ครม.เน้นมาตรการช่วยประชาชนฐานราก เพิ่มรายได้ –ลดรายจ่าย รักษาระดับศก.ไตรมาสสุดท้าย

การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมวันนี้ ติดตามเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีส่วนหน้าที่จะมาดูแลปัญหาภาคใต้ ที่จะมีรายชื่อที่ชัดเจนในวันที่ 1 ต.ค. พร้อมทั้งมีการพิจารณาข้อเสนอแนวทางการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ มาตรการช่วยเหลือประชาชนในภาคเศรษฐกิจฐานรากที่กระทรวงการคลัง เสนอ หลังจากที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ต้องการให้มีมาตรการทั้งส่วนของการเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายของประชาชน เนื่องจากพบว่าประชาชนในกลุ่มดังกล่าวโดยเฉพาะในส่วนของเกษตรกรยังประสบความยากลำบากเนื่องจากราคาสินค้าเกษตรยังไม่ปรับตัวดีขึ้น ขณะเดียวกันรัฐบาลยังต้องการรักษาระดับการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายให้ขยายตัวได้ต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 1 และ 2

ครม.จะพิจารณาขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ในส่วนงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเสริมสร้างความเข้มแข็งและก้าวหน้าของประเทศตามแนวทางปฏิรูปเพิ่มเติม (โครงการขับเคลื่อนและปฏิรูประบบบริการสุขภาพ : การพัฒนารูปแบบการจัดบริการเครือข่ายบริการปฐมภูมิเขตเมือง (PCC)

พิจารณาเรื่องเงินกู้จากรัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับโครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ - รังสิต ระยะที่ 3 และพิจารณาเรื่องที่กระทรวงคมนาคม เสนอขออนุมัติดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย และการขออนุมัติจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์เพื่อรับโอนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

นอกจากนี้ จะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญาที่เป็นธรรม  ร่างพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร จำนวน 3 ฉบับ ซึ่งเป็นมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่างกฎกระทรวง เกี่ยวกับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับโดยเสน่หา ที่นักกีฬา นักกีฬาพิเศษ และบุคลากรทางการกีฬา ได้รับ เนื่องจากเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา และรายการแข่งขันกีฬาสมัครเล่นระดับนานาชาติ รวมทั้งการพิจารณาขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2526 เรื่องนโยบายการเดินรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานคร และเสนอร่างกฎหมายจำนวน 4 ฉบับ

ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ