ประชุมมส.พิจารณาความผิดพระธัมมชโย/โฆษกรบ.แจงนายกฯไม่ได้ต้องการปรับขึ้นแวต/น้ำมันโลกร่วงต่อเนื่อง

10 มีนาคม 2560, 07:45น.


+++ความเคลื่อนไหวของการประชุมมหาเถรสมาคม พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า หลังจากรับหนังสือจาก พ.ต.ท. ปกรณ์ สุชีวกุล ผบ.สำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)  พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.ส.4 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และนายวิทยา นีติธรรม ผอ.กองกฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อขอให้นำเรื่องคดีความต่างๆเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย และพระธัมมชโย เข้ากราบทูลสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และที่ประชุม มส. เพื่อพิจารณาว่าความผิดทางคดีอาญาของพระธัมมชโย ในทางพระธรรมวินัย ถือว่ามีความผิดหรือไม่หรือมากน้อยเพียงใด



+++ดีเอสไอ จะเป็นข้อมูลกรณีที่พระธัมมชโย ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาการฟอกเงินและรับของโจร ส่วนของตำรวจ เป็นข้อมูลเกี่ยวกับคดีต่าง ๆ 346 คดี ดำเนินการกับพระธัมมชโย จาก สภ.คลองหลวง สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี สภ.อุ้มผาง จ.ตาก สภ.เกาะยาว จ.พังงา สภ.ภูเรือ จ.เลย บก.ป.และบก.ปทส. รวมทั้งออกหมายจับพระธัมมชโย ในฐานะส่วนตัว 24 หมาย และในฐานะนิติบุคคล 16 หมาย ขณะที่ ปปง. นำข้อมูลการเข้าอายัดทรัพย์ตามความผิดทางคดีอาญาดังกล่าว โดยจะนำเรื่องทั้งหมดเข้าหารือในมส. วันที่ 10 มี.ค. เป็นวาระจร เนื่องจากการประชุมมส.วาระปกติ ได้กำหนดวาระมาก่อนหน้านี้แล้ว



+++ประมาณ 08.30 น. ประตู 7 ดีเอสไอ พศ. เจ้าคณะจังหวัด และตัวแทนจากวัดพระธรรมกาย ร่วมกันแถลงข่าว ก่อนเข้าตรวจค้นพื้นที่โซน A โซน B ไม่ให้สื่อเข้าตอนตรวจค้น หลังจากนั้นมีรายงานว่า ช่วงบ่าย  ดีเอสไอ จะพาสื่อเข้าตรวจค้นอาคารบุญรักษา  



+++ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป. ได้ควบคุมตัว พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส อายุ 45 ปี ผอ.สำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย มาส่งต่อให้กับพนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดี ฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ภายหลังจากครบกำหนดหมายเรียกจากทางเจ้าหน้าที่แล้ว 2 ครั้ง แต่ยังไม่มีการออกหมายจับ  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่มาถึงเจ้าหน้าที่ก็ได้พาตัวพระสนิทวงศ์เข้าไปภายในห้องศูนย์ปฏิบัติการหรือ ศปก.คลองห้า ในทันที หลังจากที่มีการแจ้งข้อกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ได้อนุญาตให้พระสนิทวงศ์เดินทางกลับไปที่วัดพระธรรมกาย เนื่องจากเลยเวลาทำการส่งฝากขังศาลธัญบุรี โดยนัดมาเข้ารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ที่ศาลธัญบุรีอีกครั้งในวันนี้ เพื่อดำเนินการฝากขังตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป 



+++ด้านพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดี ดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีพระปลัดเสกสรรค์ อัตตทัมโม พระลูกวัดพระธรรมกาย และแกนนำคณะศิษยานุศิษย์ที่ตลาดกลางคลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวว่า ศาลกำหนดเงื่อนไขห้ามเข้าพื้นที่ควบคุมวัดพระธรรมกาย ตามประกาศใช้ มาตรา  44 และห้ามให้สัมภาษณ์ในลักษณะยุยงปลุกปั่น แต่เจ้าหน้าที่พบว่าหลังจากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว พระปลัดเสกสรรค์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์ จึงกำลังให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาว่ากระทำผิดเงื่อนไขศาลให้ประกันตัวหรือไม่ และหากพบว่าผิดเงื่อนไขมีเหตุขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนประกันได้ และอยู่ระหว่างตรวจสอบเรื่องเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารของพระเสถียร บ่อคำ ซึ่งเป็นหนึ่งในพระสงฆ์ถูกควบคุมตัวที่ตลาดป้าเช็ง



+++ความเคลื่อนไหวเรื่องราคาน้ำมัน สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 1 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 92 เซนต์ ปิดที่ 52.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือน    ตลาดน้ำมันขยับลงต่อเนื่อง หลังจากเมื่อวันพุธ ดิ่งเกือบ 3 ดอลลาร์ จากปัจจัยคลังน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นอีก 8.2 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์   ในรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ ยังพบว่ากำลังผลิตภายในประเทศรายสัปดาห์ ยังเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี พร้อมปรับเพิ่มประมาณการกำลังผลิตสำหรับปีนี้และปีหน้าด้วย   



+++ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมัน ทำให้หุ้นกลุ่มพลังงาน และตลาดห้นสหรัฐฯ แกว่งตัวลงในช่วงบ่าย ก่อนปิดบวกเพียงในกรอบแคบๆ  ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 2.46 จุด ปิดที่ 20,858.19 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.89 จุด  ปิดที่ 2,364.87 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 1.26 จุด ปิดที่ 5,838.81 จุด ดัชนีพลังงานของเอสแอนด์พี 500 ลดลงร้อยละ 0.5 หลังราคาน้ำมันดิบร่วงลงอีกร้อยละ 2 สู่ระดับต่ำสุดของปีนี้  วอลล์สตรีท บวกเพียงเล็กน้อย แม้ว่าธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) แถลงยืนยันในโปรแกรมกระตุ้นเศรษฐกิจ และไม่พบเห็นภัยคุกคามของภาวะเงินฝืดอีกต่อไป และเน้นย้ำพบสัญญาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน



+++ราคาทองคำ ขยับลงเป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน หลังธนาคารกลางยุโรป มีความกังวลน้อยลงต่อภาวะเงินฝืด และนักลงทุนจับตาธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ปิดลบ 6.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,203.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.2560



+++เรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม หลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. กล่าวถึง งบประมาณของประเทศว่า ประเทศไทยอยู่ด้วยระบบทุนนิยมเสรี ซึ่งเป็นรายได้ของประเทศ และมีภาษีจากข้าราชการที่มีการเสียภาษีเต็มจำนวนทั้งหมด ขณะที่ประชาชนจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือแวต ซึ่งยังอยู่ที่ร้อยละ 7 มาหลายปี แต่หากเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1 จะทำให้รายได้ประเทศเพิ่มขึ้นกว่าแสนล้านบาท โดยอยากขอร้องว่าจะมีการเสียสละได้หรือไม่ เพราะจะทำให้งบประมาณของรัฐเพิ่มขึ้น เพื่อเอางบประมาณดังกล่าวไปทำในสิ่งที่ประชาชนเรียกร้อง ขณะเดียวกันราคาสินค้าไม่ควรปรับเพิ่มขึ้นมากนัก ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ตูดขาด เพราะเดินด้วยความระมัดระวังและมีภูมิคุ้มกันอยู่ตลอด สามารถบริหารจัดการได้ เงินกู้ต่างๆ อยู่ในกรอบทั้งหมด และหนี้สาธารณะลดลง



+++นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า นายกฯไม่ได้บอกว่าจะขึ้นแวตร้อยละ 1 แค่ถามประชาชนว่ารับได้ไหมถ้าจะขึ้นแวตร้อยละ 1 แล้วทำให้ประเทศมีเงินเป็นแสนล้าน ในส่วนตัวคิดว่า ประชาชนตอบว่ารับไม่ได้ ดังนั้นจึงยืนยันว่าจะไม่มีการขึ้นแวตอีกร้อยละ 1 อย่างแน่นอน และกระทรวงการคลังเตรียมเสนอต่ออายุแวตออกไปอีก 1 ปี เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศกำลังฟื้นตัว จึงยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการขึ้นแวต ฝากไปบอกกันด้วยนะว่าอย่าไปพาดหัวให้ผมไปโต้แย้ง หรือสวนกับนายกฯ



+++ด้าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวอาจเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนไปจากเจตนาที่แท้จริงของนายกฯ นายกฯเพียงต้องการชี้ให้เห็นว่าเมื่อประชาชนเสนอข้อเรียกร้องขอความช่วยเหลือมายังรัฐบาลหลายเรื่อง แต่รายได้หลักของรัฐบาลมาจากการเก็บภาษีแต่เพียงอย่างเดียว แล้วจะนำเงินที่ไหนไปจ่าย ฉะนั้น หากประชาชนต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือ หรือได้รับเงินจากภาครัฐ ประชาชนก็ต้องรู้จักเสียสละด้วย โดยได้ยกตัวอย่างว่า หากประชาชนจ่ายภาษีแวตเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 1 ก็จะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 1แสนล้านบาท  ยืนยันว่านายกฯไม่มีนโยบายปรับขึ้นภาษีดังกล่าว



+++ขณะที่ นายประจวบ ตยาคีพิสุทธิ์ โฆษกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย กล่าวว่า บริษัทผู้ผลิตสมาชิกของสมาคมได้มีการหารือกันเป็นระยะๆ ถึงแนวคิดการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณสูงของภาครัฐ แต่ถึงขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป คงต้องใช้เวลา ที่แต่ละบริษัทต้องประเมินและคาดการณ์ผลกระทบต่างๆ รวมถึงแผนการรองรับต่อไป หากจะจัดเก็บภาษีเพิ่มเติม ตอนนี้ ยังไม่เห็นแนวทางที่ชัดเจนของการจัดเก็บภาษี ทำให้การพูดคุยกันของสมาชิกเป็นการคาดการณ์เท่านั้น ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการบริหารของสมาคม ปลายเดือนมีนาคมนี้คงจะมีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ด้วย



+++เช้านี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ที่คดีถึงที่สุดแล้ว ที่ลานอเนกประสงค์   กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ บางเขน



+++วงการสื่อมวลชนสูญเสีย นางยุวดี ธัญญสิริ หรือเจ๊ยุ อดีตผู้สื่อข่าวอาวุโสประจำทำเนียบรัฐบาล  ที่เสียชีวิตอย่างสงบเมื่อเวลา 03.30 น. รวมอายุ 71 ปี ครอบครัวอยู่ระหว่างเตรียมเรื่องพิธีทางศาสนา เจ๊ยุ เข้ารับการรักษาตัว ที่ห้องผู้ป่วยวิกฤติ (ICU) ชั้น 17 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. จากอาการถ่ายเป็นเลือดจนช็อคหมดสติ และมีอาการภาวะหัวใจหยุดเต้น จนแพทย์ต้องปั๊มหัวใจช่วยชีวิต เจ๊ยุ เป็นภรรยาของ พล.อ.สิริชัย ธัญญสิริ อดีตปลัดกลาโหม จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ สาขาสื่อมารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นางยุวดี เป็นนักข่าวอาวุโสหญิง ที่คร่ำหวอดในวิชาชีพสื่อสารมวลชนมานานกว่า 40 ปี ในงานด้านสายการเมือง ผ่านการทำงานมาหลายรัฐบาล



CR:คลังภาพ รัฐบาลไทย



 



 

ข่าวทั้งหมด

X