*สรุปข่าว 19.35 น.
+++ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยว่า การจัดทำร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญตามที่ร่างรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ 10 ฉบับ เวลานี้ กรธ.ยังจัดทำไม่เสร็จแม้แต่ฉบับเดียว เพราะต้องรับฟังความคิดเห็นให้รอบด้านก่อน ซึ่งถ้า กรธ.จัดทำร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฉบับไหนเสร็จก่อน ก็จะส่งให้กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก่อน ส่วนแนวคิดเรื่องการให้บุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีมาแสดงวิสัยทัศน์มีความจำเป็นหรือไม่นั้น ส่วนตัวคิดว่า เวลาไปหาเสียงเขาก็ต้องโชว์วิสัยทัศน์อยู่แล้ว ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องของความสมัครใจ และที่ผ่านมาสื่อมวลชนจะเป็นฝ่ายที่จัดเวทีลักษณะนี้ สำหรับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ทยอยเสนอมาก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่เป็นการจะเขียนให้สอดคล้องร่างรัฐธรรมนูญ แต่มีบางเรื่องที่ กกต.ยังไม่เข้าใจแนวคิดของ กรธ.จึงเป็นผลให้ กกต.เขียนตามความเข้าใจของ กกต.เอง ซึ่งคงต้องมีการปรับแก้ไขต่อไป
+++ภารกิจนายกรัฐมนตรี เวลา 08.00 น.ของวันอังคารที่ 20 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 11 ชั่วโมงพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ เพื่อร่วมงานเลี้ยงรับรอง ซึ่งเลขาธิการสหประชาชาติและภริยาเป็นเจ้าภาพต้อนรับประมุขและหัวหน้ารัฐบาลที่เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติในครั้งนี้ จากนั้น เวลา 08.30 น.นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมงานครบรอบ 1 ปี การรับรองวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ร่วมการเปิดอภิปรายทั่วไป การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 71 เวลา 11.35 น.เข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งจอร์แดน เพื่อหารือทวิภาคีเวลา 13.15 น. เลขาธิการสหประชาชาติเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันอย่างเป็นทางการ
+++ในช่วงบ่าย เวลาประมาณ 15.30 นายกรัฐมนตรีร่วมประชุมสุดยอดระดับผู้นำด้านผู้ลี้ภัย ซึ่งมีประธานาธิบดีบารัค โอบามาผู้นำสหรัฐเป็นประธานการประชุม และเป็นผู้ที่ริเริ่มแนวคิดให้จัดการประชุมนี้เป็นครั้งแรก ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะกล่าวถ้อยแถลงถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยของรัฐบาลไทย และแนวทางการแก้ไขปัญหาการโยกย้ายถิ่นขนาดใหญ่อย่างผิดปกติ จากนั้นเวลา 19.00 น. นายกรัฐมนตรีและภริยาจะร่วมงานเลี้ยงรับรอง ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาและภริยาเป็นเจ้าภาพ เพื่อเป็นเกียรติแก่ประมุข หัวหน้ารัฐบาลที่เข้าร่วมประชุมและคู่สมรส
+++พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ชื่อฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนา และบริษัทรับเหมาก่อสร้างของบุตรชาย ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ของกองทัพภาคที่ 3 จังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ ค่ายพ่อขุนผาเมือง และก่อสร้างตึกแถวนายทหารประทวน 10 ครอบครัวของโรงพยาบาลค่ายวชิรปราการ ต.น้ำริม อ.เมืองตาก จ.ตาก รวมวงเงิน 2 โครงการ 26,960,000 บาทในช่วงปี 2558-2559 นั้น พล.อ.ปรีชา ยืนยันว่า จะไม่ขอชี้แจงใดๆโดย ยอมรับว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะพี่ชาย ได้โทรศัพท์มาหา และเตือนให้ระวังตัว เช่นเดียวกับ นางผ่องพรรณ จันทร์โอชา นายกสมาคมภริยาข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ชี้แจงกรณีถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องชื่อฝาย “แม่ผ่องพรรณพัฒนา” ที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ว่า ไม่ขอชี้แจงอะไรไปมากกว่านี้ เพราะเรตติ้งกำลังแรง ขออยู่เงียบๆ เรื่องฝายตั้งใจทำให้ชาวบ้าน ส่วนชื่อฝาย ชาวบ้านตั้งเอง
+++พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวว่า เมื่อมีผู้มาร้องเรียน ป.ป.ช.ได้รับเรื่องไว้แล้วจะต้องไปเก็บข้อมูล และแสวงหาข้อเท็จจริงเบื้องต้นในเรื่องดังกล่าว เพื่อรายงานให้ที่ประชุมป.ป.ช.รับทราบต่อไป โดยทุกอย่างจะต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน ซุ่งป.ป.ช.พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายช ด้านนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการป.ป.ช. กล่าวว่า ป.ป.ช.ต้องนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการแสวงหาข้อเท็จจริงเบื้องต้น โดยตรวจสอบว่าใช้งบประมาณอะไรในการดำเนินการ และเป็นการใช้งบประมาณที่ถูกต้องหรือไม่ ต้องขอดูในรายละเอียดก่อน ยังไม่สามารถบอกอะไรได้ แต่คงต้องเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อเท็จจริงทั้งหมด
+++ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ตามศาลชั้นต้น คดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้อง นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต อดีต สส.และโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ และนายศิริโชค โสภา อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-3 ตามลำดับ ในความผิด ฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณี จำเลยทั้งสามได้ร่วมกันจัดรายการ "สายล่อฟ้า" ทางสถานีดาวเทียม ช่องบลูสกาย แล้วหมิ่นประมาทใส่ความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เสียหาย ทำนองว่า มีกรณี ว.5 โรงแรมโฟร์ซีซั่น ถือว่า ได้ประพฤติผิดจริยธรรม ซึ่งล้วนเป็นเท็จทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จำเลยให้การปฏิเสธ จำคุกคนละ 1 ปี ปรับคนละ 5 หมื่นบาท แต่พวกจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอลงอาญาไว้มีกำหนด 2 ปี
+++การจับตัวเงินตัวทอง บริเวณสวนลุมพินีกันอย่างต่อเนื่อง วันนี้จับได้ 40 ตัว ก่อน นำส่งสถานที่เพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน จังหวัดราชบุรี เพื่อให้ทางกรมอุทยานแห่งชาติดูแลต่อไป โดยการจับตัวเงินตัวทองวันนี้จะเป็นการจับครั้งสุดท้าย เพราะปีงบประมาณ2559ได้หมดลงแล้ว หลังจากนี้จะต้องมีการหารือกับกรมอุทยานแห่งชาติเพื่อหาแนวทางการลดจำนวนตัวเงินตัวทองกัน โดยการจับตัวเงินตัวทออกเพียงร้อยละ50เท่านั้น เพราะขณะนี้ตัวเงินตัวทองมีปริมาณ มาก จะทำลายระบบนิเวศได้ ขณะเดียวกันถ้าจับออกทั้งหมดก็จะทำลายระบบนิเวศได้เช่นกัน
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดที่ระดับ 1,473.78 จุด ลดลง 18.95 จุด มูลค่าซื้อขาย รวม 49,194.03 ล้านบาทปัจจัยหลักในวันนี้น่าจะเป็นการรอผลประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยได้ให้น้ำหนักไปที่ผลการประชุม BOJ มากกว่า ซึ่งให้จับตาดูในเรื่องของมาตรการว่าจะออกมาถูกใจตลาดหรือไม่ ถ้าออกมาถูกใจก็อาจจะส่งผลต่อตลาดปรับตัวขึ้นไปได้บ้าง ขณะที่ให้น้ำหนักในส่วนของเฟดค่อนข้างน้อย เนื่องจากตลาดฯส่วนใหญ่ต่างคาดการณ์ว่าเฟดจะยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ 27.14 จุด ที่ 16,492.15 จุด นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่การประชุมระยะเวลา 2 วันของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะเริ่มขึ้นในวันนี้
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 19.59 จุด ปิดวันนี้ที่ 23,530.86 จุด คาดการกันในตลาดว่า FED จะยังคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่คาดว่า BOJ อาจผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม
++++ศาลบราซิลสั่งยึดทรัพย์สินสำนักงานบริการแพร่ภาพกระจายเสียงโอลิมปิก (โอบีเอส) ซึ่งเป็นแม่ข่ายแพร่ภาพกระจายเสียงการแข่งขันให้แก่ผู้รับสิทธิการถ่ายทอดทั่วโลก อัยการบราซิลแถลงว่า โอบีเอสซึ่งเป็นหน่วยงานที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ตั้งขึ้นในปี 2544 กดขี่ลูกจ้างหลายพันคน ด้านโอบีเอสแถลงว่า ได้รับแจ้งจากทางการบราซิลแล้วและเตรียมสู้คดี เพราะมั่นใจว่าได้ให้ผู้ร่วมงานทุกคนทำงานตามมาตรฐานที่ดีในระดับสากลไม่ว่าจะไปแพร่ภาพกระจายเสียงการแข่งขันโอลิมปิกที่ประเทศใดก็ตาม
+++โฆษกสายการบินซาอุดิอาระเบียนแอร์ไลน์ (ซาอุเดีย) แถลงว่า นักบินพลาดไปกดปุ่มฉุกเฉินโดยบังเอิญ จนทำให้เจ้าหน้าที่เข้าใจผิดคิดว่ามีเหตุจี้เครื่องบิน จนตำรวจเข้าล้อมเครื่องบินสายการบินซาอุเดียที่ท่าอากาศยานมะนิลาของฟิลิปปินส์แถลงการณ์ระบุว่า มีสัญญาณแจ้งเตือนว่า เครื่องบินซาอุเดียเที่ยวบิน 872 เดินทางจากเมืองเจดดาห์ทางทะเลแดงมายังกรุงมะนิลา และถูกแยกให้ลงจอดที่ท่าอากาศยานระหว่างประเทศนีนอยอาคีโน และขณะนี้สถานการณ์กลับสู่ปกติแล้ว
+++ คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท ได้เปิดบทลงโทษต่อเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ปะทะกับแฟนทีม การท่าเรือ เอฟซี คือ ห้ามกองเชียร์ทั้งสองสโมสรเข้าเชียร์ทีมตัวเองจนจบฤดูกาลไม่ว่าจะจบกับใครจนจบฤดูกาล 2559 ทุกรายการที่สมาคมเป็นผู้จัด ในฤดูกาลหน้า เมืองทองพบกับท่าเรือห้ามกองเชียร์ทั้งสองทีม เข้าชมเกมการแข่งขัน ปรับเงินในข้อบังคับ 4.1 ปรับ 33,333 บาท แต่คณะกรรมการสามารถเพิ่มโทษได้อีก ทั้งสองทีมถูกปรับเพิ่มอีก 1 แสนร่วมเป็น 133,333 บาท ลงโทษสโมสรเมืองทอง ห้ามจัดการแข่งขันในทุกรายการ เป็นจำนวน 5 นัดติดต่อกัน โดยให้ไปจัดการแข่งขันในสนามกลาง และให้เสนอแผนการจัดการรักษาความปลอดภัยในการจัดการแข่งขันขึ้นมาใหม่ ในนัดที่ 6 หากคณะกรรมการ พอใจก็จะสามารถจัดการแข่งขันต่อไปได้ โทษปรับสโมสรเมืองทองในเรื่องการจัดการแข่งขันอีก 33,333บาท รวมแล้ว สโมสรเมืองทองถูกปรับ 166,666 บาท นอกจากนี้จะมีการตามหาแกนนำทะเลาะวิวาทมาดำเนินคดี ถ้าไม่ให้ความร่วมมือจะออกหมายจับ ซึ่งทำให้การแข่งขันฟุตบอลช้าง เอฟเอคัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่เอสซีจี เมืองทอง จะเปิดบ้านพบกับ ชลบุรี เอฟซี ใช้สนามกลาง โดยจะใช้สนามราชมังคลากีฬาสถานในการแข่งขัน