ดร.อาเจย์ มาเธอร์ ผู้แทนเจรจาระดับอาวุโสของทางการอินเดีย เปิดเผยว่า อินเดียพร้อมที่จะลดการใช้เชื้อเพลิงถ่านหิน หากได้รับความช่วยเหลืออย่างเหมาะสม เนื่องจากพลังงานสะอาดต้องใช้การลงทุนสูง และมีราคาแพง โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าถ่านหินถึง 2 เท่า คำกล่าวของผู้แทนจากอินเดียมีขึ้นในระหว่างการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 21 หรือ “ซีโอพี21” ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งอินเดียกำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นประเทศที่นำเข้าถ่านหินมากที่สุดในโลกภายในปี 2563 เนื่องจากมีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับประชากร 300 ล้านคน คำประกาศนี้จึงทำให้หลายประเทศแสดงความยินดี และส่งผลให้การเจรจามีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้ อินเดียเสนอแผนการทำงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตั้งแต่ก่อนที่การประชุมจะเริ่มขึ้น ส่วนหนึ่งคือการระบุว่า อินเดียมีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นและการใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นสิ่งจำเป็นเพราะมีต้นทุนที่ราคาถูก แต่อินเดียก็พร้อมที่จะเปลี่ยนการใช้พลังงานหากได้รับความช่วยเหลือ โดยยังมีแผนที่จะขยายการผลิตถ่านหินเป็น 1 พัน 5 ร้อยล้านตันในปี 2563 ซึ่งหมายความว่าจะต้องเปิดสัมปทานเหมืองแห่งใหม่เดือนละแห่งจนกว่าจะถึงสิ้นสุดทศวรรษนี้
ก่อนหน้านี้ นายประกาศ จาวาดีการ์ รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอินเดีย กล่าวว่า อินเดียย่อมมีสิทธิ์ที่จะเลือกใช้พลังงานถ่านหินได้เท่าที่ต้องการ จากนั้นผู้แทนของอินเดียในการประชุมสหประชาชาติก็นำเสนอแนวทางในการเจรจาต่อรองเพื่อลดการใช้พลังงานถ่านหิน
..F163..