การรื้อถอนบ้านในชุมชนป้อมมหากาฬ เพื่อเดินหน้าโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ป้อมมหากาฬ เป็นสวนสาธารณะ และพื้นที่อนุรักษ์ประวัติศาสตร์เกาะรัตนโกสินทร์ วันนี้ เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้นำรถแทรคเตอร์ รถเครน รถ6ล้อใหญ่ จำนวนหลายคัน เข้ารื้อถอนบ้าน 1หลังใหญ่ และเก็บขยะภายในชุมชน ทำให้เจ้าหน้าที่ปิดการจราจรชั่วคราว ถ.มหาไชยขาเข้า(แยกป้อมมหากาฬ-แยกสำราญราษฎร์)ให้เดินรถทางเดียว ถ.มหาไชย จากแยกสำราญราษฎร์ออกราชดำเนิน ตั้งแต่เวลา 10.00-12.00น. แต่อีกฝั่งรถผ่านได้ตามปกติ เป็นการรื้อถอนบ้านที่เจ้าของยินยอม และในวันจันทร์ที่ 6 มี.ค. เจ้าหน้าที่จะรื้ออีก 4-5 หลัง
นายจักกพันธ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยว่า บ้านเรือนที่ปลูกสร้างในพื้นที่ป้อมมหากาฬขณะนี้ ถือเป็นบ้านที่ปลูกสร้างโดยผิดกฎหมาย รุกล้ำพื้นที่สาธารณะ เนื่องจากพื้นที่ป้อมมหากาฬทั้งหมด กทม.ได้ทำการเวนคืนพื้นที่มาแล้วทั้งหมดตั้งแต่ปี 2535 และได้จ่ายเงินค่าชดเชยและค่ารื้อย้ายให้แก่เจ้าของบ้านไปแล้ว กทม.ได้พยายามรื้อย้ายบ้านดังกล่าวออกจากพื้นที่ แต่ด้วยกลุ่มชาวบ้านผู้ที่อยู่อาศัยในปัจจุบันนั้นไม่ยินยอม จึงเจรจาสร้างความเข้าใจมาอย่างต่อเนื่อง โดยการรื้อย้ายครั้งล่าสุด คือเมื่อวันที่ 3 ก.ย.2559 กทม.ได้ทำการรื้อย้ายบ้านไปทั้งสิ้น 12 หลังคาเรือน เป็นบ้านที่เจ้าของบ้านยินยอม โอนกรรมสิทธิ์ตัวบ้านให้กทม.รื้อย้ายได้ ทำให้ปัจจุบันเหลือบ้านที่อยู่ในพื้นที่ป้อมมหากาฬรวม 42หลังคาเรือน โดยเป็นบ้านเรือนดั้งเดิม ที่มีเลขที่บ้านจำนวน 37หลัง และเป็นบ้านที่ถูกบุกรุกเพิ่มเติม ประชาชนลักลอบก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก 5หลัง
กรณีที่สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดทำข้อเสนอแนะในการพัฒนาพื้นที่ชุมชนป้อมมหากาฬ โดยให้กทม.อนุรักษ์อาคารไม้ในพื้นที่ชุมชนบริเวณป้อมมหากาฬ มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมที่ไว้ทั้งสิ้นจำนวน 24 หลัง กทม.จัดประชุมอย่างเป็นทางการร่วมกับสมาคมสถาปนิกสยามฯ เพื่อวางแนวทางการพัฒนาพื้นที่ที่ชัดเจนอีกครั้ง แต่กรอบการพัฒนาพื้นที่ป้อมมหากาฬของกทม. ได้ออกแบบไว้เบื้องต้น คือการพัฒนาพื้นที่ป้อมมหากาฬ เป็นสวนสาธารณะ และพื้นที่อนุรักษ์โบราณสถาน ซึ่งเป็นไปตามมติของพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินบริเวณป้อมมหากาฬ ในปี พ.ศ. 2535