. ข้อเเรก ถึงกรณี ประเทศไทยไม่มีนายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจเต็ม จำเป็นต้องมีนายกฯที่มีอำนาจเต็ม เพื่อที่แก้ปัญหาประเทศ โดยยกตัวอย่าง ปัญหาชาวนา ปัญหาเศรฐกิจของประเทศ รวมถึง การเงินการคลังของประเทศ ย้ำว่า หากไม่มีนายกฯอำนาจเต็มจะไม่มีเงินจ่ายให้ข้าราขการ วันที่1 ตุลาคม โดยระบุต้องมีนายกฯทันทีไม่ต้องบอกว่ามาจาก รัฐธรรมนูญ  มาตราไหน

ข้อเรียกร้องที่2 ต้องไม่มี คณะรัฐมนตรี ที่มาจากพรรคการเมืองใด รวมถึงนอมินีด้วย ข้อเรียกร้องที่3 ขอให้ นายกฯ คณะรัฐมนตรี ที่มาจากประชาชน ต้องปฎิรูปประเทศไทยให้เรียบร้อยก่อน จึงจะมีการจัดการเลือกตั้ง และข้อเรียกร้องที่ 4 ขอให้ กลุ่ม นปช. มาร่วมมือทำเพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน

จากนั้น นายสุเทพ ได้ขอมติจากที่ประชุม กปปส.เพื่อขอคำยืนยันว่า จะนำข้อเสนอเดิมไปเจรจากับกอง กอ.รส. และกลุ่มต่างๆ ที่สโมสรทหารบก เวลา14.00 น.โดยที่ประชุม มีมติเห็นด้วยให้นำข้อเสนอเดิมไปหารือต่อวันนี้

นายสุเทพ ย้ำ พรุ่งนี้ 17.00 น. ยืนยันยังคง ชุมนุมใหญ่ โดย18.00 น. ร่วมร้องเพลง  เป่านกหวีดพร้อมกัน และชุมนุมถึง เวลา 21.00 น. โดยจะทำแบบนี้ติดต่อกัน 3 วัน  คือ 23-24-25 พ.ค. ใช้พื้นที่ ตลอดถนนราชดำเนิน จนถึงพระบรมมหาราชวัง  เพื่อประกาศอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน โดยนายสุเทพ เชื่อมั่นว่า ประเทศจะถูกแก้ไขด้วยพลังของมวลมหาประชาชน