การสอบสวนคดีครอบครองรถยนต์ลัมโบร์กีนี รุ่นกัลลาโด สีเทาดำ มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง หลังตำรวจพบข้อมูลเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาคดียาเสพติด เครือข่ายนายไซซะนะ แก้วพิมพา ผู้ต้องหาคดียาเสพติดชาวลาว พลตำรวจตรีพรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้นำพยานหลักฐานไปขออนุมัติศาลออกหมายจับนายเบนซ์ และนายณัฐพล หรือบอย นาคคำ ผู้ต้องหาเครือข่ายนายไซซะนะที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ต่อศาลอาญา รัชดาภิเษก หลังการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า พฤติการณ์เข้าข่ายความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และฟอกเงิน ศาลพิจารณาแล้วอนุมัติหมายจับนายบอย ในฐานความผิดตามคำร้อง ซึ่งพนักงานสอบสวน เตรียมเข้าแจ้งข้อหาและอายัดตัวดำเนินคดีที่เรือนจำกลางคลองเปรม ส่วนนายเบนซ์ ศาลพิจารณาแล้วพบว่า ตำรวจและเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้ออกหมายเรียกให้เข้าให้ข้อมูลหลายครั้ง และได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก เห็นว่าไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอน พนักงานสอบสวนตำรวจปราบปรามยาเสพติด จะออกหมายเรียกให้นายเบนซ์ เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ในวันจันทร์ ที่ 6 มีนาคมนี้ เวลา 09.30 น. ในข้อหาร่วมกันกระทำความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และฟอกเงิน หากนายเบนซ์ เดินทางมาในวันดังกล่าว พนักงานสอบสวนก็จะสอบปากคำ จากนั้นจะนำตัวไปส่งฟ้องและฝากขังที่ศาลอาญา รัชดาภิเษกส่วนการขอปล่อยตัวชั่วคราว ให้เป็นดุลยพินิจของศาล
ด้านนายศรัญ ฤกษ์อัตการ ทนายความของเบนซ์ เรซซิ่ง ระบุว่ายังไม่ได้รับการประสานเรื่องออกหมายเรียกเพื่อให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา แต่หากมีหมายเรียกจริงก็พร้อมไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกไม่หลบหนีไปไหน เพราะให้ความร่วมมือกับตำรวจมาโดยตลอด แต่ขอให้ตำรวจประสานให้ชัดเจนเพื่อจะได้เตรียมหลักทรัพย์ในการยื่นประกันตัวตามขั้นตอนของกฎหมาย
แฟ้มภาพ