นายกฯเตือนอย่าสร้างกระแสขัดแย้งระหว่างพุทธ-มุสลิม ใช้ม.44 กรณีธรรมกายเพื่อให้จนท.ทำงานสะดวก

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทน์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการดำเนินการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อนำตัวพระธัมมชโย มาดำเนินคดีตามหมายจับ ด้วยการหาทางออก ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงาน เพื่อหาทางออกระหว่างเจ้าหน้าที่และวัดพระธรรมกาย โดยเน้นการเจรจาและยึดกฎหมายเป็นหลัก เพื่อให้การดำเนินการเสร็จให้เร็วที่สุดเพราะไม่ต้องการให้พระสงฆ์และประชาชนเดือดร้อน โดยยืนว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้ใช้ความรุนแรงใดๆ ในการดำเนินการ

ส่วนใช้มาตรา 44 เป็นการอำนวยความสะดวกในการทำงานของเจ้าหน้าที่  ทั้งนี้เข้าใจว่าทุกคนต้องการในการการทำงานเสร็จสิ้นโดยเร็ว เพราะฉะนั้นอย่าขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่เองก็ได้ใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน ยังได้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไปชีแจ้งกับประเทศต่างๆในการใช้มาตรา 44 และการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วยเช่นกัน  เพราะเมื่อมีการกระทำผิดกฎหมายก็จะต้องดำเนินคดี ซึ่งหากสามารถทำได้ทุกอย่างก็จบ

นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธข่าว กรณีที่ผู้ไม่หวังดีสร้างกระแสว่ามุสลิมอยู่เบื้องหลังการเข้าบุกค้นวัดพระธรรมกาย และพระสงฆ์จากประเทศเมียนมา แสดงความไม่พอใจว่าเป็นไปไม่ได้ซึ่งเรื่องดังกล่าว เป็นเพียงกลุ่มไม่หวังดีสร้างกระแส ซึ่งตนเองและจุฬาราชมนตรี ก็ได้พูดคุยกันในการดูแลชาวมุสลิมในประเทศไทย จึงขออย่าสร้างกระแสว่า ชาวพุทธ และมุสลิมมีปัญหากัน  ขณะเดียวกัน ได้มีการประสานไปยังประเทศเมียนมา ซึ่งก็มีความเข้าใจดีระหว่างกัน ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนวิเคราะห์ว่าสิ่งที่ได้ยินมามีความเป็นไปได้หรือไม่

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึง การเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินจ.กระบี่ ว่า ขณะนี้กำลังเดินหน้าสร้างความเข้าใจกับประชาชน โดยการเปิดเวทีสร้างความเข้าใจในเรื่องพลังงาน และให้ยุติการทำ EHIA เดิมและเริ่มกระบวนการใหม่ทั้งหมด พร้อมขอร้อง อย่าเปิดประเด็นที่ทำให้เกิดความไม่เข้าใจออกมา โดยขอเวลาให้รัฐบาลและคณะทำงานดำเนินการในเรื่องดังกล่าวก่อน  ส่วนปัญหาหมอกควัน โดยเฉพาะจุดฮอตสปอต ในพื้นที่ภาคเหนือ ว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้เกิดในประเทศไทย แต่มีมาจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย เพราะฉะนั้นจะต้องร่วมมือกันในการแก้ปัญหา ซึ่งที่ผ่านมา ก็พบว่า ปัญหาลดลงอย่างต่อ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ให้ลดการเผา โดยไปใช้วิธีอื่นแทน เช่น การฝังกลบ