ที่ประชุมครม.เห็นชอบ ร่างแก้ไข พรบ.ดำเนินการทางวินัยผู้พ้นจากราชการ ดำเนินภายใน1ปี ลงโทษภายใน3ปี

ภายหลังการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.เห็นชอบร่างแก้ไขกฎหมาย ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัยแก่ผู้ที่พ้นจากราชการ ขององค์กรกลางบริหารงานบุคคลในราชการฝ่ายพลเรือน จำนวน 5 ฉบับ ได้แก่ ร่างพ.ร.บ.ระเบียบราชการพลเรือน พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ และร่างพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินการทางวินัยข้าราชการ เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ขององค์กรตรวจสอบการทุจริต

เนื่องจาก พ.ร.บ.ทั้ง 5 ฉบับ ไม่มีความสอดคล้องกัน ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม หรือไม่เสมอภาคทางวินัย โดยสาระสำคัญเป็นการแก้ไขหลักเกณฑ์ทางวินัยอย่างร้ายแรงต่อข้าราชการพลเรือน ข้าราชการรัฐสภา ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงข้าราชการตำรวจ และข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา โดยหน่วยงานต้นสังกัด สามารถดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการในสังกัด ที่พ้นจากราชการไปแล้ว หากความผิดนั้นเกิดขึ้นระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหามีสภาพเป็นข้าราชการ โดยเงื่อนไขของผู้มีอำนาจดำเนินการทางวินัย ต้องเริ่มดำเนินการภายใน 1 ปีนับตั้งแต่ผู้พ้นจากราชการ และหากมีการสั่งลงโทษต้องสั่งลงโทษ ภายใน 3 ปี นับตั้งแต่พ้นจากราชการ

ส่วนการแก้ไขร่างพ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ครม. ได้พิจารณาอนุมัติหลักการร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ปี 2522 โดยสาระสำคัญ เป็นการแก้ไขให้มีความเหมาะสมกับสภาวะและสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคแห่งชาติ ทำหน้าที่กำหนดนโยบายและมาตรการต่างๆเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมบูรณาการหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจที่มีหน้าที่ตามกฎหมาย การแก้ไขอำนาจของคณะกรรมการต่างๆ นอกจากนี้ยังได้มีการแก้ไขให้อำนาจสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเสนอเรื่องต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาออกคำสั่ง กรณีที่เจ้าหน้าผู้มีอำนาจกฎหมายเฉพาะ ไม่ดำเนินการหรือดำเนินการไม่ครบตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด และแก้ไขให้สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคเป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี รวมทั้งแก้ไขเรื่องค่าปรับขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น