+++ความคืบหน้าการตั้งผู้แทนรัฐบาลส่วนหน้า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า มีรายชื่อครบแล้ว เหลือเพียงนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ลงนาม ซึ่งการตั้งผู้แทนรัฐบาลส่วนหน้าจะสนับสนุนให้การทำงานของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)ทำงานได้เร็วขึ้นและมีเอกภาพมากยิ่งขึ้น ส่วนรายชื่อทั้งหมดคาดว่า สามารถเปิดเผยได้ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2559 และสามารถเริ่มทำงานได้ทันที
+++ส่วนกระแสข่าวว่า พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม จะมาทำหน้าที่ผู้แทนรัฐบาลส่วนหน้า ขณะที่ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ที่จะเกษียณอายุราชการ ในวันที่ 30 กันยายน นี้ ยังทำหน้าที่เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พล.อ ประวิตร กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ได้คิดดึงใครมาช่วยงานและยังไม่มีแนวคิดที่จะเพิ่มตำแหน่งของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะขณะนี้งานด้านความมั่นคง แม้จะมีมาก แต่ก็ทำงานได้อยู่
+++ความคืบหน้าการค้นหาชาวอุยกูร์ที่ก่อเหตุเจาะหลังคาอาคารควบคุมผู้หลบหนีเข้าเมือง ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย รวม 10 คน หลบหนีไปจนมุมเจ้าหน้าที่บริเวณป่าช้าหลังวัดบ้านหนองขาม ต.หนองกอมเกาะ อ.เมือง จ.หนองคาย เมื่อช่วงบ่ายของวานนี้ จำนวน 9 คน แต่ยังคงหลงเหลือ นายราชิต ฮาชิม อายุ 22 ปี อุยกูร์สัญชาติตุรกี ซึ่งเป็นหัวโจก หลบหนีไปได้
+++พ.ต.ท.อัมรินทร์ อยู่เย็น สว.สทท.5 กก.3 บก.ทท.อุดรธานี พร้อมกำลังตำรวจท่องเที่ยวอุดรธานี ได้ใช้รถตรวจราง ของสถานีรถไฟอุดรธานี นั่งมาตามทางรถไฟอุดรธานี มาถึงสถานีนาพู่ อ.เพ็ญ ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับ จ.หนองคาย เพื่อติดตามหาตัว นายราชิต ที่หลบหนีเข้ามาในเขต จ.อุดรธานี หลังจากเมื่อช่วงเย็นวานนี้ มีชาวบ้านบ้านนาพู่ ต.นาพู่ อ.เพ็ญ เห็นชายต่างชาติคนหนึ่งสวมหมวกและใส่เสื้อผ้า สะพายเป้ ที่เหมือนกับนายราชิต มานั่งอยู่ที่ศาลาข้างทางรถไฟ แต่ยังไม่พบตัว ตำรวจ ตม.หนองคาย ประสานไปยังส่วนต่าง ๆ ในเขต จ.อุดรธานี ทั้ง สถานี บขส. สถานีรถไฟ ให้แจ้งตำรวจท้องที่ทราบทันที หากพบชายต่างชาติมาซื้อตั๋วเดินทาง
+++ความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายชื่อข้าราชการเกี่ยวข้องกับการทุจริตและประพฤติมิชอบล็อตที่ 8 จำนวน 80 คน ตามที่ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ส่งมาให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้รายชื่อออกมาก่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าบุคคลที่มีรายชื่อยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ มีการเปลี่ยนชื่อหรือตำแหน่งถูกต้องหรือไม่ เมื่อแล้วเสร็จจะส่งให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงนาม คาดว่าเป็นสัปดาห์หน้าที่รายชื่อจะออกมา
+++หลังเศรษฐกิจส่งสัญญาณอ่อนตัว นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้จะพบว่ามีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเริ่มอ่อนตัวลง เช่น เรื่องการลงทุนจากภาพรวมยอดขายปูนซิเมนต์ที่ปรับตัวลดลง และการจำหน่ายรถยนต์ในภาคขนส่งที่มีสัญญาณอ่อนตัวลง ปัจจัยดังกล่าวสะท้อนการบริโภคที่ปรับตัวลดลง โดยในส่วนนี้กระทรวงการคลัง จำเป็นต้องเข้าไปดูแลในจุดที่มีความอ่อนแอลง ส่วนในไตรมาส 4 รัฐบาลจะพยายามสนับสนุนให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แต่หากส่วนใดที่ไม่ดีหรือมีปัญหาก็จะกระตุ้นให้เติบโตได้
+++ส่วนการหารือกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่ง IMF มองว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี เป็นประเทศที่มีความมั่นคงสูงที่สุดในกลุ่มของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เนื่องจากกลุ่มประเทศดังกล่าวส่วนใหญ่ยังมีปัญหาเรื่องเงินทุนไหลออก ขณะที่ไทยไม่มีปัญหานี้ และพบว่ายังมีการไหลเข้าของเงินทุนอีกด้วย แต่ IMF ยังติงเรื่องการลงทุนของภาคเอกชนไทยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ แต่ก็เข้าใจว่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความเสี่ยงสูง
+++ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจตอนนี้ที่ปรับตัวดีขึ้นจาก ร้อยละ 0.8 เมื่อปี 2557 มาอยู่ที่ ร้อยละ 3.5 มองว่าอาจเป็นประเทศเดียวในโลกที่ทำแบบนี้ได้ แต่การเติบโตที่ร้อยละ3.5 จะไม่สามารถยั่งยืนได้ ถ้าไม่ทำให้เศรษฐกิจฐานรากมีความแข็งแรงพอ หลังจากนี้รัฐบาลจะให้กระทรวงการคลัง และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหรกณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เร่งหามาตรการเข้าไปให้ความช่วยเหลือ ยอมรับว่าเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะชะลอตัว เศรษฐกิจสหรัฐฯ และญี่ปุ่นยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งเมื่อ 2 ประเทศนี้ยังไม่ฟื้น ก็จะส่งผลให้การส่งออกทรงตัว ถือว่าเป็นปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมที่สำคัญ หากไม่มีการส่งเสริมด้านดิจิทัล หรือไม่ยกระดับการส่งออกสินค้า แม้ค่าเงินจะอ่อนลงไปแค่ไหนก็ไม่สามารถจะขายสินค้าได้ ซึ่งการทำมาตรการระยะสั้นเพื่อพยุงไม่ให้เศรษฐกิจทรุดตัว และจะพยายามดูแล sector ที่อาจมีผลกระทบ เช่น กลุ่มคนจน หรือเกษตรกร และไม่อยากให้มีการพูดเรื่องการเมืองในตอนนี้ เพราะถือว่าไม่มีประโยชน์ จึงอยากวางรากฐานประเทศให้เห็นผลมากที่สุด
+++ตลาดหุ้นไทยสดใสสอดคล้องกับตลาดอื่นๆทั่วโลกที่นักลงทุนประเมินว่าในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟดระหว่างวันที่ 20-21 ก.ย. นี้เฟดน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม ทำให้มีแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่ เช่น กลุ่มสื่อสาร แบงก์ พลังงาน เป็นต้น ส่งผลให้ปิดตลาดที่1,487.17 จุด เพิ่มขึ้น 13.39จุด มูลค่าการซื้อขาย49,762.90ล้านบาท
+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น พุ่งขึ้น 315.47 จุด ที่ 16,807.62 จุด หลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ตัดสินใจปรับโครงการซื้อพันธบัตร และจะไม่ลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับติดลบมากขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินเยน
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขานรับBOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ติดลบร้อยละ 0.1 และปรับแผนซื้อพันธบัตรรัฐบาล โดยมีเป้าหมายเพื่อพยุงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ให้ดีดขึ้นมาเคลื่อนไหวที่ระดับร้อยละ 0 ดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 139.04 จุด ปิดที่ 23,669.90 จุด
+++การแก้ปัญหาการจราจร พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) กล่าวถึงการแก้ปัญหาจราจรว่าทุกหน่วยงานได้เริ่มขับเคลื่อนแก้ปัญหาแล้ว พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) ได้เน้นแก้ปัญหา 21 เส้นทางหลักครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ โดยมีรองผู้บังคับการ ผู้กำกับการ และรองสารวัตร ในพื้นที่ดูแล โดยเฉพาะเวลาเร่งด่วน จะมีการนำกำลังมาช่วงระบายรถ เคลียร์เส้นทางรถที่จอดกีดขวางจรจร ส่วนพื้นที่ที่กำลังก่อสร้างจะมีการขอคืนพื้นที่ชั่วคราวในช่วงเวลาเร่งด่วน ซึ่งต้องมีการปรึกษาหารือกันอีกครั้ง
+++กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เก็บข้อมูลสถิติทุกวัน มีตัวเลขก่อน-หลังชัดเจน และ21 เส้นทางไม่ใช่ทำเฉพาะกรุงเทพฯ แต่ยังมีปริมณฑล เช่น จ.นครปฐม นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร โดยเฉลี่ยทุกเส้นทางดีขึ้น และหลังจากนี้จะมีการบันทึกข้อมูล 7 วัน 15 วัน เพื่อหาค่าเฉลี่ย มีการวิเคราะห์เส้นทาง ปัญหาใหญ่ของเราคือมีพื้นที่แอ่งกะทะ โดยเฉพาะเส้นทางรัชดา ซึ่งจะต้องเร่งแก้ปัญหาต่อไป
+++รอยเตอร์ รายงานอ้างตำรวจในอำเภอบาริซัล ทางภาคใต้ของบังกลาเทศว่า มีคนสูญหาย 35 คนหลังเรือเฟอร์รี่ลำหนึ่งที่บรรทุกผู้โดยสารเกินอัตราอับปางลงในแม่น้ำสายหนึ่งในบังกลาเทศ ทีมกู้ภัย สามารถเก็บกู้ศพผู้หญิงที่เสียชีวิตได้แล้ว 2 ศพ ขณะนี้ การค้นหาผู้รอดชีวิตอยู่ระหว่างดำเนินการ บังกลาเทศ ตั้งอยู่ในที่ลุ่มต่ำ มีเส้นทางเดินเรืออยู่จำนวนมาก แต่มีปัญหาหละหลวมเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย เคยเกิดอุบัติเหตุเรือเฟอร์รี่อัปปางมาแล้วหลายครั้ง บางครั้งมีคนเสียชีวิตหลายร้อยศพ สำหรับการบรรทุกผู้โดยสารเกินอัตราเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เป็นปัจจัยร่วมอย่างหนึ่งของอุบัติเหตุเรือล่มมาหลายครั้ง หลังเกิดเหตุแต่ละครั้ง รัฐบาลบังกลาเทศแถลงว่าจะคุมเข้มกฎระเบียบการเดินเรือให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น
+++ส่วนที่อินโดนีเซีย ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืน ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มบนเกาะชวาของอินโดนีเซีย ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 19 ศพ จุดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ เขตการุต มีผู้เสียชีวิต 16 ศพ และสูญหายอีก 8 คน น้ำจากแม่น้ำ 2 สาย เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน ส่วนที่เมืองซิมากัน บ้านเรือนหลายหลังถูกพัดพาไปกับกระแสน้ำ ทีมกู้ภัยยังคงค้นหาผู้สูญหาย และอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ประสบภัย ขณะที่ ทางการอพยพชาวบ้านประมาณ 1,000 คน ไปยังหน่วยทหารและที่พักพิงชั่วคราว
แฟ้มภาพ
รีไรท์ :อรพรรณ สวัสดีผล