คู่ชิงปธน.สหรัฐ แสดงจุดยืนที่แตกต่างในประเด็นความมั่นคง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน กับนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนพรรคเดโมแครต ต่างก็มีนโยบายที่แตกต่างกันเกี่ยวกับเรื่องภาษี ขณะที่นายทรัมป์ยืนยันเรื่องลดภาษีคนรวย และผู้ประกอบการเพื่อให้นำเงินไปลงทุน แต่นางคลินตันสนับสนุนการเพิ่มภาษีคนรวยและผู้ประกอบการ เพื่อสร้างความเท่าเทียมกัน อย่างไรก็ตาม นายทรัมป์ยืนยันไม่เปิดเผยบัญชีการเงินและไม่อธิบายด้วยว่าเพราะอะไร แต่เขาบอกว่า จะเปิดเผยบัญชี หากนางคลินตันเปิดเผยเรื่องอีเมลล์ แต่ในขณะที่นางคลินตันยอมรับว่าเป็นความผิดพลาด นายทรัมป์ก็แทรกขึ้นว่า นั่นไม่ใช่ความผิดพลาดแต่คือเจตนา ส่วนเรื่องที่สหรัฐขาดดุลงบประมาณมหาศาล นายทรัมป์กล่าวว่า จากประสบการณ์ในการทำงานด้านเศรษฐกิจเขาจะสามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินของสหรัฐอเมริกาได้

มาถึงเรื่องของปัญหาความขัดแย้งทางสังคม นางคลินตันกล่าวตำหนินายทรัมป์ว่าเป็นผู้วาดภาพที่เลวร้ายให้เกิดขึ้นในสังคมของชาวอเมริกันผิวสี อย่างไรก็ตามนางคลินตันยืนยันว่า ทุกคนควรเคารพกฎหมาย พร้อมไปกับการที่โบสถ์ ตำรวจ ธุรกิจ ประชาชนในพื้นที่ที่จะต้องสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ซึ่งจากกระแสความเกลียดชังตำรวจที่เกิดขึ้นนั้น นางคลินตันกล่าวว่า คน ๆหนึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำรวจแต่ก็ยังมีบทบาทอื่นเช่นกัน

ส่วนคำถามว่า เหตุใดนายทรัมป์มักโจมตีนายบารัก โอบามา ว่าไม่ได้เกิดที่สหรัฐอเมริกา จนกระทั่งนายโอบามา เปิดเผยสูติบัตร นายทรัมป์ก็บอกว่า เรื่องนี้จบลงแล้ว นอกจากนี้นายทรัมป์ยังตั้งคำถามถึงนางคลินตันเกี่ยวกับท่าทีที่แตกต่างกันระหว่างขณะที่เธอกำลังหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งก่อนกับประธานาธิบดีโอบามา ซึ่งนางโจมตีข้อด้อยต่างๆ ของประธานาธิบดีโอบามา ต่อมาประธานาธิบดีโอบามาชนะ และนางก็ทำงานกับประธานาธิบดีโอบามา ทั้งกล่าวถึงข้อดีมากมายของประธานาธิบดีโอบามา

ส่วนเรื่องที่พรรคเดโมแครต กล่าวหารัสเซียแฮกข้อมูลพรรค ในระหว่างที่นางคลินตัน หาเสียงแข่งขันกับนายเบอร์นี แซนเดอร์สนั้น นายทรัมป์กล่าวว่า ผู้ที่แฮกข้อมูลไปจะเป็นรัสเซียจริงหรือไม่ก็ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน อาจเป็นจีนก็ได้ ขณะที่กลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสก็มีความเชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยีเช่นกัน และก็เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า นายแซนเดอร์สถูกเอาเปรียบ และนายทรัมป์เห็นว่าสหรัฐอเมริกาต้องพัฒนาขีดความสามารถด้านไซเบอร์ นอกจากนี้ นายทรัมป์ ยังกล่าวหาว่า ทั้ง 2 คนก่อให้เกิดสูญญากาศในอิรัก และทำให้ไอเอสเกิดและเติบโตขึ้น และก็เป็นชาวอเมริกันเองที่ก่อเหตุรุนแรงในสหรัฐอเมริกา ในนามของสมาชิกกลุ่มไอเอส

นางคลินตัน ยืนยันว่า ประธานาธิบดีโอบามา ไม่ได้เป็นผู้ก่อสงครามในอิรักและซีเรีย แต่คือการปกป้องพลเมืองอเมริกันด้วยการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายในจุดเริ่มต้น ส่วนเรื่องที่นายทรัมป์ไม่เห็นด้วยกับการทำสงครามและความร่วมมือกับกลุ่มนาโต้ นางคลินตันบอกว่า ตามข้อตกลงของนาโต้มีบทบัญญัติอยู่ว่าการโจมตีสมาชิกประเทศหนึ่งประเทศใดก็คือการโจมตีทั้งหมด ในการแก้ไขปัญหาของอิหร่านในช่วงนั้น เธอทำงานร่วมกับรัสเซียและจีน เพื่อหยุดโครงการนิวเคลียร์ได้สำเร็จ นายทรัมป์บอกว่า เขาควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่า นางคลินตัน 

ทีมต่างประเทศ 

CR:CNN