สรุปข่าว 19.35 น.
++++ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา(พศ.) เดินทางเข้าพบ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ และนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลงานสำนักงาน พศ. เพื่อรายงานตัวพร้อมรับมอบนโยบาย หลังได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.พศ. ย้ำว่า การแก้ไขปัญหาวัดธรรมกายในฐานะที่เคยทำงานในดีเอสไอ จะใช้แนวทางลดความเสี่ยงป้องกันการบาดเจ็บและล้มตาย จึงไม่ต้องเป็นห่วงเพราะเจ้าหน้าที่จะไม่กระทำการรุนแรงเชื่อว่าการเจรจาแก้ไขปัญหานี้ยังสามารถใช้ได้เสมอ การเอาผิดพระนอกรีตมีระบุใน พ.ร.บ.สงฆ์ และระเบียบวินัยทางสงฆ์ ไม่จำเป็นต้องแก้ไขกฎหมาย เพราะมีบทบัญญัติสำหรับการเอาผิดไว้อยู่แล้ว ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า เข้ามาเพื่อออกกฎหมายเรียกเก็บภาษีในวัดต่างๆ และวัดธรรมกายรวมถึงกล่าวหาว่า แขกพราหมณ์ เข้ามาเพื่อทำลายพระพุทธศาสนา เรื่องนี้ถือว่าใส่ร้ายกัน และกระทบต่อพระสงฆ์ด้วย ขออย่าเพิ่งไปฟังและเชื่ออะไร
+++พลตำรวจโทวิทยา ประยงค์พันธ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงแผนการจราจรสะพานไทยเบลเยี่ยม หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อวานนี้ว่า มีการปรับการจราจรเป็น 4 ช่วงเวลาโดยชั่วโมงเร่งด่วน เวลา 06.00น.-10.00 น. สะพานฝั่งขาเข้าเปิดปกติเพื่อรับรถที่มาจากคลองเตยมุ่งหน้าแยกศาลาแดงทั้ง 2 ช่องจราจรแต่ห้ามรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นสะพาน เนื่องจากเกรงว่าแท่งเหล็กค้ำยันจะรับน้ำหนักไม่ไหว ส่วนเวลา15.00-20.00 น.จะปรับเป็นช่องจราจรขาออกเพื่อรับรถที่มาจากแยกศาลาแดงมุ่งหน้าพระราม 4 ทั้ง 2 ช่องจราจรโดยห้ามรถใหญ่ตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป ขึ้นสะพาน และในเวลา10.00-15.00 น. และเวลา 20.00-6.00น. จะเปิดสะพานให้รถวิ่งขาเข้าและขาออกฝั่งละ1ช่องทางเพื่อระบายรถ ทั้งนี้ยอมรับว่าสะพานไทยเบลเยี่ยมมีรถผ่านในช่วงเวลา 07.00-19.00 น.วันละ 2 แสนคัน เมื่อมีการปิดช่องจราจรเพื่อซ่อมแซม ทำให้รถจำนวนกว่าแสนคันต้องใช้ทางราบ จึงจะทำให้การจราจรหนาแน่น แต่คาดว่าเจ้าหน้าที่จะรับมือได้ ไม่จำเป็นต้องปรับการจราจร สำหรับฝั่งขาออกจะปิดซ่อมแซมเป็นเวลา1เดือน แต่ในวันจันทร์นี้จะเปิดฝั่งขาออกช่องซ้ายสุดให้รถวิ่งและทำการซ่อมแซมไปในคราวเดียวกัน
+++คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาและจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยวิธีพิจารณาความอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ... โดย นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. กล่าวว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เกิดขึ้นจากความมุ่งหมายที่ต้องการให้การดำเนินคดีทุจริตกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นไปด้วยความรวดเร็ว เฉียบขาด แต่ปัญหาของความรวดเร็วนี้มีในกลไกที่ใช้อยู่ คือ ระบบไต่สวนมากกว่าการกล่าวหา แต่ต้องยอมรับว่าระบบยุติธรรมในไทย เคยชินต่อระบบการกล่าวหามานาน เมื่อเริ่มใช้ระบบไต่สวนก็ไม่ค่อยเคยชิน จึงวนกลับมาที่ระบบการกล่าวหา ดังนั้น กรธ.จึงพยายามตัดเรื่องเทคนิคออกให้ศาลไต่สวนได้อย่างเป็นธรรม โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเทคนิค และจะนำแนวทางนี้ไปใช้กับศาลรัฐธรรมนูญด้วย สำหรับเนื้อหาในร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ศาลฎีกาส่งให้ กรธ.ประกอบพิจารณา มีทั้งหมด 71 มาตรา โดยเนื้อหาเปลี่ยนแปลงไปจากกฎหมายฉบับเดิมที่น่าสนใจอยู่ 3 ส่วน ได้แก่ 1.มาตรา 31 ที่ระบุว่าเมื่อศาลประทับรับฟ้องแล้วห้ามไม่ให้ศาลอนุญาตให้ถอนฟ้องเว้นแต่จะได้ความว่าหากไม่อนุญาตให้ถอนฟ้องจะกระทบกระเทือนต่อความยุติธรรม 2.มาตรา 33 การกำหนดให้ไม่นับระยะเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลยหลบหนีมาเป็นส่วนหนึ่งของอายุความและในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำเลย ถ้าจำเลยหลบหนีในระหว่างนั้นไม่ให้นำบทบัญญัติเกี่ยวกับอายุความตามประมวลกฎหมายอาญามาใช้บังคับ และ การอุทธรณ์คำพิพากษา ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่กำหนดไว้ในร่างรัฐธรรมนูญในร่างกฎหมายนี้ ได้ระบุวิธีการอุทธรณ์ไว้ว่าให้ดำเนินการได้ภายในสามสิบวัน นับแต่มีคำพิพากษาของศาล แต่จะอุทธรณ์ได้ต่อเมื่อจำเลยมาแสดงตนต่อเจ้าพนักงานของศาลเท่านั้น ไม่เช่นนั้นศาลจะไม่รับอุทธรณ์
+++ น.ส.ปิติกาญจน์ สิทธิเดช อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดเผยว่า ตามที่โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา (Ms. Ravina Shamdasani) ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2560 แสดงความผิดหวังที่ประเทศไทยตัดสินใจไม่ผ่านร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .ยืนยันการดำเนินการทั้งมาตรการทางกฎหมาย และมาตรการทางบริหารเพื่ออนุวัติตามอนุสัญญาดังกล่าว โดยเร็วที่สุด รวมถึงยืนยันว่าการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานเป็นเรื่องที่ไม่สามารถดำเนินการได้ โดยผู้ที่กระทำผิดกฎหมายจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายกระบวนการยุติธรรม และหลักนิติธรรม ทุกกรณี
+++ศาลจังหวัดเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 8 คดีฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า โดยพิจารณา การอุทธรณ์ของทนายฝ่ายจำเลยทั้งสองได้แก่ นายซอลิน เป็นจำเลยที่ 1 และนายเวพิว เป็นจำเลยที่ 2 แรงงานชาวเมียนมาที่อ้างว่าฝ่ายโจทย์ไม่มีเอกสารและภาพถ่ายในขั้นตอนการจัดเก็บวัตถุพยานการบรรจุปิดผนึก การส่ง และรับวัตถุพยาน และการตรวจสอบวัตถุพยานบางขั้นตอนมาเป็นพยาน ฟังไม่ขึ้น โดย ศาลเชื่อพยานหลักฐานของโจทย์ก็โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานทั้งปวงที่โจทย์นำสืบมาทั้งหมดว่ามีเหตุผลเชื่อมโยงมั่นคงหนักแน่นจนแน่ใจว่ามีการกระทำผิดจริงและจำเลยทั้งสองเป็นผู้กระทำความผิดนั้นโดยปราศจากความสงสัยใดๆ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดเกาะสมุยจึงได้อ่านคำตัดสินศาลอุทธรณ์ที่พิจารณาตามศาลชั้นต้นคือให้ประหารชีวิต นายซอลิน และนายเวพิว สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 57
+++ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือนก.พ.ปีนี้ ว่า ปรับลดลงเล็กน้อย จากเดือนก่อนอยู่ที่ระดับ 50.1 ลงมาอยู่ที่ระดับ 49.8 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่า 50 ที่สะท้อนความไม่เชื่อมั่นของภาคธุรกิจ เป็นไปตามความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการและคำสั่งซื้อของผู้ประกอบการในภาคที่มิใช่อุตสาหกรรม โดยเฉพาะในกลุ่มการค้า ที่ความเชื่อมั่นปรับลดลงต่อเนื่อง ภายหลังจากการสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของภาครัฐช่วงปลายปี สำหรับความเชื่อมั่นทางธุรกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้า พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยมองว่าธุรกิจจะดีขึ้นจากปัจจุบัน โดยดัชนีลดลงจากระดับ 56.3 ในเดือนก่อน มาอยู่ที่ระดับ 55.5 ในเดือนนี้ ซึ่งเป็นการปรับลดลงตามความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการภาคที่มิใช่อุตสาหกรรมเป็นหลัก
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,567.19 จุด เพิ่มขึ้น 7.63 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,033.67 ล้านบาท
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐไม่ได้ส่งสัญญาณการใช้มาตรการกีดกันทางการค้า ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกต่อสภาคองเกรสของสหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย ดัชนีนิกเกอิปิดพุ่งขึ้น 274.55 จุด ที่ 19,393.54 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามทิศทางของตลาดหุ้นจีน หลังจากที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.พ. ขยายตัวที่ระดับ 51.6 จากระดับของเดือนม.ค.ที่ 51.3 ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7เพิ่มขึ้น 35.76 จุด ปิดวันนี้ที่ 23,776.49 จุด
+++นางลินนา ตังธสิริ รองอธิบดีกรมสารนิเทศ รักษาการโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีการให้บริการหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ประชาชน ตามที่ปรากฏรายงานข่าวว่าโครงการหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Passport) ระยะที่ 2จะสิ้นสุดลงในวันที่ 3 มีนาคม 2560 ว่า กระทรวงการต่างประเทศยังให้บริการการทำหนังสือเดินทางแก่ประชาชนต่อไปตามปกติ และยังไม่มีกำหนดสิ้นสุด.
+++ชาวอเมริกันราว 200 คนชุมนุมต่อต้าน ประธานาธิบดีโดนัลทรัมป์ ที่สวนสาธารณะ แห่งหนึ่ง นอกบริเวณทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เป็นครั้งแรกต่อสภาคองเกรส บางคนชูแผ่นป้ายมีข้อความว่าจงลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลของนายทรัมป์ทุกๆวัน พวกเขาคัดค้านนโยบายหลายๆเรื่องของนายทรัมป์ โดยเฉพาะเรื่องคำสั่งห้ามพลเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิมเข้าสหรัฐฯผู้ประท้วงรายหนึ่งเพิ่มเติมว่าที่ผ่านมาไม่มีหลักฐานว่าพลเมืองจากประเทศเหล่านั้นพยายามจะก่อเหตุความไม่สงบในสหรัฐฯ