*แหล่งท่องเที่ยวคึกคัก หลังยกเลิกเคอร์ฟิว/กสทช.ยังห้ามวิทยุชุมนุมออกอากาศ/คลิปทหารฝากให้คิด ทหารทำเพื่อปท.ชาติ-ปชช.*

04 มิถุนายน 2557, 08:12น.


*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.



+++คสช. ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.ภูเก็ต สำหรับในพื้นที่อื่นให้ยังคงปฏิบัติตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 42/2557 ลงวันที่ 26 พ.ค. 2557 เรื่องแก้ไขห้วงเวลาห้ามออกนอกเคหสถานจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง



+++นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ตามที่คสช. ประกาศยกเลิกคำสั่งเคอร์ฟิวนั้น เชื่อว่าจะส่งผลให้บรรยากาศท่องเที่ยวกลับมาคึกคักมากขึ้นอีกครั้งและส่งผลดีต่อนักท่องเที่ยวที่กำลังตัดสินใจมาเที่ยวเมืองไทย เพราะ 3 แหล่งท่องเที่ยวดังกล่าวถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า หาก คสช. เห็นว่าพื้นที่ใดยังสามารถยกเลิกเคอร์ฟิวได้อีกก็อยากให้พิจารณา เพราะจะทำให้บรรยากาศท่องเที่ยวผ่อนคลายมากขึ้น  นายกฤษฎา ตันสกุล นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ภาคใต้ กล่าวว่า การประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวใน 3 จังหวัดซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักจะช่วยลดบรรยากาศความตึงเครียด รวมถึงทำให้มีความต้องการอยาก ท่องเที่ยวได้มากขึ้น และต่อจากนี้หน่วยงานหลักคือ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะ ต้องเร่งจัดแคมเปญพิเศษกระตุ้นการท่องเที่ยวต่อไป



+++ส่วนนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช. เปิดเผยว่า สำหรับการออกอากาศโทรทัศน์ในขณะนี้ถือว่าเกือบจะเข้าสู่สภาพที่ปกติไม่ว่าจะเป็นฟรีทีวี 6 ช่อง ทีวีดิจิตอล 23 ช่อง ช่องรายการดาวเทียม  333 ช่อง และช่องรายการเคเบิลทีวี 211 ช่อง โดยยังเหลือช่องรายการดาวเทียมที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม 98 ช่อง ซึ่งทางที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) จะพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 6 มิ.ย.นี้  ส่วนช่องรายการที่ คสช. สั่งระงับ 13 ช่องดาวเทียม  ช่องวอยซ์ ทีวี และวิทยุชุมชนประมาณ 7,000 สถานี แบ่งรับใบอนุญาตทดลองจำนวน 4,000 สถานีและวิทยุที่ไม่ได้รับอนุญาตออกอากาศ 3,000 สถานี ยังไม่อนุญาตให้ออกอากาศ นอกจากนี้กำลังพิจารณาทีวีอินเทอร์เน็ต 24 ช่องรายการว่าจะให้ออกอากาศได้หรือไม่



+++แผนการขับเคลื่อนธุรกิจของเครือสหพัฒน์ในครึ่งปีหลัง นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้ใส่เกียร์ 5 เดินหน้าขยายการลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอาหาร ธุรกิจบริการ (เซอร์วิส) และโลจิสติกส์ ที่ยังลงทุนน้อย รวมทั้งการผนึกทุนญี่ปุ่นในขยายธุรกิจต่อเนื่อง ขณะนี้มีการเจรจาอยู่กว่า 10 ราย และคาดปี 2558 จะเปิดเผยรายละเอียดการลงทุนได้  ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศทั้งการสร้างนิคมอุตสาหกรรมในพม่า มองว่า หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศ และมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา นับเป็นแรงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจใทยปีนี้ขยายตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากซบเซามานาน



+++นอกจากนี้ หากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลค่าเงินบาทให้อ่อนค่าในระดับเหมาะสมที่ 33.5-34 บาทต่อดอลลาร์ จะมีส่วนสนับสนุนภาคส่งออก ดันให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้ มีโอกาสขยายตัวอยู่ที่ 2-3%ปัจจุบันการส่งออกสินค้าของเครือสหพัฒน์ มีสัดส่วนไม่ถึง 20% จากเดิมเคยส่งออก 30% เป็นผลมาจากอัตราแลกค่าเงินบาทที่แข็งค่า



+++ ส่วนนโยบายเร่งด่วนที่คสช.จะต้องดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจ คือ การส่งเสริมการส่งออกให้ขยายตัว โดยเฉพาะการเร่งส่งออกข้าวให้เร็วที่สุด เพราะการค้าขายจำเป็นต้องอิงผู้บริโภคฐานรากที่เป็นชาวนาชาวไร่ เมื่อคนกลุ่มนี้มีรายได้ ก็จะทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศขยายตัว รวมไปถึงดูแลอัตราแลกเปลี่ยนให้สนับสนุนต่อการค้าขาย



+++ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยจะแถลงข่าวสถานการณ์ส่งออกและแนวโน้มการส่งออกในครึ่งปีหลังที่สมาคมฯ ซ.งามดูพลี เวลา 10.30 น.ต้องติดตามว่าสมาคมฯ จะมีข้อเสนอถึงแนวทางการแก้ปัญหาราคาข้าวอย่างไร หลังจากมีการจ่ายเงินชาวนาและการควบคุมสต๊อก ทำให้ราคาข้าวของไทยเริ่มดีดตัวขึ้นมาเฉลี่ยตันละ 300 บาท



+++วันนี้ นัดเปิดตัว "กลุ่มจับตาปฎิรูปพลังงานไทย" เวลา 11.00-12.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (ซ.ราชวิถี 7) อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  แกนนำประกอบด้วย นางสาวรสนา โตสิตระกูล นางสาวบุญยืน ศิริธรรม อดีตสมาชิกวุฒิสภา นายเดชรัต สุขกำเนิด นายศุภกิจ นันทวรการ มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นายสันติสุข โสภณสิริ



+++หลังเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจฝ่ายปกครอง ได้สนธิกำมกันตรวจสอบพบอาวุธสงครามจำนวนมากหลังมีคนร้ายนำมาทื้งไว้กลางป่าละเมาะ หมู่ 13 ต.นางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ พล.ต.ต.สุกิจ สมณะ  ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยกับ จส. 100 ว่า ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่าพบรถปิกอัพ จอดอยู่ในป่าละเมาะ ม.13 ต.นางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์  จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม จนท.ทหาร  และฝ่ายปกครอง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ปรากฎว่ามีคนร้าย 4 คน วิ่งหลบหนี จึงได้ยึดรถปิคอัพ ตรวจค้นในรถพบอาวุธสงคราม เป็นปืนสั้น-ปืนยาว  รวม 16 กระบอก  กระสุนกว่าพันนัด  



+++นอกจากนี้ยังมีจยย.อีก 2 คัน  ตู้เซฟ  1 ตู้  ยาบ้า 2 พันเม็ด ทองรูปพรรณ  โน๊ตบุ๊ค  เงินสด 2 แสนห้า  สาเหตุที่พบอาวุธสงครามจำนวนมากในรถ เนื่องจากถูก จนท.กดดัน จึงขนของมาไว้ใรถปิคอัพ ที่พร้อมจะเคลื่อนย้ายได้ตลอดเวลา ในขณะนี้ จนท.พอจะทราบแล้วว่าคนร้ายเป็นใคร



+++ผวาอาถรรพณ์แผ่นทอง คำพัทลุง นางวรรณี ภาราเริก สาวสุราษฎร์ฯ โร่นำมาคืนกรมศิลปากร พร้อมเรียกร้องเงินคืน หลังเดินทางไปซื้อมาจากชาวบ้านที่ขุดได้ในท้องที่ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เผยนำกลับมาบ้านเกิดปาฏิหาริย์ แผ่นทองคำเพิ่มขึ้นจาก 5 เป็น 6 แถมเกิดฟ้าผ่าบริเวณบ้านต่อเนื่อง จนไม่กล้าออกนอกบ้าน เชื่ออาถรรพณ์ทองคำพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช



+++นายอาณัติ บำรุงวงศ์ ผอ.สำนักศิลปากรที่ 14 จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้เดินทางมารับแผ่นทองคำทั้ง 6 แผ่นคืนจากนางวรรณี โดยมีการบันทึกปากคำและถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับรับปากว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนของทางราชการ เพื่อนำเงินมาคืนให้แก่นางวรรณีในภายหลังต่อไป ทำให้นางวรรณีพอใจเดินทางกลับไปในที่สุด



+++เร่งหาทางรับมือ แก๊งสกิมเมอร์ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.เป็นประธานการประชุมเร่งรัดติดตามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคัดลอกข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตัวแทนผู้ประกอบการธนาคารต่างๆจากในประเทศและต่างประเทศ ทั้งหมดใช้เวลาประชุมนานประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที 



+++ ดร.ธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย ยืนยันว่าแต่ละธนาคารมีมาตรการป้องกันและตรวจจับความผิดปกติจากการถูกลักลอบคัดลอกข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกส์ โดยสามารถอายัดข้อมูลบัตรได้ทันทีภายใน 1-2 ชั่วโมง หากตรวจพบความผิดปกติ เร่งรัดติดตั้งเครื่องป้องกันการสกิมเมอร์ให้ครบทุกตู้เอทีเอ็ม ภายใน 2 เดือน ส่วนการเปลี่ยนบัตรอิเล็กทรอนิกส์แบบแถบแม่เหล็กเป็นแบบฝังไมโครชิพ เพื่อป้องกันการคัดลอกข้อมูลบัตรของทุกธนาคาร จะเปลี่ยนได้ทั้งหมดภายในวันที่ 1 ม.ค. 59 และเมื่อลูกค้าถูกคัดลอกข้อมูลมีความเสียหายเกิดขึ้น ทางธนาคารต้องรับผิดชอบ ตามหลักเกณฑ์ที่ระบุถึงการรับผิดชอบอย่างชัดเจน



+++แนะนำคลิปยอดฮิตในโซเชียล เน็ตเวิร์ค ได้มีการเผยแพร่คลิปๆ หนึ่ง ซึ่งระบุว่าเป็นทหารที่เคยประจำอยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และถูกคำสั่งให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยใน กทม. หลังเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ได้พูดระบายความในใจใส่ไว้ในคลิป ซึ่งคาดว่าน่าจะถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ ทหารรายดังกล่าวได้พยายามอธิบายเรื่องราวและสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับประเทศชาติบ้านเมือง พร้อมขอร้องว่า อย่าดูถูกทหารไทย เพราะหากไม่มีทหาร คงไม่มีคนช่วยปกปักรักษาป้องกันภัยให้แก่ประเทศและประชาชน ยืนยันว่าทหารก็มีศักดิ์ศรี แต่แม้จะโดนด่าทออย่างไร ถูกขว้างปาด้วยขวดใส่ หรือพยายามทำร้ายร่างกาย แต่ทหารก็ไม่เคยโกรธ แม้ว่าในมือจะถือปืนแต่ก็ไม่มีใครยิงสักนัด” ผมถามนิดว่า ถ้าทหารไม่รัฐประหาร ชาวนาจะได้ค่าข้าวไหมครับ ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดมาก ผมก็อยากฝากให้พวกคุณคิดมั่งว่า บางครั้งเงินเดือนแค่ไม่กี่พัน กับชีวิตคนหนึ่งคน มันไม่คุ้มค่ากันหรอกครับ แต่ที่ว่าต้องมาทำ มันเป็นหน้าที่ เป็นศักดิ์ศรี ผมก็ฝากไว้แค่นี้ครับ”*

ข่าวทั้งหมด

X