+++เช้านี้ตามเวลาในไทย ติดตามการโต้วาทีสดดีเบตครั้งแรกของนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนพรรคเดโมแครต และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนของพรรครีพับลิกัน ที่จะมีขึ้นภายในหอประชุมของมหาวิทยาลัยฮอฟสตรา บนเกาะลอง ในนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ดำเนินรายการโดยนายเลสเตอร์ โฮลต์ ผู้ประกาศข่าวชื่อดังของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี การโต้วาทีจะแบ่งเป็น 6 ช่วง ช่วงละ 15 นาที รวมเวลา 90 นาที โดยไม่มีการพักโฆษณา พิธีกร จะป้อนคำถามให้แต่ละคนตอบคนละ 2 นาที สามารถโต้ตอบกันได้แต่ไม่เกิน 2 นาทีเช่นกัน สำหรับหัวข้อที่จะประชันวิสัยทัศน์วันนี้ คือทิศทางของสหรัฐฯ การบรรลุถึงความเจริญรุ่งเรือง และการสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้สหรัฐฯ ซึ่งล้วนแล้วเป็นเรื่องใหญ่ที่อยู่ในใจผู้ออกเสียง
+++หลายฝ่ายจับตาว่าแม้นางฮิลลารี มีประสบการณ์มากกว่า แต่เธอยังสู้สามีไม่ได้ในเรื่องการรักษาภาพลักษณ์ ส่วนนายทรัมป์แน่นอนจะถูกจับตาเรื่องการควบคุมอารมณ์
+++ผลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันที่ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 8 พ.ย. จัดทำโดยสถานีโทรทัศน์เอบีซีนิวส์ และเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ ให้คะแนนสนับสนุนนางฮิลลารี มากกว่านายทรัมป์ นิดเดียว ขณะที่โพลล่าสุดทั้งคู่ มีคะแนนคู่คี่กันมาก อย่างไรก็ตามร้อยละ 9 ของกลุ่มที่คาดว่าจะออกไปใช้สิทธิ์ ยังไม่มีผู้สมัครคนใดคนหนึ่งอยู่ในใจ ซึ่งการดีเบตวันนี้ คือโอกาสแรกของผู้สมัครในการซื้อใจประชาชน
+++ขณะที่โพลของรอยเตอร์ พบว่า มีผู้ออกเสียงถึงร้อยละ 20 ที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใครคนเหล่านี้ จึงพร้อมเปลี่ยนใจได้ทุกเมื่อ
+++รอยเตอร์รายงานนายแดน ชนูร์ อดีตนักยุทธศาสตร์ของพรรครีพับลิกัน และอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์น แคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ คาดว่าจำนวนผู้ชมทางโทรทัศน์จะสูงว่าสถิติเดิมคือ 80 ล้านคน ที่ชมการโต้วาทีทางโทรทัศน์ระหว่างประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ จากพรรคเดโมแครตกับผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกันคือนายโรนัลด์ เรแกนเมื่อปี 2523 คาดจะมีคนอเมริกันเฝ้าชมทุบสถิติเกือบ 100 ล้านคน
+++ด้านนักยุทธศาสตร์หลายคนระบุว่า ทั้งนายทรัมป์และนางฮิลลารี ตันหวังจะใช้โอกาสนี้ชี้แจงข้อสงสัย เรียกคะแนนนิยมจากผู้มีสิทธ์เลือกตั้งและแก้ไขข้อบกพร่องและจุดอ่อนของนโยบายต่างๆที่อาจจะมีในช่วงการตระเวนรณรงค์หาเสียง
+++นายทรัมป์ นักธุรกิจจะใช้โอกาสแสดงถึงความรอบรู้เรื่องราวๆอย่างลึกซึ้งและความคงเส้นคงวา แสดงให้เห็นว่าเขาเหมาะสมจะก้าวขึ้นไปทำหน้าที่ผู้นำประเทศ ขณะที่นางฮิลลารี คงจะพยายามใช้โอกาสนี้ชี้แจงแนวนโยบายส่งสัญญาณไปถึงกลุ่มคนที่ไม่เชื่อมั่นในตัวเธอให้เกิดความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเธอมีความเหมาะสมจะดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯเช่นกัน
+++ทีมงานของนายทรัมป์ นำวิดีโอการดีเบตของนางฮิลลารีในช่วง 16 ปี ย้อนหลังมาศึกษาเพื่อหาทางตั้งรับ ส่วนรายงานข่าวที่ว่านายทรัมป์มีแผนจะไปเอาเจนนิเฟอร์ ฟลาวเวอร์ส์ กิ๊กเก่าของนายบิล คลินตัน สามีของนางฮิลลารีมานั่งแถวหน้าเวทีดีเบต เพื่อทำให้นางฮิลลารีเสียสมาธิในการดีเบตนั้น ทีมงานของนายทรัมป์กล่าวว่าไม่เป็นความจริง
+++ขณะที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา แนะนำนางฮิลลารี่สั้นๆว่า ขอให้เป็นตัวเองให้มากที่สุด
+++เกิดเหตุรุนแรงซ้ำในสหรัฐฯ อีกแล้ว เกิดเหตุ ทนายความชายชาวอเมริกันคนหนึ่งที่กำลังมีปัญหา ใช้ปืนรัวยิงประชาชนที่ขับขี่รถยนต์อยู่บนถนน ในเมืองฮิวสตัน รัฐเทกซัส เมื่อเช้าวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ช่วงค่ำตามเวลาในไทย ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 9 คน โดย 6 คนในจำนวนนี้อาการวิกฤตและสาหัส ขณะที่มือปืนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าระงับเหตุยิงเสียชีวิต นายมาร์ธา มอนแทลโว รักษาการหัวหน้าสำนักงานตำรวจเมืองฮิวสตัน กล่าวว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดย 1 คนอาการวิกฤต อีก 5 คนอาการสาหัส ส่วน 3 คนแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ นายมอนแทลโวปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อผู้ต้องสงสัย ที่ถูกตำรวจยิงเสียชีวิต เพียงแต่ระบุว่า มีอาชีพทนายความ และมีปัญหากับเพื่อนร่วมสำนักงานกฎหมายที่สังกัด
+++ ประชาชนที่เห็นเหตุการณ์หลายคน เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. คนร้ายยืนใช้ปืนยิงรถยนต์ที่วิ่งผ่าน จากริมถนนใกล้ศูนย์การค้าและชุมชนที่พักอาศัยระดับหรู เวสต์ ยูนิเวอร์ซิตี เพลส โดยรัวยิงติดต่อกันประมาณ 20 - 30 นัด เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ตรวจค้นรถยนต์ส่วนตัวยี่ห้อปอร์เช่ของผู้ต้องสงสัย ซึ่งพบว่ามีอาวุธอยู่ภายในรถเป็นจำนวนมาก และตำรวจมีแผนจะเข้าตรวจค้นบ้านพักด้วย
+++เหตุการณ์นี้มีขึ้น 3 วันเมื่อวันเสาร์ เกิดเหตุกราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในรัฐวอชิงตัน มีคนเสียชีวิต 5 ศพ ล่าสุด เจ้าหน้าที่จับคนร้ายได้ คือ นายอาร์คัน เซติน วัย 20 ปี เกิดในตุรกีและมีถิ่นที่พักอาศัยอย่างถูกกฎหมายในสหรัฐฯ ด้านหน่วยเอฟบีไอ ระบุว่า ยังไม่พบหลักฐานว่าเหตุกราดยิงของนายเซตินมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้าย
+++ย้อนไปเมื่อ 10 วันก่อน ชายวัย 20 ปี รายหนึ่งใช้มีดแทงคนที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในรัฐมินนิโซตา ก่อนที่คนร้ายจะถูกตำรวจที่ออกเวรแล้วคนหนึ่งวิสามัญเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ
+++ไปที่ไต้หวัน เว็บไซต์สำนักข่าวไต้หวันนิวส์ รายงานให้ชาวไต้หวันเตรียมพร้อมรับพายุลูกใหม่คือพายุไต้ฝุ่นเมกี คาดว่า จะขึ้นฝั่งทางตะวันออกวันนี้ อิทธิพลของพายุ ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออก นอกจากนี้ยังมีลมแรงในแถบชายฝั่งทะเล รวมถึงเกาะกรีน,เกาะหลันอี้และคาบสมุทรเฮงชุนทางตอนใต้ของไต้หวันด้วย นอกจากนี้ อาจจะเกิดเหตุดินสไลด์ในพื้นที่เขาสูง เนื่องจากสภาพดินเปียกชุ่มหลังฝนตกหนักต่อเนื่องจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นเมอรันตีและมาลากัส
+++คนงานเกาหลีใต้ เกือบ 50,000 คน ในโรงงานของฮุนได มอเตอร์ 3 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงโรงงานหลักในเมืองอุลซาน ทางภาคใต้ ผละงานประท้วงเมื่อวานนี้ เป็นการประท้วงใหญ่เต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกของบริษัท นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 โฆษกสหภาพแรงงานฮุนได มอเตอร์ กล่าวว่า การหยุดงานประท้วงบางส่วน เป็นเวลา 6 ชั่วโมง จะมีขึ้นอีกระหว่างวันอังคารถึงวันศุกร์ เพื่อผลักดันข้อเรียกร้องขอขึ้นค่าแรง และสวัสดิการที่ดีกว่าเดิม ข้อเรียกร้องล่าสุดรวมถึง การขึ้นค่าแรงร้อยละ 7.2 รวมทั้งเงินโบนัสสำหรับพนักงานลูกจ้าง ที่จะได้รวมกันทั้งหมดร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิของบริษัทเมื่อปีที่แล้ว
+++ฮุนได ประเมินว่า ความสูญเสียจากการผละงานประท้วง เฉพาะในปีนี้คิดเป็นจำนวนเงินมากกว่า 2 ล้านล้านวอน (ประมาณ 62,085 ล้านบาท)
+++ประธานาธิบดีฮวน มานูเอล ซานโตส ของโคลอมเบีย กล่าวถึง การทำข้อตกลงสันติภาพกับกบฏฟาร์กว่าจะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้มั่นคงแข็งแรงและช่วยให้ประเทศสามารถหลอมรวมกลุ่มประชาคมต่างๆให้มีความเป็นปึกแผ่นมากขึ้น การทำสงครามทำให้รัฐสูญเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าการสร้างสันติภาพ โดยนายซานโตส และนายโรดริโก ลอนโดโน หรือติโมเลีบน จิมิเนซ หัวหน้ากบฏฟาร์กจะร่วมลงนามในข้อตกลงสันติภาพครั้งประวัติศาสตร์ในเมืองการ์ตาเฮนา พิธีลงนามครั้งนี้ จะมีผู้ร่วมเป็นสักขีพยานราว 2,500 คน หลังจากที่เจรจาสันติภาพมาเกือบ 4 ปี ภายใต้ข้อตกลงนี้ สมาชิกกบฏฟาร์ก 7,500 คนจะต้องยอมปลดอาวุธให้เสร็จภายใน 180 วัน และย้ายไปอยู่ในเขตปลอดอาวุธ รัฐบาลจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมแก่กบฏที่ทำผิดคดีอาญาทางการเมือง แต่ไม่ครอบคลุมคนที่ทำผิดฐานสังหารหมู่ ทรมานหรือคดีข่มขืน นอกจากนี้ ฝ่ายกบฏจะผันตัวเองจัดตั้งพรรคการเมืองเพื่อลงเลือกตั้งในเดือนตุลาคมนี้ ขณะเดียวกันรัฐบาล จะจัดสรรตำแหน่งสมาชิกนิติบัญญัติให้กับฝ่ายกบฏ 10 ที่นั่งในจำนวนสมาชิกนิติบัญญัติทั้งหมด 268 คน
+++ฟิลิปปินส์ กำลังติดตามหาสาเหตุ หลังจากที่มีการยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาในเดือนกันยายนแล้ว 12 คน เป็นสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ 19 สัปดาห์รวมอยู่ในกลุ่มของผู้ติดเชื้อด้วย โดยแพทย์กำลังติดตามอาการของผู้ติดเชื้ออย่างใกล้ชิด ซึ่งผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาทั้ง 12 คน ยืนยันว่าไม่เคยเดินทางออกนอกพื้นที่ในช่วงเวลาหนึ่งเดือน ทำให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบหาต้นตอการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสซิกา
+++เกิดเหตุหวาดเสียว ภายในรถไฟหัวกระสุน ซึ่งเป็นบริการรถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่น จำเป็นต้องจอดฉุกเฉินหลังจากพบงูเลื้อยอยู่ระหว่างที่นั่งบนขบวนรถ ผู้โดยสารคนหนึ่งสังเกตุเห็นงู ซึ่งมีความยาว 30 เซนติเมตร อยู่ระหว่างช่องว่างของที่นั่ง ทำให้รถไฟขบวนดังกล่าว ซึ่งเดินทางระหว่างกรุงโตเกียวไปนครฮิโรชิมา ต้องจอดฉุกเฉินเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับงู แม้ว่าจะมีลักษณะน่ากลัว แต่บรรษัทกระจายเสียงสาธารณะเอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานว่า เจ้าหน้าที่เชื่อว่า งูตัวสีน้ำตาลดังกล่าวไม่มีพิษร้ายและไม่มีรายงานว่ามีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
+++รายงานของเอ็นเอชเค ระบุว่า พนักงานรถไฟได้ประกาศแจ้งว่ามีผู้โดยสารคนใดลืมงูไว้หรือไม่แต่ไม่มีใครออกมารับเป็นเจ้าของ และตำรวจจะยังคงตามหาเจ้าของต่อไป
CR: https://twitter.com/24HorasTVN/status/780438317544464384?s=06