การดำเนินการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในการเข้าตรวจสอบพื้นที่ภายในวัดพระธรรมกาย พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึง กรณีที่เจ้าหน้าที่พยายามเข้าตรวจสอบพื้นที่ บริเวณอาคารบุญรักษา หลังจากใช้โดรนขึ้นบินสำรวจแล้วพบว่า มีการขุดคูน้ำเป็นหลุมลึก รอบพื้นที่ อีกทั้งยังพบถังน้ำมัน 200 ลิตร จำนวน 18 ถัง โดยมีการวางในลักษณะที่เว้นระยะห่างเท่าๆ กัน และบนฝาถังมีการนำกระสอบมาปิดฝาอยู่ ซึ่งลักษณะดังกล่าว เป็นการขยายการสร้างสิ่งกีดขวาง ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่ได้ ดั้งนั้นเจ้าหน้าที่จึงต้องการตรวจสอบว่าข้างในถังเป็นน้ำมันหรือไม่ เพราะหากเป็นน้ำมัน การทำงานของเจ้าหน้าที่จะเกิดอันตราย ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ยังมีการตั้งเต็นท์โดยมีพระภิกษุและ ศิษย์ยานุศิษย์จำนวนหนึ่งอยู่ในพื้นที่ด้วย ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปตรวจสอบ กลับพบว่าพระภิกษุ ภายในบริเวณนั้นออกมาต่อต้าน ทำให้ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้
ดังนั้น จึงต้องมีการกลับมาทบทวนและปรับเปลี่ยนมาตรการในการเข้าตรวจค้น เพราะในบริเวณนี้ มีการป้องกันอย่างแน่นหนา ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการ โดยหลีกเลี่ยงการ กระทบกระทั่ง หรือ เลี่ยงไม่ให้มีการสูญเสีย ขณะเดียวกัน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)และเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี จะมีการเข้าไปพูดคุยกับพระภิกษุที่อยู่บริเวณนั้น เพื่อขอความร่วมมือในการเปิดให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
ส่วนสำหรับสถานการณ์โดยรวม ภายในวันนี้ยังคงเป็นไปตามปกติและ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมได้ ส่วนการดำเนินการกับพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณารวบรวมข้อเท็จจริง ทั้งจากโซเชียลมีเดียและการกระทำในพื้นที่ เพื่อเตรียมดำเนินคดีเพราะอาจเข้าข่าย การยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งเป็นความผิดในมาตรา 116 สำหรับวันนี้มีการออกหมายเรียกบุคคลเพิ่มเติมอีก 91 คน รวมทั้งสิ้นจนถึงขณะนี้ มีการ ออกหมายเรียก บุคคลให้มารายงานตัวแล้วทั้งสิ้น 200 คน อย่างไรก็ตาม สำหรับการดำเนินการกับวัดพระธรรมกาย จากการประเมินสถานการณ์แล้วคาดว่าจะใช้เวลาลดลง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อใด
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี