มาเลเซียขับทูตเกาหลีเหนือออกนอกประเทศ ระบุเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา

กระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียออกถ้อยแถลงขับเอกอัครราชทูต คัง ชอล ของเกาหลีเหนือออกนอกประเทศ โดยระบุว่า เป็น “บุคคลไม่พึงปรารถนา” และต้องออกจากมาเลเซียภายใน 48 ชั่วโมง เนื่องจากรัฐบาลกังวลว่า มาเลเซียอาจถูกใช้เป็นแหล่งเคลื่อนไหวกิจกรรมผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นการยกระดับความบาดหมางทางการทูตระหว่าง 2 ประเทศ อันสืบเนื่องจากคดีลอบสังหารนายคิม จองนัม พี่ชายต่างมารดาของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ซึ่งตำรวจมาเลเซียเชื่อว่า นายคิม จองนัมได้รับสาร VX สารเคมีทำลายประสาทที่สหประชาชาติระบุว่า เป็นอาวุธร้ายแรง ขณะที่เกาหลีเหนือยังคงปฏิเสธกล่าวคำขอโทษมาเลเซีย นับตั้งแต่กล่าวหากระบวนการสอบสวนของมาเลเซียว่า ไม่สามารถไว้ใจได้ ตำหนิการชันสูตรศพ โดยไม่มีหลักฐานชัดเจนเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิต สมคบคิดกับเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นศัตรูของเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ ยังกล่าวหาการทำงานของตำรวจมาเลเซียว่าใช้ความโหดเหี้ยมข่มขู่ผู้ต้องสงสัยและสมาชิกครอบครัวชาวเกาหลีเหนือ และยังใช้กำลังทำร้ายบุตรชายวัยรุ่นของผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตคังยังระบุว่า การสอบสวนมีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง สมคบคิดกับศัตรูของเกาหลีเหนือ ขณะที่นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ของมาเลเซีย เรียกการแสดงความคิดเห็นเหล่านี้ว่า เป็นการแสดงความหยาบคายทางการทูต และมาเลเซียได้เรียกร้องให้เอกอัครราชทูตคังกล่าวขอโทษเป็นลายลักษณ์อักษร แต่เอกอัครราชทูตคังปฏิเสธ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯและเกาหลีใต้ระบุว่า การเสียชีวิตของนายคิม จองนัมเป็นฝีมือของสายลับเกาหลีเหนือ ขณะที่มาเลเซียได้เนรเทศผู้ต้องสงสัยชาวเกาหลีเหนือคนหนึ่งออกนอกประเทศ เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอในการเอาผิด แต่ก็ได้ออกหมายจับพนักงานของสายการบินเกาหลีเหนือ รวมทั้งเรียกตัวเลขานุการโทของสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือมาสอบสวน

ด้านสื่อมวลชนของเกาหลีใต้และญี่ปุ่นรายงานอ้างแหล่งข่าวทางการทูตว่า สหรัฐฯ กำลังพิจารณาขึ้นบัญชีเกาหลีเหนือไว้ในกลุ่มก่อการร้ายอีกครั้ง แต่เกาหลีเหนือเตือนผลที่จะได้รับ เพราะเท่ากับเป็นการดูหมิ่นความสง่างามของเกาหลีเหนือ

 (0740 F171)