ความคืบหน้าคดีการจับกุมอดีตทหารพรานพร้อมอาวุธปืนสงคราม ที่จ.ลพบุรี พ.ต.อ.ศุภโยชน์ ธารีไทย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้เดินทางไปขออนุมัติหมายจับนางสาวจันทนา วรากรสกุลกิจ การ์ดนปช. พร้อมด้วยนายชัชชาญ บุปผาวัลย์ สองสามีภรรยา ที่ถูกนายเชาว์วัฒน์ ทองเผือกหรือ นวย อายุ 53 ปี อดีตทหารพรานการ์ดเสื้อแดง ให้การซัดทอดว่าอาวุธสงครามทั้งหมดที่ตรวจค้นพบที่บ้านของตนเองเป็นของนางจันทนา และนายชัชชาญ ซึ่งศาลอาญาจังหวัดลพบุรีจึงได้ออกหมายจับเลขที่ 90/2557 ทั้งสองในข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีวัตถุระเบิด เครื่องยุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และผลิตวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดนายชัชชาญ บุปผาวัลย์ หลังจากที่นางสาวจันทนา ถูกจับกุมไปแล้ว
ภายหลังมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมเชาว์วัฒน์ แล้ว ซึ่งให้การซัดทอดว่าอาวุธปืนสงครามเป็นของนางสาวจันทนา และนายชัชชาญ ทำให้ ทหารรพร้อมกำลังตำรวจกองปราบจึงเข้าจับกุมนางจันทนา ได้ที่อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พร้อมของกลางอาวุธปืนสงครามและบัตรการ์ด นปช. รวม 20 รายการ ส่วนนายชัชชาญ สามีของนางจันทนา อยู่ในระหว่างการหลบหนีจับกุม
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช.พร้อมแกนนำนปช.ร่วมกันแถลงข่าวประจำวัน กรณีเจ้าหน้าที่จับกุมอาวุธสงครามได้อย่างต่อเนื่องนั้น ยืนยันว่า นปช. ยังคงต่อสู้ตามแนวทางสันติวิธี ปราศจากอาวุธ แต่ขอตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติในการกรณีการจับกุม ว่าเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับทหารในการใช้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าล้อมปราบประชาชนที่ถนนอักษะหรือไม่ จึงอยากร้องขอไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ขอย้ำว่ากลุ่มนปช. ไม่ได้ต่อสู้ด้วยกองกำลังติดอาวุธ เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหากรณีชายชุดดำหรือกองกำลังไม่ทราบฝ่าย และได้มอบหมายให้นายอารี ไกรนรา หัวหน้าการ์ด นปช. จัดกำลังตรวจสอบพื้นที่การชุมนุม โดยห้ามนำอาวุธเข้ามาในพื้นที่โดยเด็ดขาด