คุมมือแทงบัสโฮสเตสเข้าเรือนจำ ผบช.น.ขอผู้ประกอบเข้มความปลอดภัย

การควบคุมตัวนายอภิรักษ์ กระจายสี อายุ 26 ปี ชาว จ.สุโขทัย ผู้ต้องหาฆ่าชิงทรัพย์ น.ส.วรรณทณี อธิจร อายุ 29 ปี พนักงานต้อนรับบนรถทัวร์ บริษัท ขนส่ง จำกัด ภายในหอพักแห่งหนึ่ง ถนนกำแพงเพชร 2 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ โดยพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย  ขณะที่ ผู้ต้องหาอ้างว่า ไม่ได้มีการวางแผนมาก่อนเพียงสบโอกาสผ่านมา และประสงค์ต่อทรัพย์เท่านั้น แต่ผู้เสียชีวิตต่อสู้ขัดขืน จึงใช้อาวุธมีดแทง ซึ่งผู้เสียชีวิตได้ร้องขอชีวิต และร้องขอความช่วยเหลือ จากนั้นได้ขโมยทรัพย์สินประกอบด้วย สร้อยคอทองคำ เงินสด 1,500 บาท และแบตสำรองมือถือหลบหนี  หลังเสร็จสิ้นการทำแผนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องไปฝากขังต่อที่ศาลอาญา ถนนรัชดา เนื่องจากการสอบปากคำพยานยังไม่แล้วเสร็จ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง และเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ ทั้งนี้ไม่มีญาติมายื่นคำร้องขอประกันตัว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวนายอภิรักษ์ ไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป

นางสิริพร อธิจร อายุ 47 ปี แม่ผู้เสียชีวิต ที่เดินทางมาดูการทำแผนครั้งนี้ได้ขอบคุณ พล.ต.ท.ศานิตย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้สำเร็จ และขอให้ลงโทษคนร้ายด้วยอัตราโทษสูงสุด พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ตำรวจต้องทำตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำอารมณ์มาตัดสินไม่ได้ ขอให้เป็นไปตามกระบวนการตามความจริง ซึ่งผู้กระทำความผิดต้องถูกลงโทษอยู่แล้ว ไม่มีใครหนีรอดไปได้    

พล.ต.ท.ศานิตย์ ฝากถึงผู้ที่เช่าห้องพักควรปิดประตูให้เรียบร้อย เนื่องจากหลายคดีที่เกิดขึ้น มักเกิดจากคนร้ายใช้โอกาสนี้เข้าไปก่อเหตุ สำหรับผู้ประกอบการห้องเช่าเอง ก็ควรมีมาตรการควบคุมดูแลบุคคลเข้าออก และระบบรักษาความปลอดภัย โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ทุก สน.จะทำหนังสือไปถึงผู้ประกอบการให้ติดตั้งกล้องวงจรปิด พร้อมตรวจสภาพให้ใช้งานได้ตลอดเวลา หากไม่ปฏิบัติตามอาจมีความผิดเข้าข่ายสนับสนุนผู้กระทำความผิด 

แฟ้มภาพ