ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน แถลงว่า สหรัฐฯและเกาหลีเหนือมุ่งหน้าไปสู่การเผชิญหน้ากัน เปรียบเสมือนรถไฟ 2 ขบวนที่ต่างฝ่ายต่างเร่งความเร็วขึ้นเพื่อชนกันให้แหลกไปข้างหนึ่ง โดยไม่มีการหลีกทางให้อีกฝ่ายหนึ่ง ความตึงเครียดในเอเชียตะวันออกเริ่มสูงมากขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังเกาหลีเหนือปล่อยขีปนาวุธพิสัยไกล 4 ลูก ขณะเดียวกัน ระบบป้องกันขีปนาวุธ(ทาด)ของสหรัฐฯไปถึงเกาหลีใต้ในวันนี้ จีน คัดค้านเรื่องนี้มาโดยตลอด โดยนายหวังกล่าวถึงประเด็นนี้ว่าจะเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดที่จะกระทบต่อสัมพันธ์จีน-เกาหลีใต้
ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน เสนอบทวิเคราะห์ว่าเรื่องนี้อาจจะส่งเสริมให้ประเทศต่างๆในภูมิภาคนี้แข่งขันกันสะสมอาวุธมากขึ้น การที่ฝ่ายหนึ่งติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายเร่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เพื่อให้สามารถโจมตีระบบต้านขีปนาวุธของฝ่ายแรกให้สำเร็จ ชี้ว่า จีนอาจจะเพิ่มโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เช่นกัน นายหวังกล่าวว่า สหรัฐฯและเกาหลีใต้อาจจะช่วยลดความตึงเครียดในภูมิภาคนี้ด้วยการถอยมาคนละก้าวโดยการงดการจัดซ้อมรบประจำปีเนื่องจากเป็นเรื่องที่สร้างความหวั่นวิตกให้กับเกาหลีเหนือ ขณะเดียวกันเกาหลีเหนือก็ควรจะระงับโครงการทดลองอาวุธนิวเคลียร์
รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าวว่า บทบาทของจีนก็คือการส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้า เพื่อไม่ให้เกิดหายนะจากสงครามบนคาบสมุทรเกาหลี เป็นการส่งสัญญาณไฟแดงเตือนรถไฟทั้งสองขบวนคือสหรัฐฯและเกาหลีเหนือให้ชะลอความเร็วและหยุดรถ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุชนกัน
ด้านนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯจะเยือนกรุงปักกิ่ง ของจีน สัปดาห์หน้า เพื่อหารือกับรัฐบาลจีนเรื่องแนวทางการช่วยคลี่คลายความขัดแย้งบนคาบสมุทรเกาหลี
ทีมต่างประเทศ
CR:CNN