ครม.กำหนดแนวทางบริหารจัดการหมู่บ้าน/เห็นชอบร่างแก้ไข พรบ.อทุยานฯ-พรบ.สงวนคุ้มครองสัตว์ป่า

ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดระเบียบการบริหารจัดการหมู่บ้าน โดยใช้กลไกของคณะกรรมการหมู่บ้าน เพื่อให้เกิดเอกภาพและบูรณาการตามแนวทางประชารัฐ ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยเห็นว่า มีส่วนราชการต่างๆ จัดตั้งมวลชน และอาสาสมัครในพื้นที่ขึ้นมารับผิดชอบ โดยไม่ใช้คณะกรรมการหมู่บ้านที่จัดตั้งขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้การจัดการเกิดเอกภาพและบูรณาการ แนวทางประชารัฐ จึงให้มีการจัดระเบียบใหม่ แบ่งเป็นสองระยะ คือระยะเร่งด่วน และระยะต่อไปในอนาคต สำหรับระยะเร่งด่วน มีการจัดระเบียบให้อาสาสมัครมวลชน เครือข่ายมวลชน ให้หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) นำแผนพัฒนาหมู่บ้านเพื่อกำหนดแผนงานโครงการเพื่อสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของคณะกรรมการหมู่บ้าน ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณเป็นค่าใช้จ่ายในการอำนวยการตามภารกิจของคณะกรรมการหมู่บ้านตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทยเสนอความเห็นชอบต่อกระทรวงการคลัง ซึ่งได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย แก้ไขระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คณะกรรมการหมู่บ้านเป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการ และบูรณาการนโยบาย งบประมาณ การวางแผน และจัดทำแผนพัฒนาหมู่บ้าน และให้กระทรวงมหาดไทย แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ เพื่อทำหน้าที่เป็นหน่วยงานขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรมการหมู่บ้าน ให้เกิดประสิทธิภาพ

ที่ประชุมครม. ยังเห็นชอบร่างแก้ไข พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ และพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า โดยสาระสำคัญของพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฉบับใหม่ ได้กำหนดความหมายของคำว่าอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤษศาสตร์ สวนรุกขชาติ โดยการกำหนดที่ดินที่มีสภาพที่น่าสนใจสมควรแก่การอนุรักษ์ไว้เป็นแหล่งคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีส่วนร่วมในการตรวจสอบแนวเขต หรือช่วยเหลือพนักงาน เจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ได้มีการกำหนดบทบัญญัติ ข้อห้ามเด็ดขาดไม่ให้กระทำการใดๆในเขตอุทยานแห่งชาติ และกำหนดให้การกระทำใดๆ นอกเขตอุทยานแห่งชาติที่ส่งผลกระทบเสียหาย ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติถือว่าเป็นการกระทำความผิด  พร้อมเพิ่มอำนาจให้เจ้าหน้าที่สามารถสั่งให้ผู้ใดผู้หนึ่ง ออกจากเขตอุทยานแห่งชาติได้

ส่วนร่างพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า สาระสำคัญคือ กำหนดห้ามมิให้ผู้ใดครอบครอง นำเข้า หรือส่งออก หรือพยายามนำเข้าหรือส่งออก และนำผ่านสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าสงวน หรือซากสัตว์ป่าคุ้มครอง เว้นแต่เป็นไปตามที่พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้บัญญัติไว้ นอกจากนี้ยังมีกำหนดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยกำหนดที่ดินที่ยังไม่มีบุคคลใด มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยป่าสงวนแห่งชาติ และกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า