การประชุมใหญ่สมัชชาแห่งสหประชาชาติครั้งที่ 71 ณ สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติในมหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้าจะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของทั้งประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในฐานะผู้นำสหรัฐฯ และนายบัน คี มูน ในฐานะเลขาธิการสหประชาชาติ เพราะทั้งคู่จะก้าวลงจากตำแหน่งในปลายปีนี้ โดยเป็นที่คาดหมายว่าสาระสำคัญในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งมีผู้นำ 135 ประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติเข้าร่วมน่าจะอยู่ที่เรื่องวิกฤตการณ์ในซีเรีย และคาดว่าประเทศที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลซีเรียและพลเมืองซีเรีย ได้แก่ สหรัฐฯ และรัสเซียจะใช้โอกาสในการประชุมดังกล่าวหารือกันนอกรอบเกี่ยวกับการจัดการสถานการณ์ในซีเรียในวันอังคารนี้ ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีกำหนดจัดการประชุมระดับสูงเรื่องวิกฤตการณ์ซีเรียในวันพุธ ซึ่งรัสเซียนั้นเคยต้องการให้คณะมนตรีความมั่นคงให้การรับรองข้อตกลงพักรบในซีเรียกับสหรัฐฯ แต่สหรัฐฯ กลับไม่ต้องการเปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลงในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคง
นายเบน โรดส์ รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาวสหรัฐฯ คาดว่าสหรัฐฯ จะนำประเด็นเรื่องสถานการณ์ในซีเรีย การตอบโต้เกาหลีเหนือต่อการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ และการปราบปรามการก่อการร้ายเข้าหารือกับที่ประชุมใหญ่สมัชชาแห่งสหประชาชาติ ซึ่งสหรัฐฯ จะขอความร่วมมือกับประเทศที่เข้าร่วมการประชุมในการระดมเงินช่วยเหลือชาวซีเรีย นอกจากนั้นยังคาดว่าที่ประชุมจะหารือเรื่องวิกฤตการณ์ในซูดานใต้ เยเมน อิรัก และลิเบีย รวมทั้งความก้าวหน้าในข้อตกลงยุติการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน และกระบวนการสร้างสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ขณะที่เลขาธิการสหประชาชาติแสดงความหวังว่าจะสามารถผลักดันข้อตกลงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้มีความคืบหน้า ตลอดจนจะมีการหารือนอกรอบเกี่ยวกับเลขาธิการสหประชาชาติคนใหม่ และโฆษกองค์การสหประชาชาติเผยว่าการประชุมใหญ่สมัชชาแห่งสหประชาชาติครั้งนี้จะมีการหารือระดับทวิภาคีของผู้นำประเทศต่าง ๆ มากกว่า 1,100 ครั้ง
ทีมต่างประเทศ
CR:REUTERS