หนังสือพิมพ์คาธิเมรินีของกรีซรายงานอ้างผลสำรวจของสำนักโพลล์เดียนีโอซิสในกรุงเอเธนส์ว่า ชาวกรีซส่วนใหญ่ต้องการให้ภาครัฐมีความคล่องตัวมากขึ้นในการทำงานราชการ ลดภาษีให้น้อยลงและต้องการให้กรีซอยู่ในเขตที่ใช้เงินสกุลยูโร หรือ ยูโรโซนต่อไป เพื่อช่วยให้การแก้ไขวิกฤติหนี้สินของประเทศประสบผลสำเร็จ หลังจากที่มีวิกฤติยืดเยื้อมา 7 ปี
ผลสำรวจความเห็นทั่วประเทศบ่งชี้ว่าพลเมืองกรีซร้อยละ 62.4 ต้องการให้มีการปรับลดอัตรากำลังของภาคราชการลงจากปัจจุบัน ร้อยละ 73.2 เชื่อว่ารัฐบาลควรจะสร้างแรงจูงใจเพื่อโน้มน้าวนักลงทุนและเพิ่มการส่งออก เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันชาวกรีซร้อยละ 38.9 มองประเด็นเรื่องการเลี่ยงภาษีของเศรษฐีชาวกรีซ ว่าเป็นเรื่องที่มีความชอบธรรมเพื่อไม่ให้พวกเขาต้องเสียภาษีมากขึ้นในสถานการณ์ที่ประเทศกำลังประสบวิกฤติเศรษฐกิจดังเช่นในปัจจุบัน แต่ก็มีชาวกรีซมากถึงร้อยละ 71.1 ไม่เชื่อว่ารัฐจะสามารถแก้ปัญหาการเลี่ยงภาษีได้สำเร็จ แม้ว่าจะพยายามแก้ไขปัญหานี้ก็ตาม ชาวกรีซร้อยละ 62.1 ยอมรับว่าวิกฤติหนี้สินของกรีซเกิดจากความบกพร่องผิดพลาดของรัฐบาลกรีซเอง
นอกจากนี้ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความเคลือบแคลงใจเกี่ยวกับเงินสกุลยูโรค่อนข้างมาก โดยร้อยละ 57.3 เชื่อว่ากลุ่มสหภาพยุโรป หรือ อียูได้ประโยชน์จากการที่มีกรีซเป็นสมาชิก ขณะที่ชาวกรีซร้อยละ 29.6 ระบุว่าชาวกรีซได้ประโยชน์มากกว่าเสียประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 59.6 ต้องการให้กรีซอยู่ร่วมในเขตยูโรโซนต่อไป ขณะที่ร้อยละ 33.1 กล่าวว่าพวกเขาต้องการจะกลับไปใช้เงินสกุลเดิมคือดราชมาของกรีซ
สำนักโพลล์เดียนีโอซิสตั้งข้อสังเกตว่าระหว่างการสำรวจความเห็นเมื่อเดือนเมษายน 2558 พลเมืองกรีซร้อยละ 73.9 สนับสนุนให้กรีซคงอยู่ในเขตยูโรโซนต่อไป ขณะที่ร้อยละ 20.7 ต้องการให้กรีซกลับไปใช้เงินสกุลเดิมของกรีซ
/12.55 น.