+++เหตุความรุนแรงในภาคใต้ หลังจากที่เมื่อวานนี้คนร้ายยิงและตัดคอ มีรายงานจากหน่วยข่าวความมั่นคง เปิดเผยว่า เหตุฆ่า 3 ศพ โดย 1 ใน 3 เป็นการฆ่าตัดคอ ที่อ.บันนังสตา จ.ยะลา ความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มีรายงานว่า นายมะแซ อุเซ็ง รองหัวหน้าฝ่ายทหาร (DKP) และสมาชิก 7 คน ได้มีการประชุมวางแผนบริเวณบ้านเช่าของ นายมะ กือลาดี ซึ่งเปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่งในพื้นที่บ้านคอมบอก รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย และได้สั่งการให้สมาชิกที่อาศัยอยู่ในรัฐกลันตัน และรัฐตรังกานู ประเทศมาเลเซียเดินทางเข้าไทยตั้งแต่ วันที่ 30 มี.ค.เข้ามาก่อเหตุเป็นเชิงสัญญลักษณ์ หน่วยข่าวความมั่นคง คาดว่า อาจจะเป็นชุดที่เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย ตามคำสั่งนายมะแซ อุเซ็ง ให้ก่อเหตุในช่วงเปลี่ยนแม่ทัพภาค 4 คนใหม่ เพื่อเป็นการสร้างเงื่อนไขในการที่จะมีการเจรจาสันติภาพ
+++มาที่ความเคลื่อนไหวเศรษฐกิจ นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม และนายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน แถลงการแต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนชุดใหม่ หลังจากแก้ไขมติคณะรัฐมนตรี เพื่อให้การส่งเสริมการลงทุนเดินหน้า และรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากลระยะที่ 2 ที่หลังเปิดให้ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจนถึงวันที่ 31 มี.ค. ปรากฏว่ามีผู้ผลิตรถยนต์ให้ความสนใจยื่นขอรับส่งเสริม10 รายมากกว่าที่คาดไว้
+++หลังจากที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ออกรายงานว่า การที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว จะทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภค กำลังซื้อภาคครัวเรือนจะลดลงอีกมาก นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทขนาดเล็กน่าเป็นห่วงที่สุด เพราะสายป่านทางธุรกิจอาจจะขาดได้เมื่อสินค้าขายไม่ออกเนื่องจากบริษัทเหล่านี้อยู่ได้ด้วยเงินจากการขายสินค้าเพื่อนำรายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายในธุรกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะต้องหารือไปช่วยดูแลลูกค้าของตัวเอง อย่าให้ขาดสภาพคล่อง อย่างน้อยแบงก์ก็ควรปล่อยสินเชื่อให้มีเงินไปหล่อเลี้ยงธุรกิจโดยอาจให้จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยไปก่อนเพื่อให้อยู่ได้ เพราะหากบริษัทเล็กๆ เกิดปัญหาขึ้นมาจริงอาจได้เห็นการปลดคนงานแน่นอนในช่วงปลายไตรมาส2 ถึงไตรมาส 3 และเชื่อว่าสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาแบบนี้จะยาวไปถึงปีหน้า
+++นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯเตรียมทบทวนราคาแนะนำอาหารปรุงสำเร็จ (จานด่วน) ใหม่ที่กำหนดไว้ 10 เมนู เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย จากเดิมกำหนดราคาแนะนำไว้ที่ 25-30 บาทต่อจาน จะปรับเพิ่มเป็น 30-35 บาทต่อจานหรือเพิ่มขึ้น 5-10 บาทต่อจาน เนื่องจากต้นทุนอาหารจานด่วนมีราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะการปรับขึ้นของราคาก๊าซหุงต้มที่จะทยอยขึ้นราคาจนครบ 6 บาทต่อกก. ในเดือนส.ค. และราคาเนื้อสัตว์กับผักสดที่มีราคาสูงขึ้นจากผลกระทบของภัยแล้ง
+++จากการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากกลุ่มตัวอย่าง 500 รายที่มีอายุ 16-65 ปีพบว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้คาดว่าจะมีเงินสะพัด 22,000 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 5 ปี แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสังสรรค์อาหารและเครื่องดื่ม 8,000 ล้านบาท ชอปปิง 6,400 ล้านบาท ค่า ที่พัก/เดินทาง 4,600 ล้านบาท ทำบุญ 2,900 ล้านบาท และอื่น ๆ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ซื้ออุปกรณ์เล่นน้ำ 100 ล้านบาท สาเหตุที่ประชาชนในกรุงเทพฯระมัดระวังในการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 85 ระบุว่าค่าครองชีพ ที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นทั้งในส่วนของราคาอาหาร และพลังงานเป็นปัจจัยกดดันในการใช้จ่ายใช้สอยโดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานที่มีอายุ 25-50 ปี เนื่องจากส่วนใหญ่มีระดับรายได้เท่าเดิมเงินออมเท่าเดิมแต่ภาระรายจ่ายเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 30.4 ระบุว่าสถานการณ์การเมืองที่ยืดเยื้อและไม่ชัดเจนส่งผลให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในการใช้จ่าย เชื่อว่า สงกรานต์ปีนี้อาจไม่สดใสมากนักเพราะบรรยากาศทางการเมืองที่ยืดเยื้อและคาดว่าจะลากยาวต่อเนื่องไปถึงช่วงสงกรานต์
+++พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. แถลงข่าว การเตรียมความพร้อมการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2557 ที่ บช.น.
+++สภาพอากาศ พ.ต.อ.พิชัย เกรียงวัฒนศิริ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม.เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า อุณหภูมิจะสูงกว่าปกติในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยอุณหภูมิสูงสุดเกือบ 40 องศา และคาดการณ์ว่าฝนจะตกช้ากว่าปกติประมาณ 2-4 สัปดาห์ ประกอบกับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลขณะนี้มีเพียง 5,821 ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 43 ส่วนเขื่อนสิริกิติ์ มีเพียง 4,553 ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 48 ส่งผลให้กรุงเทพฯเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำโดยมีเขตพื้นที่เสี่ยงจากการขาดแคลนน้ำทำการเกษตรกรรมทำนา 6 เขต ได้แก่ เขตคลองสามวา หนองจอก บางเขนสายไหม ลาดกระบัง และเขตมีนบุรี และมีเขตพื้นที่เสี่ยงจากปัญหาน้ำเค็มเนื่องจากน้ำทะเลหนุน 10 เขต ได้แก่เขตตลิ่งชัน ทุ่งครุ บางขุนเทียนราษฎร์บูรณะ จอมทอง บางบอน ทวีวัฒนา ภาษีเจริญ บางแคและเขตหนองจอก จึงควรใช้น้ำอย่างประหยัด สำหรับสถิติการเกิดเหตุเพลิงไฟไหม้หญ้าในหน้าร้อนระหว่างวันที่ 17-23 มี.ค. 57 มี 134 ครั้ง โดยพื้นที่เกิดเหตุสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.เขตประเวศ จำนวน 17 ครั้ง 2.เขตทวีวัฒนา จำนวน 16 ครั้ง 3.เขตคลองสามวา จำนวน 9 ครั้ง 4.เขตลาดกระบังจำนวน 9 ครั้ง 5.เขตบางเขน จำนวน 7 ครั้ง
+++นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ผลการศึกษาการจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชา ชาติ(เอฟเอโอ) พบว่า ประเทศไทยเป็น 1 ใน 10 ของประเทศที่ใช้น้ำมากที่สุดในโลก รองจากอินเดีย จีน สหรัฐ ปากีสถาน และญี่ปุ่น โดยน้ำที่นำไปใช้ส่วนใหญ่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมเกษตรอาหารเพื่อการส่งออก เฉลี่ย 2,131 ลูกบาศก์เมตรต่อคนต่อปี และยังไม่มีการจัดการน้ำที่ดี โดยเฉพาะการพัฒนาเครื่องมือวัดร่องรอยการใช้น้ำ (วอเตอร์ ฟุตปริ้นท์) ตามแบบสากล ซึ่งต่อไปทั่วโลกจะนำมาใช้เป็นมาตรการกีดกันทางการค้าด้านสิ่งแวดล้อมได้ เนื่องจากมองว่า ไม่แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม จากปัญหาทั่วโลกมีแนวโน้มการขาด แคลนน้ำ เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของประชาชนอย่างรวดเร็ว และยังไม่มีการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพส่งผลให้เร็ว ๆ นี้ จะเกิดมาตรการกีดกันทางการค้า จึงจำเป็นต้องดำเนินการตามแนวทางการบริหารจัดการน้ำ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน
++ความคืบหน้ากรณีนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) ชั้นปีที่ 2 รุ่น 69 จำนวน 2 นาย เสียชีวิตระหว่างการฝึกหลักสูตรกระโดดร่ม ที่ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี เนื่องจากสายสะลิงกระตุกร่มบนเครื่องบินขาด ทำให้ร่มไม่กางดิ่งลงมากระแทกพื้นช่วงบ่ายนี้ 14.00 น.พล.ต.ท.ทวีชัย วิริยะโกศล จเรตำรวจ (สบ8) นัดประชุมคณะกรรมการนัดแรก ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อกำหนดแนวทางการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งจะดูประเด็นข้อบกพร่องต่างๆ ให้ครอบคลุมทั้งหมด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และเวลา 16.00 น.มีพิธีพระราชทานเพลิงศพนรต.ชยากร พุทธชัยยงค์ ที่ศาลาลิ่มทอง วัดโพธาราม และผุ้เสียชีวิตอีกคนคือ นรต.ณัฐวุฒิ ติรสุวรรณสุข
+++แนวทางการสืบสวนสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิตของด.ญ.จันลา อายุ 7 ขวบ ชาวกัมพูชา เด็กหญิงที่หายตัวไปจากที่พักคนงานก่อสร้างในซอยพหลโยธิน 52 ท้องที่สถานีตำรวจ นครบาลบางเขน ตั้งแต่ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 21 มี.ค. และเจอศพเมื่อวานนี้ พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.2 กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรมที่คนร้ายลวงผู้ตายที่ไร้เดียงสามายังจุดเกิดเหตุก่อนจะใช้เข็มขัดผ้ารัดคอจนขาดใจ แถมยังใช้ของแข็งทุบหัวซ้ำอีก เพื่อให้มั่นใจว่าตายจากนั้นก็เอาต้นกกมาคลุมทับไว้ ขณะนี้ คุมตัวคนงานรวม 4 คน มาสอบปากคำแล้วว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ รวมทั้งผลการตรวจอย่างละเอียดด้วย
+++14.00น. นายกนก รัตน์วงศ์สกุล เดินทางไปแจ้งความที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.) ข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้สูญเสียชื่อเสียง ให้ดำเนินคดีสืบสวนผู้ที่ปล่อยคลิปและภาพฉาว และดำเนินคดีกับผู้ที่แชร์ข้อมูลภาพและลิงค์วิดีโอ