พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ให้ตรึงราคาก๊าซแอลพีจี ตามข้อกำหนดเดิมจะมีการปรับขึ้นเดือนละ 0.50 บาทต่อกิโลกรัม ไปจนถึงเดือนกันยายน 2557 และร้านค้าที่มีการปรับขึ้นราคาไปแล้ว ก็ขอให้กลับไปใช้ราคา ณ วันที่ 31 พฤษภาคม ที่ 22.63 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 ก็จะยังไม่มีการปรับขึ้นเช่นกัน โดยจะมีการนำเข้าหารือกับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ โดยมีการทำงานที่กำหนดให้เสร็จสิ้นในเดือนมิถุนายนนี้ รวม 30 เรื่อง ซึ่งเกี่ยวข้องกับสถาบันการเงินและที่อยู่อาศัย
โดยในการประชุมกับผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมเมื่อวานนี้ ได้มอบให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับบีโอไอพิจารณาการตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน โดยให้ส่งรายชื่อให้กับหัวหน้า คสช. พิจารณาภายในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ ส่วนการพิจารณาโครงการขอส่งเสริมการลงทุนที่ค้างอยู่กว่า 7 แสนล้านบาทนั้น คาดว่าจะเสร็จทั้งหมดภายใน 2 เดือน ส่วนปัญหาการขอใบอนุญาตตั้งโรงงาน หรือ รง.4 นั้น ให้ลดเวลาดำเนินงานจากเดิม 90 วัน ลดเหลือ 30 วัน โดยตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกให้กับผู้ลงทุนและผู้ประกอบการภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งขณะนี้มียอดการขอใบ รง.4 ที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานไม่เกิน 90 วัน อยู่ประมาณ 200 ราย ส่วนใหญ่เป็นโรงงานขนาดกลางและเล็ก
ตามที่ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) หัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา คสช. มอบให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ทบทวนโครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพาต่อ 1 นักเรียน และนัดหารือร่วมกันอีกครั้ง เพื่อหาข้อยุติในวันนี้
นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า โครงการนี้ ยังมีอีก 7 หน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัดเป็นเจ้าของงบประมาณ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น และสำนักการศึกษาเมืองพัทยา ซึ่งทั้งหมดจะร่วมการพูดคุยในวันนี้
เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบนโยบายการทำงาน 7 ฝ่ายที่เน้นให้ปลัดกระทรวงเป็นคนขับเคลื่อน และจัดตั้งศูนย์ปรองดองฯ โดยให้กระทรวงมหาดไทยและกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ช่วยกันขับเคลื่อน มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นแม่งานใหญ่ ซึ่งในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ กอ.รมน.จะประชุมกำหนดทิศทางแนวทางการปรองดองและการทำกิจกรรมต่างๆ
ส่วนโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ให้ดำเนินการในแนวทางเดียวกับกรณีกระทรวงศึกษาธิการ คือ เน้นการเป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนยอมรับ ผ่านการตรวจสอบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและทุกหน่วยงานไม่มีข้อขัดแย้ง พร้อมทำประชาพิจารณ์ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ส่วนของรถไฟฟ้าความเร็วสูงให้ดูข้อดีข้อเสีย ความคุ้มค่า แหล่งเงินทุน ไม่กระทบวินัยการคลัง การก่อหนี้สาธารณะ และ คสช.จะเชิญนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมว.คมนาคม มาพูดคุยเพราะเป็นคนที่มีความรู้ เพื่อจะได้ศึกษาในด้านต่างๆ
ขณะที่การบริหารจัดการน้ำ 3 แสน 5 หมื่นล้านบาทจะนำมาเพียงบางส่วน เน้นไปที่โครงการแนวทางพระราชทาน เช่น โครงการแก้มลิง การขุดลอกคูคลอง ให้กรมชลประทานไปดูแลและให้ทหารเข้าไปทำ
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมว.คมนาคม กล่าวว่า ทางกระทรวงคมนาคมก็พยายามเดินหน้าศึกษาโครงการเต็มที่ และส่วนตัวก็พร้อมให้ความร่วมมือ
*-*