พล.อ.ประวิตร เผยเตรียมออกหมายจับระเบิดใต้เพิ่ม ปราบมาเฟีย จับทัวร์ศูนย์เหรียญ

การแถลงผลการทำงานของรัฐบาลด้านความมั่นครบรอบ 2 ปี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การดูแลความมั่นคงเป็นส่วนสำคัญต่อประเทศ โดยการทำงานจะเริ่มตั้งแต่การดูแลงานมั่นคงในภาพรวม เช่น ภัยพิบัติ แรงงานต่างด้าว การก่อการร้าย ก่ออาชญากรรมข้ามชาติ การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้อยู่ดีกินดี ประสานงานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศในกลุ่มอาเซียน ประเทศมหาอำนาจ และองค์กรระหว่างประเทศ โดยการทำงานด้านความมั่นคงเกี่ยวกับภาครัฐ รักษาความมั่นคงของประเทศ ปฏิบัติภารกิจตามชายแดนต่างๆ ดูแลความเรียบร้อยของเขตแดน ป้องกันปัญหาภัยคุกคามด้านความมั่นคงรูปแบบต่างๆ ป้องกันการลักลอบการนำเข้ายาเสพติด โดยสามารถจับกุม ยึดยาเสพติดได้หลายพันครั้ง มีการจับกุมต่างด้าว และยังผลักดันต่างด้าวได้กว่า 40,000 คน จับผู้บุกรุก ตัดไม้ทำลายป่า โดยสามารถยึดไม้ของกลางได้หลายพันท่อน ดูแลความสงบเรียบร้อยในจังหวัดชายแดนใต้ โดยยึดถือยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา และเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลความปลอดภัยให้มากขึ้น ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์พบว่าสถิติความรุนแรงในภาคใต้ลดลง ส่วนการสืบสวนสอบสวนจับกุมผู้ต้องหาคดีระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนนั้น ก็มีความคืบหน้าไปมาก ล่าสุดก็สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 2 คน โดยผู้ต้องหาคนที่ 2 สามารถจับกุมได้เมื่อวานนี้ และคาดว่าจะสามารถออกหมายจับได้เพิ่มเติมอีก มีการพัฒนาระบบเชื่อมโยงฐานข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์ สามารถนำ DNA เข้าตรวจสอบกับฐานข้อมูลอาชญากรรม โดยการทำงานที่ผ่านมาก็พบว่าไทยได้รับความเชื่อมั่นจากต่างประเทศมากขึ้น การแก้ไขประมงผิดกฎหมาย การป้องกันการค้ามนุษย์ ซึ่งต่างประเทศยกระดับให้ไทยเป็นประเทศที่มีการแก้ไขปัญหาดีขึ้น 

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้แก้ไขปัญหาการจัดระเบียบต่างๆ มีการจัดการกับผู้มีอิทธิพล มาเฟีย สลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อไม่ให้ประชาชนถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยสามารถดำเนินการได้กว่า 600,000 คดี มีผู้ต้องหากว่า 500,000 คน การปราบปรามการค้ามนุษย์ มีการจัดระเบียบค้าขายบนทางเท้า ชายหาด นักเรียนตีกัน แข่งรถในที่สาธารณะ จัดระเบียบขอทาน ที่พบว่ามีการขอทานกว่า 4,000 คน ในจำนวนนั้นมีต่างด้าวครึ่งหนึ่ง อีกทั้งยัง ตรวจสถานที่บริการที่เปิดเกินเวลา ผิดกฎหมายกว่า 130,000 แห่ง และยังดำเนินการจับกุมทัวร์ศูนย์เหรียญ อีกด้วย 

แนวทางการทำงานในช่วงระยะเวลา 2 ปี ได้ยึดตามกรอบนโยบายประชารัฐ และแก้ไขปัญหาตามโรดแมปของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ดูแลงานความมั่นคงกับต่างประเทศ และประเทศอาเซียน เช่น ความร่วมมือทางทหาร ความร่วมมือในด้านการฝึก การอบรม ปฏิบัติงานต่างๆ รวมทั้งการเตรียมศึกษาระบบการเตรียมความพร้อม จัดตั้งศูนย์การแพทย์อาเซียน ฝึกร่วมกับคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการบรรเทาภัยพิบัติ

พลเอกประวิตร เปิดเผยถึงการทำงานความมั่นคงเกี่ยวกับประชาชนโดยตรง เช่น การช่วยเหลือเกษตรกร ผู้มีรายได้น้อย มีการจัดหาที่ดินทำกิน การจัดหางาน แก้ไขปัญหาแรงงาน พัฒนาทักษาะฝีมือแรงงาน การเข้าสู่ระบบการจ้างงาน ปฏิรูประบบประกันสังคม เพิ่มสิทธิประโยชน์ ตั้งแต่แรกเกิดจนเสียชีวต เพิ่มระยะเวลาในการจ่ายค่าทดแทน รวมทั้งสวัสดิการเงินบำนาญ ชราภาพ ภายหลังอายุ 55 ปี 

ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข