เจ้าหน้าที่มูลนิธินำชิ้นส่วนศพที่พบในตู้แช่แข็ง ย่านสุขุมวิท 56 เข้าตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ 3 มิติ หรือ CT Scan ที่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติหลังจากที่พบในช่วงที่บุกเข้าไปจับขบวนการปลอมแปลงพาสปอร์ต ย่านสุขุมวิท 56 ผศ.นพ.อุดมศักดิ์ หุ่นวิจิตร หัวหน้าภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า การทำ CTSCAN สามารถระบุได้ว่า ผู้เสียชีวิตถูก เลื่อยไฟฟ้า ตัดชิ้นส่วนทั้งหมด เพราะรอยบาดแผลมีความคมในการตัด และโครงสร้างกระดูกชิ้นใหญ่ ตรวจไม่พบรอยแตกหัก แต่มีเนื้อเยื่อบริเวณคอ บางส่วนหายไป ส่วนระยะเวลาของการเสียชีวิตไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากศพถูกแช่แข็งมาเป็นเวลานาน และมีบางชิ้นส่วนเริ่มเน่าแล้ว จึงต้องเร่งทำการเก็บดีเอ็นเอ เพื่อนำไปตรวจสอบหาดีเอ็นเอแฝง
ขณะที่การพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ยังไม่สามารถทำได้ เพราะต้องรอข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียชีวิตจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เบื้องต้น สามารถระบุได้ว่า เป็น ชาย สูงวัย ชาวยุโรป ส่วนสาเหตุการตายยังไม่สามารถระบุได้ ซึ่งจะต้องตรวจหาสารพิษในร่างกายก่อน
ทั้งนี้สถาบันนิติเวช รพ.จุฬาฯ จะต้องทำงานคู่ขนานกับการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พระโขนง ซึ่งจะต้องนำข้อมูลมาประกอบกันถึงจะสามารถหาสาเหตุที่แท้จริงได้
ขณะที่ ในวันพรุ่งนี้สถาบันนิติเวชรพ.จุฬาจะทำการผ่าตรวจบริเวณช่องปากของศพ เพื่อนำมาพิสูจน์อัตลักษณบุคคลและเก็บตัวอย่างดีเอนเอ รวมถึงหากมีญาติมาชี้ตัวก็สามารถทำให้สรุปตัวตนของผู้เสียชีวิตได้เร็วขึ้น
ขณะที่พ.ต.ท.สุพจน์ นาคเงินทอง ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่าการทำ CT SCAN เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนในการชันสูตรเบื้องต้น หรือเปรียบเสมือนการผ่าจริง โดยจะสามารถเห็นทั้งโครงสร้างร่างกายทั้งหมด ซึ่งการตรวจครั้งนี้ได้ สแกนลึกลงไปประมาณ 0.2-0.5 มิลลิเมตร แล้วนำภาพที่ได้มาเรียงต่อกันเพื่อนำมาประกอบการวินิจฉัยของแพทย์ผู้ทำการตรวจพิสูจน์
ผู้สื่อข่าว:พนิตา สืบสมุทร