ผู้นำสหรัฐฯตำหนิFBIปล่อยข้อมูลด้านความมั่นคงรั่วไหลถึงสื่อมวลชน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ วิจารณ์สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ FBI กรณีไม่สามารถสกัดการรั่วไหลของข้อมูลด้านความมั่นคงแห่งชาติไปยังสื่อมวลชนได้ และสั่งการให้ FBI หาตัวบุคคลที่ปล่อยข้อมูลลับรั่วไหล คำวิจารณ์ดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่มีรายงานข่าวสื่อมวลชนว่า FBI ปฏิเสธคำร้องขอของทำเนียบขาวที่ต้องการให้ดับกระแสข่าวที่ระบุว่า ทีมหาเสียงเลือกตั้งของประธานาธิบดีทรัมป์ลอบติดต่อกับเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของรัสเซียเป็นระยะในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว ทั้งนี้ FBI อยู่ระหว่างการสอบสวนการแทรกแซงของรัสเซียในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 8 พ.ย.จนทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง โดยเจ้าหน้าที่ต่อต้านข่าวกรองของ FBI กำลังสอบสวนการติดต่อทางการเงินของชาวรัสเซียและบริษัทซึ่งเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับทีมงานของประธานาธิบดีทรัมป์

อย่างไรก็ดี นายจอห์น คอนเยอร์ส ส.ส.สหรัฐฯ เห็นว่า ความพยายามเข้ามามีอิทธิพลต่อ FBI ของทำเนียบขาวเป็นเรื่องที่น่ากังวลยิ่ง วันเดียวกัน ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ได้กีดกันผู้สื่อข่าวจากสถานีโทรทัศน์ CNN นสพ.นิวยอร์กไทมส์ นสพ.ลอสแองเจลิสไทมส์ และ นสพ.โพลิติโค ของสหรัฐฯ มิให้เข้าร่วมทำข่าวในการแถลงข่าวประจำของทำเนียบขาว โดยมิได้ชี้แจงสาเหตุ แต่อนุญาตให้สื่อมวลชนขนาดเล็ก ซึ่งรายงานข่าวในเชิงบวกให้แก่คณะผู้บริหารชุดใหม่ของสหรัฐฯ เข้าร่วม ส่งผลให้สื่อมวลชนสหรัฐฯ แสดงความไม่พอใจด้วยการประท้วงไม่เข้าร่วมทำข่าว เช่น สำนักข่าวเอพี และสำนักข่าวเอเอฟพี โดยเฉพาะบรรณาธิการบริหารของ นสพ.นิวยอร์กไทมส์วิจารณ์กรณีนี้ว่า เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของทำเนียบขาว การเข้าถึงรัฐบาลโดยเสรีและโปร่งใสเป็นผลประโยชน์แห่งชาติที่สำคัญ แต่โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐฯ กล่าวปกป้องว่า คณะผู้บริหารชุดใหม่นี้อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าถึงได้มากกว่าคณะผู้บริหารชุดก่อน แต่ก็ใช่ว่าจะต้องให้สื่อมวลชนบันทึกภาพทุกสิ่งได้ทุกวัน

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์เคยแสดงความไม่พอใจสื่อมวลชนด้วยการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงว่าเป็นศัตรูของประชาชน ทั้งยังเคยสั่งห้าม นสพ.วอชิงตันโพสต์ และบริษัทบัซฟีดรายงานข่าวการรณรงค์เลือกตั้งของเค้าเมื่อปีที่แล้วด้วย

ทีมต่างประเทศ

CR:AP