*คสช.ชี้แจงเรื่องต่างชาติชะลอร่วมมือทางทหาร/ปัดจนท.ไม่เคยค้นบ้านปชช.*

ภายหลังการประชุมของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เมื่อช่วงเช้า พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกคสช. แถลงเรื่องความร่วมมือกับต่างประเทศในการฝึกซ้อมกำลังทหาร ซึ่งขณะนี้ยังได้รับความร่วมมือจากต่างประเทศเช่นเดิม เว้นความร่วมมือจากประเทศ ออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา เพียงบางหลักสูตรเท่านั้นที่มีการชะลอ

กรณีที่มีผู้ไม่หวังดีใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย สร้างข้อมูลให้เกิดความสับสน ล่าสุด มีการเผยแพร่ข้อมูล โดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารนอกเครื่องแบบ เข้าตรวจค้นบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งคสช.ตรวจสอบแล้ว พบว่า ไม่เป็นความจริง อาจเป็นการสร้างสถานการณ์ ยืนยันว่า การเข้าตรวจสอบบ้านเรือนประชาชน โดยปกติแล้วจะเป็นการปฏิบัติงานร่วม ของทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ซึ่งจะต้องแต่งเครื่องแบบถูกต้อง รวมถึงประชาชนสามารถขอให้เจ้าหน้าที่แสดงตัวตนได้

ด้าน น.ส.ปัฐมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต นักสื่อสารชำนาญการ และผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (ช่อง 11) กรมประชาสัมพันธ์ แถลงถึงการขับเคลื่อนนโยบายปรองดองสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูป เมื่อช่วงเช้า พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะรองหัวหน้าคสช. ประชุมร่วมกับปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อขอความร่วมมือให้ปรับกิจกรรมต่างๆของกระทรวงวัฒนธรรม ให้เข้ากับการดำเนินการของคสช.โดยให้สอดแทรกการปรองดองสมานฉันท์เข้าไปในกิจกรรม รวมถึงในช่วงเย็นวันนี้จะมีการจัดกิจกรรมปรองดอง 'คืนความสุขให้คนไทย ซึ่งจัดโดยกองพลทหารม้าที่2รักษาพระองค์ ร่วมกับกรุงเทพมหานคร ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตั้งแต่ในเวลา16.00-19.00น.

ส่วนความคืบหน้าฝ่ายกฏหมายและกระบวนการยุติธรรม ขณะนี้ อยู่ระหว่างการประชุมเรื่องการทำงานเพื่อให้มีการเอื้อประโยชน์ให้กับประชาชนมากขึ้น อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายวันนี้ จะมีการประชุม3ฝ่ายประกอบด้วย ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคมจิตวิทยา และด้านความมั่นคง ซึ่งจะต้องติดตามผลการประชุมต่อไป

 ขณะที่ นายแพทย์ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษกคสช. ชี้แจงผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจ หรือ มูดีส์ พบว่า ประเทศไทยยังอยู่ในอันดับเดิม baa1 ซึ่งเป็นอันดับเดิมจากปีที่แล้ว  ส่วนการเข้าเยี่ยมคารวะของเอกอัครราชทูตจีนและเวียดนาม ที่เข้าพบพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ในฐานะรองหัวหน้าคสช. ซึ่งทั้ง2ปท. เข้าใจสถานการณ์ดี

ด้านนายสีหศักดิ์ พ่วงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางไปพบกับรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของประเทศพม่า ในฐานะประเทศ เพื่อนบ้านและประธานอาเซียน เพื่อชี้แจงสถานการณ์ในประเทศไทย ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของพม่า ระบุว่า ได้ติดตามสถานการณ์ในไทยอย่างใกล้ชิด และเข้าใจสถานการณ์และยืดมั่นในหลักการยืนยันไม่เข้าแทรกแซงสถานการณ์ในไทย  ส่วนผู้บัญชาการทหารสูงสุดของประเทศมาเลเซีย ได้เดินทางมาเยือนไทย ในฐานะเป็นแขกของกองทัพไทย ระหว่างวันที่3-4มิ.ย. พร้อมทั้งได้เข้าเยี่ยม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกในฐานะหัวหน้าคสช.เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับไทย พร้อมทั้งยืนยันว่า เข้าใจ และสนับสนุนการทำงานคสช. ด้านคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ หรือ คตร. ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส

 บุศรินทร์