ศูนย์การศึกษาพัฒนาภูพานฯ ที่จ.สกลนคร พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต

ปิดท้ายการเดินทางในเส้นทางท่องเที่ยวของจังหวัดสกลนคร ที่ศูนย์การศึกษาพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านนานกเค้า สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากชีวภาพ (สพภ.)พามาติดตามศูนย์การศึกษาพัฒนาภูพานฯ  อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร นายสัตวแพทย์วิศุทธิ์ เอื้อกิ่งเพชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ เล่าให้ฟังถึงแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชว่า เมื่อปี2525พระองค์มีพระราชดำริให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาดังกล่าวขึ้น โดยจะต้องเป็นสถานที่ศึกษาทดลองแบบเบ็ดเสร็จ และทำหน้าที่เสมือนเป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต เพื่อเป็นตัวอย่างแห่งความสำเร็จของการศึกษาค้นคว้า ทดลอง สาธิตและพัฒนาด้านเกษตร ถือเป็นระบบบริการเบ็ดเสร็จที่จุดเดียว และขยายผลสู่เกษตรกรได้  จะมีการศึกษาค้นคว้าวิจัย เช่น งานศึกษาและพัฒนาป่าไม้ งานศึกษาและพัฒนาแหล่งน้ำ งานศึกษาและพัฒนาปรับปรุงบำรุงดิน งานศึกษาและพัฒนาเกษตรกรรม  การเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกร และงานศึกษาพัฒนาอื่นๆอีกหลายด้าน แต่งานศึกษาและพัฒนาที่ประสบความสำเร็จและโดดเด่นมากคือด้านการเลี้ยงสัตว์ดำมหัศจรรย์ 3ชนิด คือ โคเนื้อภูพาน สุกรภูพานและไก่ดำภูพาน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงตั้งโจทย์การเลี้ยงสัตว์ไว้ 5 ข้อ ประกอบด้วยต้องเป็นพันธุ์หาง่าย,เทคโนโลยีไม่ยุ่งยาก,อาหารหาได้จากท้องถิ่น, สัตว์ปรับตัวกับท้องถิ่นได้ และต้องเป็นสัตว์ที่บริโภคได้เพื่อนำไปขายให้เกิดกำไร

ทั้งนี้ จากการทดลองหาพันธุ์ไก่ดำแล้ว ที่มีกระดูกดำ ขนดำ หนังดำ แต่ชาวบ้านกลับไม่นำไปเลี้ยงและขายเพราะคิดว่าเนื้อดำไม่อร่อย จึงกลับมาศึกษาวิธีการใหม่ จนกระทั่งเกิดเป็นไก่สีขาว ทำให้กระแสตอบรับดีมาก แต่เนื่องจากมีหมอดูทักว่าสีดำและสีขาวไม่สามารถใช้ในงานมงคลได้ จึงกลับมาทดลองขยายพันธุ์อีกครั้ง เกิดเป็นไก่สีเหลืองทอง แต่กระดูกและเนื้อยังเป็นสีดำอยู่

ก่อนหน้านี้จะเปิดตัวไก่สีเหลืองทองเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 สวรรคต  จึงถือว่าไก่สีเหลืองทองเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายของรัชกาลที่ 9 ที่มอบให้ศูนย์การเรียนรู้ภูพาน พร้อมกับยืนยันว่าไก่ทั้ง3สีนี้มีโปรตีนและสารอาหารเท่ากับไก่ทั่วไป แถมยังสามารถชะลอความแก่ชราได้ นอกจากนี้ ที่ศูนย์การเรียนรู้ภูพาน ยังมีอีกหนึ่งของดี คือ กวางรูซ่า ที่ นำเอาเขาของกวางไปทำเป็นยาชูกำลังและยาบำรุงร่างกายได้อีกด้วย

ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ