ผู้นำโคลอมเบีย คาดการทำข้อตกลงสันติภาพกับกบฏฟาร์กช่วยฟื้นประเทศ

ประธานาธิบดีฮวน มานูเอล ซานโตส ของโคลอมเบีย กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่าการทำข้อตกลงสันติภาพกับกบฏฟาร์กจะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้มั่นคงแข็งแรงและช่วยให้ประเทศสามารถจะหลอมรวมกลุ่มประชาคมต่างๆให้มีความเป็นปึกแผ่นมากขึ้น ระบุว่าการทำสงครามทำให้รัฐสูญเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าการสร้างสันติภาพ โดยนายซานโตส และนายโรดริโก ลอนโดโน หรือติโมเลีบน จิมิเนซ หัวหน้ากบฏฟาร์กจะร่วมลงนามในข้อตกลงสันติภาพครั้งประวัติศาสตร์ในเมืองการ์ตาเฮนาในช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น

ในพิธีลงนามครั้งนี้ จะมีผู้ร่วมเป็นสักขีพยานราว 2,500 คน รวมถึงนายบัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ, นายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯและบรรดาผู้นำของหลายประเทศในแถบละตินอเมริกา รวมถึงประธานาธิบดีราอูล คาสโตรของคิวบา นอกจากนั้นบรรดาญาติของผู้เสียชีวิตจากสงครามกับฝ่ายกบฏจะเข้าร่วมพิธีเช่นกัน

ก่อนหน้านั้น รัฐบาลโคลอมเบียและฝ่ายกบฏได้เจรจาสันติภาพมาเกือบ 4 ปี ก่อนลงเอยด้วยการลงนามในข้อตกลงสันติภาพเบื้องต้นในกรุงฮาวานา คิวบา เมื่อเดือนก่อน มีผลให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงในอีก 5 วันต่อมา ทำให้สถานการณ์สงบลงอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ข้อตกลงนี้ สมาชิกกบฏฟาร์ก 7,500 คนจะต้องยอมปลดอาวุธให้เสร็จภายใน 180 วัน และย้ายไปอยู่ในเขตปลอดอาวุธที่จัดตั้งโดยยูเอ็น รัฐบาลจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมแก่กบฏที่ทำผิดคดีอาญาทางการเมือง แต่ไม่ครอบคลุมคนที่ทำผิดฐานสังหารหมู่ ทรมานหรือคดีข่มขืน

นอกจากนี้ ฝ่ายกบฏจะผันตัวเองจัดตั้งพรรคการเมืองเพื่อลงเลือกตั้งในเดือนตุลาคมนี้ ขณะเดียวกันรัฐบาลจะจัดสรรตำแหน่งสมาชิกนิติบัญญัติให้กับฝ่ายกบฏ 10 ที่นั่งในจำนวนสมาชิกนิติบัญญัติทั้งหมด 268 คน สำหรับการทำสงครามกับกบฏมีคนเสียชีวิต 260,000 ศพและคนกว่า 6 ล้านคนไร้ที่อยู่อาศัยในประเทศ

ทีมต่างประเทศ

CR:BBC