รองผบช.น.ประชุมหน่วยพิสูจน์หลักฐานหาที่มาศพแช่แข็ง พบข้อมูลแก๊งปลอมพาสปอร์ตเคยเผาศพเพื่อนชาย

26 กันยายน 2559, 16:20น.


ก่อนการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีจับชาวต่างชาติ 3 ราย ที่ปลอมแปลงพาสปอร์ต และตรวจพบศพถูกหั่นแช่แข็งไว้ภายในบ้านพักย่านสุขุมวิท56

วันนี้เเพทย์จากฝ่ายนิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาได้นำเอกสารการพิสูจน์ทราบบุคคลเข้าร่วมการประชุม พลตำรวจตรีสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

ระบุว่า การประชุมวันนี้ได้เรียกหน่วยพิสูจน์หลักฐานทางนิติเวชทุกแผนกมาประชุมเพื่อทำความเข้าใจ และเพื่อเป็นการทำความเข้าใจระหว่างฝ่ายสืบสวน และฝ่ายสอบสวน ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ในการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล และ ตรวจสอบพยานหลักฐานเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต หากได้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลมาก็สามารถตรวจสอบว่าผู้ตายเป็นใครและเป็นผู้ร่วมขบวนการกับกลุ่มผู้ต้องหาหรือไม่ ส่วนประเด็นในการก่อเหตุฆ่าหั่นศพมองว่าไม่มีความจำเป็นต้องตีกรอบเจ้าหน้าที่จะทำงานตามพยานหลักฐานที่พบ คณะทำงานได้ประสานความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบข้อมูลการรายงานตัวของบุคคลที่ขออนุญาตพักอาศัยภายในราชอาณาจักร ว่ามีบุคคลใดไม่มารายงานตัวตามกำหนดหรือไม่ 

นอกจากนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มั่นใจว่า จะสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดได้อย่างแน่นอน แต่จะสามารถแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นได้หรือไม่ ต้องรอพยานหลักฐานเพิ่มเติม และ ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจสากล แต่หากมีความจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือตำรวจสากล ก็จะเร่งประสานในทันที โดยหลังจากนี้คณะทำงานจะมีการประชุมติดตามความคืบหน้าทุกวันจนกว่าจะสามารถคลี่คลายคดีได้





รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติกลุ่มผู้ต้องหายังไม่พบประวัติการฉ้อโกงทั้งไทยและต่างประเทศ แต่ก็ต้องตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลกับทางประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อความชัดเจนอีกครั้ง ยอมรับมีข้อมูลว่ากลุ่มผู้ต้องหาเคยนำเพื่อนเพศชาย ไม่ทราบสัญชาติ ไปเผาที่วัดกุนนทีรุทธาราม ย่านห้วยขวาง เมื่อประมาณเดือนที่แล้วและชุดสืบสวนได้ไปตรวจสอบที่วัดย่านพระราม9 ว่าชื่อเพื่อนคนดังกล่าวได้ถูกเผาจริงตามข้อมูลที่พบหรือไม่ 

ด้านนพ.ภาณุวัฒน์ ชุติวงศ์ ฝ่ายนิติเวชศาสตร์ ประจำศูนย์ชำนาญการชันสูตรพลิกศพ โรงพยาบาลจุฬา เปิดเผยว่า แพทย์มีหน้าที่หลักในการตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิต และดีเอ็นเอ ซึ่งจากการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้น ได้มีเนื้อบางส่วนเน่าไปแล้ว ทำให้ยากที่จะบอกสาเหตุได้ทั้งหมด ส่วนการนำศพไปตรวจด้วยเครื่อง x-ray 3 มิติ ที่ สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต เพื่อหาสิ่งแปลกปลอมที่อาจจะติดค้างอยู่ภายในร่างกาย รวมถึงโครงสร้างของกระดูกว่ามีจุดไหนได้รับความเสียบ้าง เบื้องต้นยังไม่ยืนยันว่าเป็นใครซึ่งหลังจากนี้จะรับศพกลับมาผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง



ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ

ข่าวทั้งหมด

X