หลังมีข้อมูลที่แพร่ในโลกโซเซียล กรณีโลกตะลึง แพทย์ไทยรักษาเอดส์หาย จส.100 ได้ติดต่อพูดคุยกับ พญ.นิตยา ภานุภาค พึ่งพาพงษ์ หัวหน้าหน่วยวิจัยเสิร์ช ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย พบว่า ข้อมูลข่าวดังกล่าว เป็นข่าวเก่าเมื่อ2 ปีที่แล้ว ขณะที่ การพัฒนาการรักษาในปัจจุบัน มีการพัฒนา ยารักษาทุกปี ส่วนการรักษาผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี แบ่งเป็น 2 อย่าง คือ ผู้ที่ติดเชื้อในช่วงเดือนแรก หากรู้ตัวเร็ว ไม่เกิน 1 เดือนแรก ให้รีบเข้ารักษาด้วยการรับยาต้านไวรัส เพื่อลดจำนวนเชื้อที่จะไปแขวงตัวตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ลดจำนวนเชื้อได้เร็ว เพื่อเป็นการเพิ่มภูมิต้านทาน ก็สามารถลดยาต้านได้ แต่ยังไม่มีการพิสูจน์ว่า คนที่เป็นแล้วรักษาหายขาดได้ เท่าที่ทราบมีเพียง 1 ราย ที่เป็นโรคเอดส์ เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ได้รับการรักษาฉายแสง ทำคีโม ปลูกถ่ายไขกระดูก ปรากฎว่า เมื่อหยุดยาต้านไวรัสไปหลายปี แล้วมาตรวจเลือดไม่พบเชื้อ ขณะนี้ ผู้ที่ได้รับเชื้อแล้วรู้เร็วไม่เกิน 1 เดือนแรกได้รับการรักษาอยู่ในโครงการ กว่า 300 ราย ลดการแฝงของเชื้อตามที่ต่างๆ ของร่างกายได้ ในการรักษา มีการให้ยา และมีการพัฒนาให้ยารูปแบบวัคซีน บางรายยังไม่คุ้นกับเชื้อ เอชไอวี ไปกระตุ้นภูมิกำจัดเชื้อ และที่สำคัญ การที่รู้ตัวเร็วก็สามารถลดการแพร่เชื้อให้คนอื่นได้จำนวนมาก
ส่วน ยาต้านไวรัส ยังมียาออกมาใหม่ๆ ทุกปี บางคนรับยาต้านเกิน 10 ปี 20 ปี ก็อาจดื้อยาได้ แต่ก็จะทำให้ง่ายขึ้นในการรับยา จะได้ไม่ยุ่งยาก ก็รับเพียง 1 เม็ด/วัน เพราะเมื่อก่อนกินทีหลายเม็ด แต่ก็ยังพัฒนายาฉีด เช่นฉีดทุก 2-3 เดือน แทนการกินยาทุกวัน
นอกจากนั้น ในปีนี้เป็นปีสำคัญ โครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ จะประกาศว่า 5ปีต่อจากนี้ไป เราจะไม่ปล่อยปละละเลย มิเช่นนั้นโรคเอดส์ก็จะเป็นปัญหาเรื้อรังไม่จบ ทุกปีทั่วโลกก็จะมีผู้ที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงฝากไว้ผู้ที่ได้รับเชื้อรู้เร็วรักษาเร็วมีโอกาสไม่แพร่เชื้อให้คนอื่นและสามารถรักษาช่วยยับยั้งการแพร่เชื้อในร่างกายได้