*ตร.ปราบปรามอาชญากรรมศก.หารือธปท.สกัดแก็งสกิมเมอร์ เร่งติดชิพสกัดคัดลอกข้อมูล*

03 มิถุนายน 2557, 14:17น.


การประชุมสืบสวนขบวนการโจรกรรมข้อมูลบัตรเครดิต หรือแก๊งสกิมเมอร์บัตรเครดิต โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองบังคับการปราบปรามอาชญากรทางเศรษฐกิจ(ปอศ.) และธนาคารแห่งประเทศไทย เข้าร่วมประชุมตั้งแต่เวลา10.00น. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม ตำรวจกองบังคับการปราบปราม สามารถจับกุมแก๊งสกิมเมอร์ชาวไทยที่ร่วมมือกับต่างชาติได้ จากการสืบสวนและแลกเปลี่ยนข้อมูลในวันนี้ พบว่าตรงกับข้อมูลในรอบ2ปีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีชาวต่างชาติร่วมขบวนการ อาทิ ชาวมาเลเซีย รัสเซีย และยูเครน โดยมีรูปแบบคล้ายกัน คือการนำเครื่องสกิมเมอร์ไปติดตามเครื่องอ่านบัตร เพื่อบันทึกข้อมูลและรหัส ก่อนนำไปคัดลอกลงในบัตรใบใหม่ และใช้กดเงินสดหรือรูดซื้อสินค้า ซึ่งต่อมามีพัฒนาการเพิ่มขึ้น คือการร่วมมือกับพนักงานตามร้านอาหารหรือตามเคาท์เตอร์ชำระสินค้า ในการติดเครื่องสกิมเมอร์ขนาดเล็ก(mobile skimmer) หรือบางขบวนการจะเป็นคนร้ายชาวไทยที่เคยร่วมมือกับชาวต่างชาติมาก่อน และเมื่อรู้ช่องทางก็แยกตัวมากระทำผิดเอง โดยหาซื้อเครื่องสกิมเมอร์จากต่างประเทศได้ไม่ยาก



อย่างไรก็ตามข้อมูลทั้งหมดได้มีการแลกเปลี่ยนกันในที่ประชุม โดยให้กองบังคับการปราบปรามอาชญากรทางเศรษฐกิจ เป็นหน่วยงานหลักในการปราบปราม  นายขจรวุฒิ ตยานุกรณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารแห่งประเทศไทย ยืนยันว่า หากลูกค้าธนาคารตกเป็นเหยื่อแก๊งสกิมเมอร์ ธนาคารจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทรัพย์สินของลูกค้า เพราะถือว่าลูกค้าไม่มีความผิดและไม่ได้ใช้จ่ายจริง แต่สิ่งที่ตามมาคือ ความเสียหายในระบบเศรษฐกิจที่ลุกลามมากขึ้นเรื่อยๆในประเทศไทย วิธีการหนึ่งที่ธนาคารได้ข้อตกลงร่วมกันคือ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2559 เป็นต้นไป ทุกธนาคารจะออกบัตรที่มีชิพสมาร์ทการ์ดติดตั้งอยู่ด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบข้อมูลขณะใช้บัตร และป้องกันการคัดลอกข้อมูลได้100% แลกกับการลงทุนที่สูงขึ้น ที่ผ่านมามีบางธนาคารที่เริ่มทำแล้ว เช่น ธนาคารกรุงเทพ ที่เริ่มทำตั้งแต่ปี2552 และออกบัตรไปแล้วกว่า3ล้านใบ



 



 



อภิสุข

ข่าวทั้งหมด

X