กกต.แจงกม.ลูกว่าด้วยกกต. สกัดทุจริต เพิ่มโทษอาญาข้าราชการ นำส่งกรธ. 26 ก.ย.

การชี้แจงร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงสาระสำคัญว่าร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้  เพื่อแก้ปัญหาเรื่องของการซื้อเสียง โดยมีการกำหนดในการจัดตั้งกองทุน ซึ่งก็คือเงินที่มาจากการบริจาค และสามารถใช้ในการหักภาษีได้ รวมถึงการป้องกันและปราบปรามการทุจริตที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งให้มีประสิทธิภาพและการจ่ายค่าตอบแทนให้ผู้ที่แจ้งเบาะแสในการทุจริตเลือกตั้ง ส่วนเงินค่าตอบแทนจะแบ่งเป็น การแจ้งเบาะแสการทุจริตเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. – การเลือกตั้งระดับผู้บริหารท้องถิ่นจะมีรางวัลตอบแทน 5หมื่น - 1แสนบาท ส่วนการแจ้งเบาะแสทุจริตการเลือกตั้งระดับสภาท้องถิ่น จะมีรางวัลตอบแทน 3 - 8หมื่นบาท ทั้งนี้ผู้ที่กระทำให้เกิดความเสียหายจากการซื้อเสียงเลือกตั้งต้องชดใช้เงินในการจัดการเลือกตั้งใหม่ พร้อมค่าสินไหมร้อยละ 2 ของค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งในเขตนั้นๆเพื่อการเข้ากองทุน นอกจากนี้ ผู้บริจาคเงินเข้ากองทุนสามารถหักลดหย่อนภาษี 2เท่าของเงินบริจาก แต่ไม่เกิน 5หมื่นบาทในกรณีบุคคลธรรมดา และไม่เกิน 2แสนในกรณีนิติบุคคล ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด

ส่วนการกำหนดมาตรการลงโทษข้าราชการ พนักงาน ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของ กกต. ทำให้เกิดความเสียหายในการดำเนินการเลือกตั้ง และจะมีการกำหนดบทลงโทษทางอาญาด้วยนอกเหนือจากโทษทางวินัย ทั้งนี้ยังรวมถึงบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งเช่นกัน สำหรับการไต่สวนของ กกต.หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจาก กกต.เป็นพนักงานฝ่ายปกครองเป็นผู้ดำเนินการแทนเพื่อให้มีผลที่ดีกว่าเดิม ขณะที่การคุ้มครองพยาน ที่จะให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่มีหน้าที่คุ้มครองพยาน การไม่ดำเนินทางคดีกับบุคคลที่ช่วยในการแจ้งเบาะแสอันเป็นประโยชน์ของผู้กระทำผิดเลือกตั้ง เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดความโปร่งใส ทั้งนี้สถานะของ กกต.ชุดปัจจุบันให้ดำรงตำแหน่งต่อไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. พ.ศ.2550 ซึ่งให้เป็น กกต.ตามร่างรัฐธรรมนูญต่อไปจนครบวาระ การสรรหา กกต.เพิ่มเติมกำหนดแล้วเสร็จใน 45วันนับตั้งแต่วันประกาศใช้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.โดยเริ่มนับวาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้งโดยการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.ในระหว่างที่ กกต.พ้นจากตำแหน่งก่อนวาระและยังไม่มีการแต่งตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างโดยให้ กกต.เท่าที่เหลืออยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

นอกจากนี้ยังกำหนดให้มี กกต.จังหวัดละ 5คน โดยพิจารณาจากบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในแต่ละด้าน ทั้งนี้ร่างที่แถลงในวันนี้กกต.จะนำส่งให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ( กรธ.)ได้ในวันจันทร์ที่ 26 กันยายนนี้ ซึ่ง พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมในการสัมมนารับฟังความคิดเห็น พร.บ.ประกอบร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 28 กันยายนนี้ ขณะเดียวกันวันที่ 29 กันยายน กกต.จะนัด กรธ.หารือถึงร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญต่อไป

ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี