+++แนวทางการช่วยเหลือเกษตรกร นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม. มอบหมายให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร( ธ.ก.ส.) ดำเนินการ 2 มาตรการหลัก คือ มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้มีรายได้น้อย ที่ลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคม-15 สิงหาคม 2559 ที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากหน่วยงานราชการแล้ว โดย ธ.ก.ส.จะโอนเงินเข้าบัญชีให้แก่เกษตรกรโดยตรง ให้แก่ผู้ที่ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี จำนวน 3,000 บาทต่อคน มีเกษตรกรผู้มีสิทธิจำนวน 1.51 ล้านคน และผู้มีรายได้มากกว่า 30,000 บาทแต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จำนวน 1,500 บาทต่อคน มีเกษตรกรผู้มีสิทธิจำนวน 1.34 ล้านคน รวมผู้มีสิทธิทั้งสิ้น 2.85 ล้านคน ใช้งบประมาณ 6,540 ล้านบาท
+++มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยผ่านระบบ ธ.ก.ส. เพื่อบรรเทาภาระหนี้สินของเกษตรกร ช่วยเหลือเกษตรกรให้กลับมาทำการผลิตต่อไปได้และสนับสนุนเกษตรกรรุ่นใหม่ที่เป็นทายาทให้เข้ามาทดแทนเกษตรกรรุ่นเก่าที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและคืนดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรที่ชำระดี กำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นเกษตรกรลูกค้ารายย่อยที่มีหนี้สินต้นเงินกู้รายละไม่เกิน 300,000 บาท จำนวนประมาณ 2,897,000 ราย หนี้สินจำนวนประมาณ 334,525 ล้านบาท ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2559-31 มีนาคม 2561
+++การชดเชยคดีทุจริตจำนำข้าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ยืนยันว่า มีหน้าที่ในการอำนวยความเป็นธรรมให้ฝ่ายกฎหมาย ศาล กระบวนการยุติธรรมทำงาน ไม่ได้ไปใช้อำนาจในการชี้ผิดชี้ถูก เพียงแต่ป้องกันเจ้าหน้าที่ ดังนั้น ต้องมีมาตรา 44 เพื่อปกป้องข้าราชการ แต่ไม่ใช่เพื่อปกป้องให้รังแกคน แต่เพื่อให้กล้าทำงาน ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาในการทำงานวันข้างหน้า มาตรา 44 ไม่ได้ไปชี้ผิดถูก ไม่ได้เอามาตัดสินกรณีโครงการรับจำนำข้าว แต่เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะผิดจะถูกไปสู้กันตรงนั้น ตามหลักฐานที่มีอยู่
+++นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้รับรายงานเกี่ยวกับมติคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งที่พิจารณาให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ชดใช้ค่าเสียหาย กรณีละเลยโครงการจำนำข้าววงเงิน 3.57 หมื่นล้านบาทแล้ว จึงส่งรายงานให้นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ดำเนินการตามขั้นตอนการเรียกค่าเสียหายต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ต่อไป
+++ความเสียหายจากการทุจริตโครงการจำนำข้าว ได้รับแจ้งจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯว่า มีคดีฟ้องร้องผู้กระทำความผิดโครงการจำนำข้าวถึง 800 คดี ในพื้นที่เกิดการทุจริตรวม 33 จังหวัด มีผู้เกี่ยวข้องทั้งจากภาคเอกชนและเจ้าหน้าที่รัฐ อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เพื่อชี้มูลก่อนส่งเรื่องมายังคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งที่มีกรมบัญชีกลางเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ
+++หลังจากเมื่อวานนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 59/2559 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 8 ขั้นตอนต่อจากนี้ ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) แจ้งเรื่องนี้ให้ผู้บังคับบัญชาแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจาก ศอตช. เพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้นั้นหรือเพื่อดำเนินการทางวินัยต่อไป ในกรณีไม่อาจดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้รายงานรัฐมนตรีเจ้าสังกัดของ เจ้าหน้าที่ผู้นั้น แล้วแต่กรณี เพื่อขยายเวลาได้ตามความจำเป็น
+++คำสั่งเมื่อวาน ท้องถิ่นจ.มหาสารคามโดนยกแผง นายเสฐียรพงศ์ มากศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า พบรายละเอียดแยกเป็นรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเป็นพนักงานส่วนตำบลปีงบประมาณ 2557 จำนวน 58 ราย และรายชื่อบุคคลเกี่ยวข้องกับการทุจริตสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเป็นพนักงานส่วนตำบลปีงบประมาณ 2556 จำนวน 11 ราย รวม 69 ราย ในส่วนของจังหวัดมหาสารคามมีทั้งหมด 69 ราย ต้องบอกว่าบุคคลเหล่านี้อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตของนายก อบต.ที่จังหวัดมหาสารคามมีคำสั่งให้พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อต้นเดือน บุคคลต่างๆ ที่มีรายชื่อล้วนเป็นคณะกรรมการดำเนินการสอบแข่งขันร่วมกับนายก อบต. แต่ละคนมีส่วนเกี่ยวข้องมากบ้างน้อยบ้าง บางคนเข้าข่ายการทุจริตผิดทางอาญา บางคนอาจผิดทางวินัย รายชื่อทั้งหมดส่งให้ ป.ป.ช.แล้ว
+++จังหวัด จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าบุคคลเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำทุจริตหรือไม่ เรื่องการสอบปี 2556 เป็นเรื่องที่ อบต.กลาง ตรวจพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงคะแนน จังหวัดได้สอบไปแล้ว แต่ยังพบอุปสรรค เมื่อมีคำสั่ง คสช.ออกมาก็จะทำให้คณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบได้ง่ายขึ้น ทำให้ได้ข้อเท็จจริง กลุ่มที่อาจมีส่วนกระทำความผิดในปี 2557 ประกอบด้วยคณะกรรมการดำเนินการสอบ มีส่วนในการสอบ
+++ครม. มีมติเห็นชอบให้นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเกษมสันต์ กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกติดใจอะไร และคงต้องลองให้คนอื่นมาทำหน้าที่ปลัดกระทรวงบ้าง เมื่อถามว่าการโยกย้ายครั้งนี้เป็นเพราะมีความขัดแย้งกับ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว. ทส.หรือไม่ นายเกษมสันต์ ตอบว่า คงต้องไปถามรัฐมนตรีเอง แต่ส่วนตัวได้ทำตามหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว เรื่องความขัดแย้งคงไม่พูดถึง
+++คดีการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล อดีตพนักงานที่ดินพังงา ผู้ต้องหาที่ผูกคอตายในห้องขัง การประชมของคณะกรรมการชุดนายวิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงประชุมร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ยังไม่ได้ข้อยุติสาเหตุการเสียชีวิต ยังมีบางประเด็นที่เป็นข้อสงสัย โดยเฉพาะภาพกล่องเสียงที่ได้จากการเอกซเรย์ 3 มิติ ซึ่งเห็นภาพไม่ชัดเจนจึงขอให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง เพื่อคลายข้อสงสัยประเด็นกล่องเสียงแตก เนื่องจากแพทย์ต้องการทราบว่ามีกระดูกหักมากน้อยแค่ไหน ลักษณะการแตกเป็นอย่างไร ส่วนประเด็นกระดูกซี่โครงหัก จะขอดูแผ่นฟิล์มเอกซเรย์ จากโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะซึ่งไม่พบซี่โครงหัก โดยจะขอให้แพทย์ของ รพ.มงกุฎวัฒนะ มาอ่านแปลฟิล์มเอกซเรย์อีกครั้ง นอกจากนี้จะขอดูภาพวงจรปิดการรักษาเพื่อนำมาประมวลผลให้ครบถ้วน
+++คณะกรรมการจะประสานให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ส่งตัวอย่างถุงเท้า ที่มีลักษณะเส้นใยใกล้เคียงกับถุงเท้าคู่ที่ใช้ก่อเหตุผูกคอ เพื่อนำมาจำลองลักษณะการแขวนและถ่วงน้ำหนัก ส่วนประเด็นตับแตก คณะกรรมการเห็นภาพว่าตับแตกจริง แต่ยังไม่สรุปว่าเป็นเหตุให้เสียชีวิตได้หรือไม่ ต้องมีการแปลผลอย่างละเอียดจากผู้เชี่ยวชาญ นัดประชุมอีกครั้ง วันที่ 29 ก.ย. นี้ เวลา 17.00 น. โดยยังคาดว่าจะสรุปผลการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายในกรอบเวลาคือ วันที่ 8 ต.ค.
+++ด้านพันตำรวจเอกมานะ เผาะช่วย ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง เปิดเผยว่า ในวันนี้ เชิญแพทย์กู้ชีพที่ให้การช่วยเหลือนายธวัชชัย มาสอบปากคำเพิ่มเติม
+++การติดตามคนร้ายที่ฆ่าศพหญิงสวมชุดเดรส สีดำ ขาว ทิ้งศพริมถนนภายในซอยข้างบริษัทไทยตาบูชิ อีเล็คทริค จำกัด ถนนบางนา-ตราด ม.5 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ล่าสุดทราบแล้วว่าผู้เสียชีวิตชื่อ นานไหล่ ทำงานเป็นเป็นพนักงานอยู่ที่ร้านเอเชียอาบอบนวด ต.บางปลาสร้อย อ.เมือง จ.ชลบุรี ครอบครัวยืนยันแล้วหลังไปดูศพ จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในร้านพบภาพผู้ต้องสงสัยเป็นชายวัยกลางคน สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ เข้ามาในร้านเวลา 20.50 น. ของคืนวันที่ 25 ก.ย. ก่อนจะออกไปกับผู้ตายในเวลาประมาณ 00.26 น. ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบทะเบียนประวัติอาชญากรรม เทียบเคียงรูปพรรณผู้ต้องสงสัย ก่อนนำภาพหน้าตรงของชายคนดังกล่าวมาให้เจ้าของร้านและเพื่อนร่วมงานของผู้ตายดู ซึ่งทั้งหมดให้การยืนยันว่าเป็นชายคนที่ผู้ตายออกไปด้วย ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบปากคำ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
+++ด้านพล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา คาดภายใน 1-2 วันนี้คดีน่าจะคลี่คลาย สาเหตุยังไม่แน่ชัด ต้องรอเจ้าหน้าที่ติดตามตัวชายต้องสงสัยมาให้ได้ก่อน แต่เชื่อว่าคนร้ายน่าจะลงมือสังหารเหยื่อจากจ.ชลบุรีแล้วนำศพมาทิ้งอำพรางในอ.บางปะกง โดยคนร้ายน่าจะลงมือเพียงคนเดียว