การโต้วาที หรือดีเบตครั้งแรกของคู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน กับนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนพรรคเดโมแครต ซึ่งมีขึ้นที่มหาวิทยาลัยฮอฟสตรา เมืองลองไอส์แลนด์ ของรัฐนิวยอร์ค ขณะนี้จบลงแล้วโดยมีเนื้อหาโดยรวมเกี่ยวกับเศรษฐกิจ การต่างประเทศ สิ่งแวดล้อม การก่อการร้าย และอาวุธปืน
โดยในระหว่างการโต้วาที ขณะที่นายทรัมป์ ระบุว่า การดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดของประธานาธิบดีบารัค โอบามา กับนางคลินตัน ทำให้เกิดกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส นางคลินตันก็ตอบโต้ว่านายทรัมป์เป็นผู้สนับสนุนให้เกิดสงครามในอิรัก ซึ่งนายทรัมป์ก็แทรกขึ้นมาทันทีว่าไม่เป็นความจริง
ทั้งนี้ พิธีกรถามนายทรัมป์ว่าเหตุใดจึงคิดว่านางคลินตัน ไม่มีความเหมาะสมที่จะเป็นประธานาธิบดี ซึ่งเป็นส่วนที่มีการโต้ตอบกันไปมา เมื่อนายทรัมป์ ตอบว่า นางคลินตันไม่สามารถเจรจาการค้า และไม่มีความแข็งแรงมากพอ แต่นางคลินตันก็บอกว่า ในระหว่างการดำรงตำแหน่ง เธอเดินทางไปยัง 112 ประเทศและผลักดันให้เกิดสันติภาพ รวมถึงใช้เวลา 11 ชั่วโมงเพื่อให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการรัฐสภา นายทรัมป์ก็ตอบกลับทันทีว่า นางคลินตันมีประสบการณ์ แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่ดี จากนั้นนางคลินตันก็ชี้ว่า นายทรัมป์มีแนวคิดเหยียดเพศและเชื้อชาติ ใช้ถ้อยคำเปรียบเทียบผู้หญิงกับสัตว์หลายชนิด ทั้งเห็นว่าสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ไม่เหมาะสมที่จะได้รับการว่าจ้างงาน แต่นายทรัมป์เห็นว่า นางคลินตันกำลังใช้การโฆษณาในเชิงลบ
โดยในขณะนี้การโต้วาทีจบลงแล้ว คำถามสุดท้ายคือจะยอมรับผลการเลือกตั้งหรือไม่ หากอีกฝ่ายเป็นผู้ชนะนางคลินตันกล่าวว่า การเลือกตั้งเป็นเรื่องของทุกคนและหวังว่าผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจะใช้สิทธิ์ของตนเอง ขณะที่นายทรัมป์ เลี่ยงที่จะตอบคำถามในครั้งแรก โดยเขากล่าวว่า เขาต้องการเห็นสหรัฐอเมริกา กลับมาครองความยิ่งใหญ่อีกครั้ง และการส่งกลับบุคคลเข้าเมืองผิดกฎหมาย 80,000 คน เมื่อพิธีกรถามย้ำว่า จะยอมรับหรือไม่ เขาจึงบอกว่าหากนางคลินตันชนะ เขาก็พร้อมที่จะสนับสนุน แต่เขาไม่เชื่อว่าเธอจะเป็นผู้ชนะ
สำหรับการโต้วาทีครั้งต่อไป จะมีขึ้นในวันที่ 9 ตุลาคมและครั้งที่ 3 คือวันที่ 19 ตุลาคม
และในภายหลังจากที่การโต้วาทีสิ้นสุดลง มีการประเมินผลที่พบว่า แม้คำกล่าวของนายทรัมป์จะถูกยกมาพูดถึงมากกว่าคำพูดของนางคลินตัน แต่ถ้อยคำเหล่านั้นส่วนใหญ่คือการแสดงอารมณ์ และวาทกรรม มากกว่านโยบาย ขณะที่นางคลินตันได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มสตรี และผู้มีเชื้อสายฮิสแปนิก ที่เห็นว่าเธอกล่าวปกป้องพวกเขา ทั้งยังมีท่าทีหนักแน่นมากกว่า เมื่อถูกนายทรัมป์ยั่วยุตลอดเวลา แต่เธอก็เพียงแต่ยิ้ม หรือหัวเราะเท่านั้น นักวิเคราะห์การเมืองสหรัฐหลายคนถึงกับระบุว่า นางคลินตันเป็นผู้คุมเกมตั้งแต่ต้นจนจบ
และเมื่อการโต้วาทีครั้งนี้สิ้นสุดลง มีผู้ถามนายทรัมป์ว่า ก่อนหน้านี้จะพาสตรีที่เคยเป็นข่าวอื้อขาวกับอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตันมาฟังการโต้วาทีในวันนี้ด้วย แต่วันนี้ไม่ได้มา นายทรัมป์บอกว่า ที่ไม่ได้พามา ก็เพราะวันนี้ เชลซีบุตรสาวของบิล และฮิลลารี คลินตันมาด้วย